‘อิมรอน’
ปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์
หรือ“ปอเนาะประตูช้าง”มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่?
ยังคงเป็นปัญหาคาใจหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารบุกค้นถึงสองวันเต็มได้ของกลางเพียบ
ก่อนหน้านี้“อาเยาะ”(Ahli jawattan kerja kampong) หรือหมู่บ้านจัดตั้งของกลุ่มขบวนการที่โจรใต้ฟาตอนีใช้เป็นที่หลบซ่อน
กำบัง และอำพรางตัวให้รอดพ้นจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่หลังจากการก่อเหตุ กลุ่มขบวนการยังใช้“อาเยาะ”เป็นสถานที่ปลุกระดมบ่มเพาะแนวความคิดให้กับมวลชน
เพื่อไว้คอยสนับสนุนช่วยเหลือนักรบ RKK ในการก่อเหตุสร้างเหตุการณ์ในพื้นที่
นอกจาก“อาเยาะ”ที่กลุ่มขบวนการได้ใช้เป็นแหล่งบ่มเพาะแล้ว
หน่วยงานความมั่นคงยังประเมินและตกผลึกว่ากลุ่มขบวนการยังมีการใช้“สถาบันปอเนาะ”และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเป็นแหล่งบ่มเพาะทางความคิดให้กับเยาวชนที่อยู่ในวัยเรียนต่อต้านอำนาจรัฐ
จึงไม่น่าแปลกใจที่ยังคงมี“นักรบรุ่นใหม่”ถูกผลิตออกมาทำการเคลื่อนไหวก่อเหตุเย้ยกฎหมายรัฐบาลไทยมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา
จาก...ข่าวครึกโครมโด่งดังครั้งแล้วครั้งเล่าที่มีการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาศัยสถาบันปอเนาะเข้าไปหลบซ่อนตัว
ซึ่งในบางครั้งได้เกิดการปะทะนำไปสู่การสูญเสีย
และล่าสุดเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์
ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านอาโห ตำบลสะดาวา
อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 18, 19 กุมภาพันธ์ 2558
ซึ่งการปิดล้อมปอเนาะ สืบเนื่องมาจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า
นายอับดุลเลาะ สาแม บุคคลเป้าหมาย ป.วิอาญา
ได้เข้ามาหลบซ่อนพักพิงภายในสถาบันปอเนาะ นัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์
(ปอเนาะประตูช้าง) หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ช่วยส่วนรวม
และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 จึงได้เข้าติดตามจับกุมและบังคับใช้กฎหมาย
ซึ่งบุคคลเป้าหมายอาจจะไหวตัวทันได้ทำการหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการติดตามจับกุม
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มโจรใต้ฟาตอนีใช้สถาบันปอเนาะเป็นแหล่งซ่องสุมกำลัง
ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว ซ่อนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ
พอเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาถูกกระชากหน้ากากที่แท้จริงให้สังคมรับรู้ กลับมาตีโพยตีพายโดนกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ
การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการเข้าติดตามจับกุมโจรใต้ฟาตอนีในสถาบันปอเนาะประตูช้างไม่ได้สูญเปล่าจากคว้าน้ำเหลวบุคคลเป้าหมายได้ไหวตัวหลบหนีไปเสียก่อน
แต่เมื่อมีการขยายผลพิสูจน์ทราบกลับพบอาวุธปืนสงคราม และอุปกรณ์ประกอบระเบิด รวมทั้งสิ่งของต้องสงสัยจำนวนทั้งสิ้น
95 รายการด้วยกัน จากการเข้าตรวจสอบ 8 จุด
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน
8 คน หลังดำเนินการซักถามหาข้อเท็จจริงได้ปล่อยตัวไป 5 คน และได้ออกหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 3 คน เพื่อทำการขยายผลซักถามหาข้อมูลความเชื่อมโยง
มาฟังกันชัดๆ
จากปากของผู้ต้องสงสัยที่ยอมสารภาพยืนยันว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้สถาบันปอเนาะประตูช้างเป็นแหล่งหลบซ่อนตัว
ขอให้ประชาชนร่วมเป็นผู้ตัดสินว่าปอเนาะนัฮอตุลอุลูมิดียะฮ์
หรือปอเนาะประตูช้างของท่านบาบอมะรอบีมีส่วนเกี่ยวข้องขบวนการหรือไม่!!!
นายอับดุลเล๊าะ
สตาปอ ได้ให้การว่า นายซอบือรี เจะหะ ผู้ก่อเหตุรุนแรงหัวหน้าชุดปฏิบัติการ RKK ได้เข้ามาหลบซ่อนตัวภายในห้องพักของนายมะ (ไม่ทราบชื่อ/สกุลจริง)
ภายในปอเนาะประตูช้าง
นายอับดุลเล๊าะฯ และนายมะรอยี
เจะสะมาแอ ได้ยืนยันตรงกันว่าเคยพบเห็นนายอับดุลเลาะ สาแม เดินป้วนเปี้ยนในสถาบันปอเนาะประตูช้าง
พร้อมทั้งมาซื้อของใช้ส่วนตัวในร้านสหกรณ์ และได้พักอาศัยภายในปอเนาะ
ส่วนนายสับรี บาเหะ ยอมรับสารภาพว่ากล้องเล็งปืนที่ตรวจค้นเจอในห้องพักเป็นของตนจริง
แต่ได้ถูกขโมยไป มีการออกตัวว่าสิ่งของที่ค้นเจอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันปอเนาะแต่อย่างใด
ของกลางทั้งหมดที่ทำการตรวจยึดเจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน
10 เพื่อทำการตรวจสอบหาหลักฐานความเชื่อมโยงทางวิทยาศาสตร์
ผลการตรวจสอบสิ่งของและอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงและปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ดังนี้
สิ่งบอกเหตุที่สำคัญกรณีหมวกแก๊ปเจ้าหน้าที่ EOD ซึ่งมีรหัสประจำหมวกพบว่าเป็นหมวกของ จ.ส.ต.ณรงค์ศักดิ์
เกตุแดง ซึ่งได้สูญหายจากเหตุ นางเบญจพร เกื้อตุ้ง ภรรยา
ถูกลอบยิงและถูกเผาเสียชีวิต คนร้ายได้แย่งชิงรถยนต์ไปด้วย
(หมวกแก๊ปอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว) เหตุเกิดเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2558 และเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2558
ได้ตรวจพบรถยนต์ในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี
ส่วนการตรวจสอบอาวุธปืน
AK-102 จำนวน 2 กระบอก ผลการตรวจสอบที่มากลับพบว่ามีประวัติที่ใช้ในการก่อเหตุมาอย่างโชกโชน
อาวุธปืน AK-102 กระบอกที่ 1 หมายเลขปืน 101162410
แย่งชิงมาจากเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอยะหริ่ง เสียชีวิต 3 นาย เหตุเกิดเมื่อ 8 ตุลาคม 2555 และเคยใช้ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง
อาวุธปืน AK-102 กระบอกที่ 2 หมายเลขปืน 1011622573 แย่งชิงจากเหตุลอบยิง
อส.ซุลกิฟลี ตาเฮ เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเมืองปัตตานี เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อ 23 เมษายน 2555 เคยก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง
“บาบอมะรอบี”โต๊ะครูสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ได้ให้สัมภาษณ์
นสพ.ผู้จัดการออนไลน์ภาคใต้ ASTV เนื้อหามีการกล่าวถึงการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในประเด็นต่างๆ
ซึ่งสื่อมวลชนได้นำมาเขียนข่าวทำการขยายผล และที่สำคัญสำนักข่าวอิศรา
ที่ได้มีการเขียนข่าวเอนเอียงสนับสนุนกลุ่มขบวนการมาโดยตลอดได้มีการเขียนบทความในลักษณะกระแหนะกระแหน
พร้อมได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงสะท้อนความสำเร็จของฝ่ายความมั่นคง
โดยเป็นเพียงข้อมูลด้านเดียวซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นผู้เปิดเผย
และอยากฟังความข้างโต๊ะครู
ขอให้ประชาชนคิดอย่างมีสติ และจงเข้าใจ.....กรณีการตรวจค้นสถาบันปอเนาะของเจ้าหน้าที่ในวันนั้น
หากไม่มีข้อมูลไม่มีใครกล้าเสี่ยงหรอกครับ
และพยานหลักฐานที่ทำการตรวจยึดได้ก็ชัดเจน อีกทั้งคำสารภาพของผู้ต้องสงสัยที่ได้มีการเชิญตัวมาซักถามก็ยืนยันว่าปอเนาะประตูช้างเป็นแหล่งพักพิงหลบซ่อนตัวของโจรใต้ฟาตอนีจริง
“บาบอมะรอบี”ในฐานะเจ้าของปอเนาะปัดความรับผิดชอบไม่ได้หรอกครับ
แต่หากดูท่าทีของท่านบาบอแล้วกลับไม่พอใจกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เสมือนหนึ่งว่าตนเองบริสุทธิ์ต้องการจะบอกกับประชาชนว่า...เจ้าหน้าที่ได้พยายามกล่าวหา
และยัดเยียดความเลวร้ายให้กับตนและสถาบันปอเนาะ
โจรใต้ฟาตอนีที่มีหมายจับ
ป.วิอาญา มีอิสระเข้าออกตามอำเภอใจในสถาบันปอเนาะของท่าน แล้วจะให้สังคมคิดอย่างไร
อาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ในวันนั้นอยู่ห่างจากปอเนาะไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งกับการออกมากล่าวว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
เลย...เหตุผลฟังไม่ขึ้น วัตถุพยานหลักฐาน
และคำสารภาพของผู้ต้องสงสัยคือสิ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสถาบันปอเนาะยังคงเป็นแหล่งบ่มเพาะของกลุ่มขบวนการ
และมีความพยายามจากบุคคลบางกลุ่มได้เคลื่อนไหวไม่ให้เจ้าหน้าที่ไปเตะต้องสถาบันปอเนาะ
มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึกเพราะเกี่ยวข้องกับศาสนา
เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าทำการตรวจสอบกลุ่มขบวนการจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว
ซุกซ่อนอาวุธได้ตามอำเภอใจ ในเมื่อ..รู้อย่างนี้แล้วคิดว่าสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์หรือสถาบันปอเนาะอื่นๆ
อีกหลายโรงมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่?
ผู้เขียนคิดว่าท่านผู้อ่านน่าจะมีคำตอบอยู่แล้วในใจกันแล้วนะครับ…
------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น