บินหลา ปัตตานี
ชินทาโร่ ฮารา ซามูไรรับจ้างผู้สร้างความปั่นป่วน,
บ่อนทำลายประเทศที่เข้ามาอาศัยพักพิง และสร้างความแตกแยกใน จชต.
ในคราบของนักวิชาการ สถานะอำพราง อาจารย์ประจำภาควิชาภาษามลายู
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มอ.ปัตตานี เป็นมุสลิมหลังเข้ารับอิสลามเมื่อ ๑๐
ปีก่อน นามอาหรับ บาดีอุซซามาน เริ่มต้นจากการเรียนภาษามลายูที่มหาวิทยาลัยเคโอะ
ประเทศญี่ปุ่น ติดตามครูชาวมาเลเซียมาลงพื้นที่รัฐยะโฮร์ มาเลเซีย เรียนต่อสาขามลายูศึกษา
ที่มหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศมาเลเซีย มาเก็บข้อมูลที่ปัตตานี
ก่อนตัดสินใจย้ายถาวรและสมัครเป็นอาจารย์ มอ.ปัตตานี
ได้ซึมซับความเชื่อและวิถีชีวิตมุสลิมจนนำไปสู่การรับอิสลาม
และผันชีวิตเป็นแนวร่วมของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนในปีกด้านการเมือง โดยอ้างในเรื่องของความเป็นธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน
เพื่อสร้างความชอบธรรมในการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการปฏิบัติงานของ จนท.รัฐ
และเรียกร้องในเรื่องต่างๆ และใช้อำนาจหน้าที่ความเป็นอาจารย์บิดเบือนข้อเท็จจริง
ในการปลุกระดมบ่มเพาะให้กับนักศึกษา เป็นผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
เป็นที่ปรึกษาร่วมในชุมนุมกลุ่มเรียกร้องและร่วมประชุมสัมมนากับกลุ่มแนวร่วม
นอกจากนี้ยังเขียนบทความลงในสื่อโซเชียลมีเดียสร้างความแตกแยกในสังคม โดยเฉพาะใน
จชต. อีกด้วย
ผลงานความเลว ของชินทาโร่ สุนัขรับใช้ BRN-ผู้ให้กำเนิดวาทกรรม
รัฐไทย นักล่าอาณานิคมสยาม โดยไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ว่าพื้นที่ปัตตานี
ปกครองโดยประเทศสยามมาก่อนเป็นขี้ค่าของ BRN (ฮาซัน ตอยิบ)
ในการแปลข้อเรียกร้อง ๕ ข้อ ของ BRN ที่ลงใน www.youtube.com และแปลเอกสาร, ป้ายผ้าของขบวนการ BRN เป็นภาษาไทย,
เป็นกระบอกเสียงของ ฮาซัน ตอยิบ
ผ่านทางสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน
-
ร่วมเสวนากับองค์กรภาคประชาสังคมที่เป็นแนวร่วมและให้การสนับสนุนกลุ่มขบวนการ เช่น
กลุ่ม PerMASศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้, มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม,
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันสลาตัน, สำนักสื่อ WATANI ซึ่งแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ
บ่อนทำลายชาติไทย ปลุกระดมสร้างความแตกแยกในสังคม เช่น แสดงความคิดเห็นว่า
การเรียกร้องของชาวปาตานีถูกปฏิเสธมาตลอดทำให้คนมลายูบางกลุ่มต้องใช้อาวุธและเข้าในป่า
แม้ส่วนตัวไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบแต่การเรียกร้องสิทธิของขบวนการ และคนใน จชต. เป็นสิ่งที่ชอบธรรม
แสดงให้เห็นชัดว่า ชินทาโรเป็นแนวร่วมของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนอย่างแน่นอน
- นำองค์กรภาคประชาสังคม และนักข่าวลงพื้นที่พบปะผู้ที่ได้รับผลกระทบ
โดยอ้างความยุติธรรม เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน แล้วนำเสนอข้อมูลฝ่ายเดียว
ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงใส่ร้าย จนท. โดยอ้างว่ารับทราบจากประชาชนในพื้นที่
- มีการเขียนบทความบิดเบือนความจริงที่สื่อออกมาในเชิงลบต่อ จนท.
ล่าสุดเขียนลงใน เว็บไซต์ Deepsouthwatchเมื่อ ๖ ก.ค.๕๗ เรื่อง รายงานการประชุมกับฝ่ายทหาร
มีการเขียนบทความภาษาอังกฤษ บิดเบือนข้อเท็จจริงโดยสรุปดังนี้
ประการแรก
เข้าใจว่า จนท.ทหาร จะจับตัวและไม่แน่ว่าจะขัง ๗ วัน นั้น ชินทาโร่ วิตกในความผิดที่ตนเคยกระทำเลยคิดไปเองว่าทหารจะจับตัว
ตามกฎอัยการศึกทหารมีสิทธิเรียกหรือเชิญมาได้ถ้าเป็นบุคคลต้องสงสัยและมีพยานหลักฐานเกี่ยวกับการทำผิดถึงจะควบคุมตัวไว้ต่อเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม
มิใช่จะใช้อำนาจตามอำเภอใจที่จะกักขังใครก็ได้ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็จะปล่อยตัวให้กลับบ้านไป
ประการที่สอง
ในเรื่องการวิจารณ์การทำงานของ จนท.รัฐ และ คสช. ที่แก้ตัวว่าได้หยุดการดำเนินการใดๆ ผ่านสื่อตั้งแต่ได้มีการยึดอำนาจการปกครอง
แสดงว่ายอมรับว่าก่อนที่ คสช. จะทำรัฐประหาร เมื่อ ๒๒ ก.ค.๕๗ได้เคยดำเนินการ
ชินทาโร่ ประสาทคุณเลอะเลือนแล้ว คุณไม่รู้หรือกฎอัยการศึกใน จชต. ประกาศตั้งแต่ปี
๔๗ แล้วไม่ใช่มีผลบังคับเมื่อ คสช. ประกาศ เมื่อ ๒๒ พ.ค.๕๗ คุณประพฤติไม่ถูกต้องก่อนที่
คสช.จะประกาศก็ผิดเหมือนกัน
จนท.รัฐมีสิทธิ์ควบคุมตัวได้ ๗ วัน เหมือนกัน เมื่อเห็นว่ามีความผิดแต่ที่ผ่านมาจนท.รัฐ
พยายามจะไม่ใช้อำนาจเต็มตามที่กำหนดเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขจะใช้อำนาจเมื่อถึงคราวจำเป็นเท่านั้น
แต่ชินทาโร่ สมองกลวงคิดว่าสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำได้ไม่เห็นเป็นไรไอ้คุณโง่รู้ไว้ที่ทำก่อนนั้นนะก็ผิดเหมือนกัน
แต่ จนท. พยายามผ่อนปรนให้
ประการที่สาม การพบ
มทภ.๔ ในวันที่ ๑๘ มิ.ย.๕๗ เกรงว่าจะถ้าถูกจับ จะเป็นลางร้ายกับภรรยาที่ตั้งท้องได้
๓ เดือน กำลังเตรียมเดินทางไปฮันนีมูนที่อินโดนีเซีย
นี่ก็เช่นกันไม่ได้ทำผิดจะกลัวอะไร หรือทำชั่วไว้มากมายจึงกลัวถูกจับ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เป็นสากลและมีความเป็นมาตรฐานและยุติธรรมไม่สามารถจับผู้ที่บริสุทธิ์ได้
ถ้าไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว
ประการที่สี่
การที่กล่าวว่าการสวดขอสันติสุขโดยผู้นำศาสนาในท้องถิ่น
ดำเนินการจัดโดยฝ่ายทหารเป็นการกล่าวที่บิดเบียนจากความจริง
ทหารทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้การสนับสนุนเท่านั้น
ประการที่ ๕ ที่
มทภ.๔ ถามว่า คุณจะมีความสุขไหมถ้าผมทำสิ่งเหล่านั้นในประเทศของคุณ
เช่นเดียวกับที่คุณทำในประเทศของผม ชินทาโร่ ตอบว่า
ผมมีความสุขมากและเคารพในสิทธิของเขา ต้องเรียกว่าไอ้โคตรเลว รู้ว่าคนอื่นมาบ่อนทำลายชาติตนยังยอมให้เขาทำ
มีความสุขและเคารพในสิทธิของเขาที่จะสร้างความแตกแยกในชาติของตน อย่างนี้เขาเรียกว่าคนขายชาติ
พฤติกรรมที่ชินทาโร่
ทำเปรียบเสมือนอสรพิษที่ทำร้ายและทรยศต่อประเทศที่ให้ที่อยู่อาศัย และที่ทำกินจนมีอาชีพการงานที่มั่นคง ชินทาโร่ คุณเคยนึกถึงบุญคุณของแผ่นดินไทยบ้างไหม
คุณรู้จักคำว่ากตัญญูต่อแผ่นดินที่ให้ที่พักพิงบ้างหรือไม่ ชาวอาทิตย์อุทัย
ยึดถือเรื่องซื่อสัตย์กตัญญูเป็นที่หนึ่ง
คุณเป็นผีป่าซาตานมาจากไหนจึงไม่มีสิ่งนี้ในสันดาน
ทำให้ประเทศญี่ปุ่นเสียชื่อเพราะเวตาล ชินทาโร่ชิงสุนัขมาเกิด
-------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น