บทพิสูจน์ปอเนาะสีเทากับวิสามัญ 3 โจรใต้
‘อิมรอน’
9 มกราคม 2558 เป็นอีกวันหนึ่งที่ได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งนำโดยเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี
และได้สนธิกำลังร่วมอีกหลายฝ่าย ที่บ้านหลังหนึ่ง บริเวณโรงเรียนยุวอิสลาม
บ้านน้ำใส ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุการณ์นี้มีโจรใต้ฟาตอนีเสียชีวิต 3
ราย หลบหนีรอดไปได้ 2 ราย จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 ราย นำตัวมาทำการซักถามขยายผล
เหตุการณ์ครั้งนี้ตามคาดว่าจะต้องมีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
ตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อข่าวได้แพร่สะพัดออกไปมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในร้านน้ำชา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งส่วนมากจะเป็นแนวร่วมเครือข่ายโจรใต้ฟาตอนี
ได้ทำการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐกระทำเกินกว่าเหตุ
ชี้ให้เห็นว่าในสถานศึกษาไม่ควรถูกใช้เป็นสมรภูมิรบ
เจ้าหน้าที่ฆ่าเด็กนักเรียนปอเนาะ และเจ้าหน้าที่ยัดอาวุธปืนกับศพผู้เสียชีวิต
และอีกมากมายที่มีการบิดเบือนกัน…
ใครจะออกมาเคลื่อนไหวอะไรน่าจะมีเหตุมีผลมากกว่านี้
เพราะทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ปะทะกับโจรใต้ฟาตอนีจนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต
แนวร่วมเหล่านี้ต่างดาหน้าออกมาบิดเบือนข้อมูลสร้างความสับสนมาโดยตลอด
แต่ความจริงก็คือความจริงเพราะผู้ที่เสียชีวิตต่างเป็นโจรใต้ฟาตอนีตัวเป้ง
มีหมายจับ ป.วิ.อาญาหลายหมาย เคยก่อเหตุสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินต่อเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนต่างเคยถูกโจรใต้ฟาตอนีกลุ่มนี้ลงมือกระทำอย่างโหดเหี้ยม
ไร้ความปราณี ผู้เขียนจะแฉประวัติความชั่วโจรใต้ฟาตอนี 3 ราย ให้เห็นกันครับ...
นายมะรูดิน
ตาเฮ รายแรกถือได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ หัวหน้า Kompi ของขบวนการโจรชั่ว
เสียชีวิตบริเวณห้องพักนักเรียนร้าง ด้านหลังอาคารเรียน พร้อมตรวจพบปืนพกบริเวณศพ
นายมะรูดินฯ เป็นหัวหน้า Kompi ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดง, อำเภอมายอ และอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 5 หมาย ด้วยกัน
หมายจับที่ 1 เหตุลอบวางเพลิงเผาอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านพ่อมิ่ง
เมื่อ 8 มิถุนายน 2550
หมายจับที่
2 เหตุระเบิดขบวนรถยนต์ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล
เมื่อ 26 เมษายน 2554
หมายจับที่ 3
เหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ตำบลถนน อำเภอมายอ
จังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555
หมายจับที่ 4
เหตุลิบยิงนางสาวตติยารัตน์ ช่วยแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาโง และนายสมศักดิ์
ขวัญมา อาจารย์โรงเรียนบ้านบาโง เสียชีวิตทั้ง 2 คน เมื่อ 11 ธันวาคม 2555
หมายจับที่ 5 เหตุลอบยิงนายนิมุ
เจ๊ะอาแว ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมโพธิ์ เสียชีวิตและพวกได้รับบาดเจ็บ
เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2556
นายปาตะ
ลาเต๊ะ รายที่สองเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการอำเภอทุ่งยางแดง
อดีตทหารกองประจำการ สังกัดกองพลนาวิกโยธินกองทัพเรือ เสียชีวิตบริเวณห้องพักนักเรียนร้าง
ด้านหลังอาคารเรียน พร้อมตรวจพบปืนพกบริเวณศพ
นายปาตะฯ เป็นครูสอนการใช้อาวุธให้กับสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงฝึกใหม่
มีหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 3 หมายด้วยกัน
หมายจับที่
1 เหตุลอบยิงนายสุรพล แดงประเทศ เสียชีวิต เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2556
หมายจับที่ 2
เหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ตำบลถนน อำเภอมายอ
จังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555
หมายจับที่ 3
เหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อน เสียชีวิต 5 นาย เมื่อ 11 กันยายน
2556
นายมาหะมะซาบรี
ดอเล๊าะ รายที่สามซึ่งเป็นเพื่อนนายบัดรุดีน แจ๊ะแว
ลูกชายของบาบอโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิ
เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ
เสียชีวิตบริเวณภายในบ้านของบาบอพร้อมปืนเล็กยาว M-๔ คาร์บาย
สืบเนื่องจากได้หลบซ่อนตัวบริเวณฝ้าเพดานบ้านหลังดังกล่าว
ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นห้องลับ
นายมาหะมะซาบรีฯ
เคยถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 เป็นผู้ต้องสงสัยเหตุลอบยิงอาสาสมัครทหารพรานอุสมาน จะรง เสียชีวิตในพื้นที่ อำเภอสายบุรี
จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 แต่จากผลการซักถามได้ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวในเวลาต่อมา
นี่คือผลงานความชั่วของโจรใต้ทั้ง
3 ราย ที่ได้กระทำมาต่างกรรมต่างวาระสะสมผลกรรมที่ได้ก่อไว้ อัลเลาะห์ท่านเห็น อัลเลาะห์ท่านรู้ดีว่าบุคคลเหล่านี้ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกใบนี้อีก
จากการบิดเบือนในเครือข่ายสังคมออนไลน์
กล่าวหาเจ้าหน้าที่ยัดปืน M-๔ คาร์บาย ให้คนร้าย หรือพวกบอกว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เป็นนักเรียนปอเนาะบ้างแล้วแต่จะมั่วกันไป
นอกจากนี้ยังมีหลายจุดที่กลุ่มแนวร่วมไม่ยอมรับ หากท่านผู้อ่านได้อ่านข้อมูลประวัติความชั่วของแต่ละคน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ตกเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อของแนวร่วมโจรใต้ฟาตอนีที่ออกมาบิดเบือนข้อมูลผิดๆ
กัน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรามาลองตั้งคำถามเล่นๆ
กันดูว่าทำไม? จึงเกิดการสูญเสียถึง 3 ศพ ทั้งๆ
ที่เจ้าหน้าที่รัฐพยายามเกลี้ยกล่อมนานนับ 9 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล แต่มีการโฆษณาว่าเจ้าหน้าที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์
กระทำเกินกว่าเหตุ ใช้อาวุธปืนในสถานศึกษา..
1. ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงทำไม?
ไม่ยอมให้ควบคุมตัวแต่โดยดี แถมมีการเปิดฉากยิงเจ้าหน้าที่
อย่าคิดนะครับว่ามีแค่ปืนพก มีทั้งปืน AK – 102, ปืนเล็กยาว M-4 Cabine อีกด้วย แถมมีการขว้างระเบิดเพื่อเปิดทางในการหลบหนีถึง
2 ลูกด้วยกันแต่โชคดีที่ระเบิดด้าน แค่นี้ก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นโจรหรือเปล่า?
2. นายอับดุลเลาะมัน เจ๊ะแว บาบอเจ้าของโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิจะไม่รู้เห็นเลยหรือว่ามีการซ่องสุมของโจรใต้ในบ้านของตัวเอง
และกลุ่มโจรใต้ที่มาหลบซ่อนตัวเหล่านี้มีถึง 5 คนด้วยกัน แต่ละคนมีหมายจับ
ป.วิ.อาญาทั้งนั้น เรื่องนี้น่าสงสัยจริงๆ อีกทั้งฝ้าเพดานบ้านของบาบอมีห้องลับใช้ในการหลบซ่อนตัว
ซึ่งนายมาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ
โจรใต้รายที่สามที่เสียชีวิตขึ้นไปหลบในห้องลับดังกล่าว
3. ในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการจากเบาไปหนัก
คือใช้การเจรจา โดยให้ผู้นำศาสนาไปพูดเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว อีกทั้งนายบัดรุดีน เจ๊ะแว
ลูกชายบาบอเจ้าของโรงเรียนได้เข้าไปชักชวนให้ออกมามอบตัวถึง 3 ครั้งแต่ได้รับการปฏิเสธไม่ยอมมอบตัว
แถมยังประกาศจะสู้ตายอีก พฤติกรรมเช่นนี้บ่งบอกได้เลยว่าบุคคลเป้าหมายเหล่านี้กระทำความผิดมาจริงหรือไม่?
ฝากให้ผู้อ่านลองคิดดูกันครับ..
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนปอเนาะครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยืนยัน
และเป็นข้อมูลอย่างดีที่สนับสนุนแนวความคิดความเชื่อที่ว่าสถาบันปอเนาะ
หรือโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามบางแห่งมีการบ่มเพาะ มีการซ่องสุมกำลัง
เป็นที่หลบซ่อนตัว ซุกซ่อนอาวุธวัตถุระเบิด
และเป็นสถานที่ในการวางแผนในการก่อเหตุของแกนนำแนวร่วมในพื้นที่ หรือบาบอเจ้าของโรงเรียนจะปัดความรับผิดชอบไม่รู้ไม่เห็นด้วย..ท่านผู้อ่านลองใช้สติพิจารณาเอาว่าจริงหรือไม่จริง?
เสียดายที่บทความ ‘ปอเนาะสีเทา’ ซึ่งเขียนโดย;อับดุลเลาะ วันอะฮ์หมัด เรื่องสั้นรางวัลชมเชยในโครงการ
‘เรื่องดีๆ ที่บ้านเรา ประจำปี 2557’
โดยกระทรวงวัฒนธรรม มีความพยายามสื่อให้สาธารณชนและผู้อ่านได้รับรู้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐไปรังแกโรงเรียนปอเนาะ
หลายต่อหลายครั้งที่จับได้คาหนังคาเขากลับไม่ยอมรับความจริง..และครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นบทพิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อได้อย่างลงตัวว่า‘ปอเนาะ’คือ “แหล่งบ่มเพาะ มีการซ่องสุมกำลัง
เป็นที่หลบซ่อนตัว ซุกซ่อนอาวุธวัตถุระเบิด และเป็นสถานที่ในการวางแผนกระทำความชั่วของขบวนการโจรใต้...”อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..
----------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น