เหตุการณ์ฆ่าเด็กชายสามพี่น้อง
อายุ 6
ปี 9 ปี และ
11 ปี
เป็นครอบครัวของ นายเจ๊ะมุ มะมัน กับ นางพาดีละห์ แมยู เหตุเกิดที่บ้านปะลุกาแปเราะ ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อค่ำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา โดยเด็กชายสามพี่น้องเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่ นายเจ๊ะมุ กับ
นางพาดีละห์ พ่อกับแม่ของเด็ก ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะนางพาดีละห์ฯ อาการสาหัส เพราะกำลังตั้งครรภ์ได้
4 เดือนด้วย
หลังเกิดเหตุมีการปล่อยข่าวและกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านและภาคส่วนต่างๆ
ในพื้นที่ว่าอาจเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ นายเจ๊ะมุฯ ได้ให้สัมภาษณ์หลายครั้ง
ต่างไม่ตรงกันกับสาเหตุที่แท้จริงของคนร้าย ที่มุ่งสร้างปมชนวนสังหารคนในครอบครัวของตนเอง
แต่ในส่วนตัวของนายเจ๊ะมุฯ ยังมีคดีติดตัวข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างประกันตัวต่อสู้ทางคดีอยู่
ส่วนคดีความมั่นคงที่เคยถูกควบคุมตัวเมื่อปลายปีก่อนนั้น ศาลได้ยกฟ้อง และคดีถึงที่สุดแล้ว
จากเหตุการณ์อันเศร้าสลดต่อการสูญเสียชีวิตของเด็กถึง
3 ชีวิตของครอบครัวมะมันในครั้งนี้ หลายองค์กรได้ออกมาประณามการก่อเหตุต่อเด็กทั้ง 3 คน ดังกล่าว โดยเฉพาะการออกแถลงการณ์ขององค์กรสำคัญระดับโลกอย่างองค์กรยูนิเซฟ
ซึ่งนายพิชัย ราชภัณฑารี ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประเทศไทย ระบุว่า ยูนิเซฟ ขอประณามการสังหารเด็กผู้บริสุทธิ์ในครั้งนี้ และเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อเด็กในทุกรูปแบบ
หน่วยงานในพื้นที่ทั้งทหารและตำรวจต่างให้ความสำคัญต่อคดีดังกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานด้านความมั่นคง ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค
4) พลโทสกล ชื่นตระกูล ถึงกับลงพื้นที่ไปดูสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเอง
ดังที่เป็นข่าวมีการนำเสนอของสื่อมวลชนทุกแขนงไปแล้วนั้น แต่เป็นที่น่าสังเกตทั้งๆ
ที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญด้วยการไปเยี่ยมครอบครัวและขอพบนายเจ๊ะมุฯ กับภรรยา
แต่กลับถูกกลุ่ม PerMAS กีดกันไม่ให้เข้าถึงตัว
โดนบล็อกตัวตั้งแต่นอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ถัดมาเพียงไม่กี่วัน กลุ่ม PerMAS กลับหิ้วปีกนายเจ๊ะมุ มะมัน
ขึ้นเวทีแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี พร้อมๆ กับเชิญสื่อต่างประเทศ เพื่อเป็นการประโคมข่าวที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ซึ่งสอดคล้องกับการโฆษณาชวนเชื่อของ BRN ในการบิดเบือนข้อเท็จจริงทุกรูปแบบในการโยนความผิดว่าเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำ
จะเห็นได้ว่ามีการวางแผนเตรียมการเป็นขั้นเป็นตอน มีการทำงานเป็นทีม
ตั้งแต่การลงมือก่อเหตุ มีการปล่อยข่าวลือ
ประโคมข่าวโดยอาศัยสื่อมวลชนที่เป็นแนวร่วมมุมกลับ ในส่วนงานด้านการทหารสั่งการ RKK
เข่นฆ่าประชาชนชาวไทยพุทธ ฆ่าพระ เด็ก สตรี และคนชรา
พร้อมกับการสร้างความชอบธรรมด้วยการโปรยใบปลิวเป็นการเอาคืนจากการเสียชีวิตของเด็ก
3 ศพ
ความสัมพันธ์เชิงลึกของกลุ่ม PerMAS กับ BRN ได้ตอกลิ่มย้ำความชัดเจนดังที่ทุกคนตั้งข้อสงสัยก่อนหน้านี้ว่ามีการทำงานประสานสอดรับกันในเชิงนโยบายโดย
BRN เน้นงานด้านทหาร กลุ่ม PerMAS มุ่งงานด้านการเมืองโดยมีเป้าประสงค์เดียวกันคือมุ่งไปสู่เอกราช
กรณีความสูญเสียของครอบครัวนายเจ๊ะมุ มะมัน หรือเป็นเพียงการวางแผนที่แยบยลของกลุ่มขบวนการเองที่ลงมือฆ่าเด็ก
แล้วสร้างสถานการณ์โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ
อาศัยสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวใหญ่เพื่อแย่งชิงพื้นที่สื่อ ทำการประชาสัมพันธ์
โฆษณาชวนเชื่อทุกรูปแบบให้ประชาชนเห็นคล้อยตาม
แล้วสั่งการให้กลุ่ม PerMAS และกลุ่ม NGOs บางกลุ่มซื้อตัวนายเจ๊ะมุ มะมัน บล็อกตัวไม่ให้หน่วยงานภาครัฐเข้าถึง
จัดฉากการให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้เป็นไปในทิศทางที่ขบวนการ BRN ต้องการ ในการสร้างข่าวสื่อไปยังต่างประเทศ
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ขบวนการ BRN และกลุ่ม PerMAS โคตรเลวมากๆ
ที่ร่วมกันวางแผนกระทำความชั่วกับเด็กที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของปัญหาไฟใต้
ส่วนนายเจ๊ะมุ มะมัน พ่อของเด็กแท้ๆ ที่เสียชีวิตหากโดน PerMAS ซื้อตัวโดยมีกลุ่ม BRN อยู่เบื้องหลังก็ไม่รู้จะสรรหาคำด่าคำไหนดีมาด่านายเจ๊ะมุฯ
กับการแลกชีวิตลูก เพียงแค่แลกกับเศษเงินของกลุ่ม PerMAS ทั้งๆ
ที่ก่อนหน้านี้ได้รับเงินเยียวยาจากหน่วยงานภาครัฐไปแล้ว
จากการเสียชีวิตบุตรทั้ง 3 คน เป็นเงิน 1,500,000 บาท กรณีนางพาดีละห์ แมยู
ภรรยาท้อง 4 เดือน ได้รับบาดเจ็บ 50,000
บาท และนายเจ๊ะมุ ที่ได้รับบาดเจ็บ 10,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,560,000 บาท นี่คือกระบวนการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มขบวนการ BRN โดยมีกลุ่ม PerMAS เดินเกมส์ แต่คงอีกไม่นานความจริงจะปรากฏ จะเกิดความกระจ่าง จะได้รู้ข้อเท็จจริงกันเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุและจะมีการแถลงเป็นทางการ ให้ประชาชนได้รู้กันว่าฆาตกรตัวจริงที่ลงมือก่อเหตุใจเยี่ยงสัตว์ในครั้งนี้จะเป็นโจรใต้
BRN หรือเจ้าหน้าที่รัฐกันแน่
ตนไทยปลายด้ามขวาน
*********************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น