3/23/2558

คำถาม? คาใจ..ปอเนาะนัฮอตุลอุลูมิดียะฮ์เกี่ยวข้องขบวนการหรือไม่!!!

อิมรอน

ปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ หรือปอเนาะประตูช้างมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่? ยังคงเป็นปัญหาคาใจหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารบุกค้นถึงสองวันเต็มได้ของกลางเพียบ


ก่อนหน้านี้อาเยาะ(Ahli jawattan kerja kampong) หรือหมู่บ้านจัดตั้งของกลุ่มขบวนการที่โจรใต้ฟาตอนีใช้เป็นที่หลบซ่อน กำบัง และอำพรางตัวให้รอดพ้นจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่หลังจากการก่อเหตุ กลุ่มขบวนการยังใช้อาเยาะเป็นสถานที่ปลุกระดมบ่มเพาะแนวความคิดให้กับมวลชน เพื่อไว้คอยสนับสนุนช่วยเหลือนักรบ RKK ในการก่อเหตุสร้างเหตุการณ์ในพื้นที่

นอกจากอาเยาะที่กลุ่มขบวนการได้ใช้เป็นแหล่งบ่มเพาะแล้ว หน่วยงานความมั่นคงยังประเมินและตกผลึกว่ากลุ่มขบวนการยังมีการใช้สถาบันปอเนาะและโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเป็นแหล่งบ่มเพาะทางความคิดให้กับเยาวชนที่อยู่ในวัยเรียนต่อต้านอำนาจรัฐ จึงไม่น่าแปลกใจที่ยังคงมีนักรบรุ่นใหม่ถูกผลิตออกมาทำการเคลื่อนไหวก่อเหตุเย้ยกฎหมายรัฐบาลไทยมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา

จาก...ข่าวครึกโครมโด่งดังครั้งแล้วครั้งเล่าที่มีการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาศัยสถาบันปอเนาะเข้าไปหลบซ่อนตัว ซึ่งในบางครั้งได้เกิดการปะทะนำไปสู่การสูญเสีย

และล่าสุดเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านอาโห ตำบลสะดาวา อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 18, 19 กุมภาพันธ์ 2558

ซึ่งการปิดล้อมปอเนาะ สืบเนื่องมาจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า นายอับดุลเลาะ สาแม บุคคลเป้าหมาย ป.วิอาญา ได้เข้ามาหลบซ่อนพักพิงภายในสถาบันปอเนาะ นัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ (ปอเนาะประตูช้าง) หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ช่วยส่วนรวม และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 จึงได้เข้าติดตามจับกุมและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งบุคคลเป้าหมายอาจจะไหวตัวทันได้ทำการหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการติดตามจับกุม

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มโจรใต้ฟาตอนีใช้สถาบันปอเนาะเป็นแหล่งซ่องสุมกำลัง ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว ซ่อนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ พอเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาถูกกระชากหน้ากากที่แท้จริงให้สังคมรับรู้ กลับมาตีโพยตีพายโดนกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ



การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการเข้าติดตามจับกุมโจรใต้ฟาตอนีในสถาบันปอเนาะประตูช้างไม่ได้สูญเปล่าจากคว้าน้ำเหลวบุคคลเป้าหมายได้ไหวตัวหลบหนีไปเสียก่อน แต่เมื่อมีการขยายผลพิสูจน์ทราบกลับพบอาวุธปืนสงคราม และอุปกรณ์ประกอบระเบิด รวมทั้งสิ่งของต้องสงสัยจำนวนทั้งสิ้น 95 รายการด้วยกัน จากการเข้าตรวจสอบ 8 จุด

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 8 คน หลังดำเนินการซักถามหาข้อเท็จจริงได้ปล่อยตัวไป 5 คน และได้ออกหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 3 คน เพื่อทำการขยายผลซักถามหาข้อมูลความเชื่อมโยง


มาฟังกันชัดๆ จากปากของผู้ต้องสงสัยที่ยอมสารภาพยืนยันว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้สถาบันปอเนาะประตูช้างเป็นแหล่งหลบซ่อนตัว ขอให้ประชาชนร่วมเป็นผู้ตัดสินว่าปอเนาะนัฮอตุลอุลูมิดียะฮ์ หรือปอเนาะประตูช้างของท่านบาบอมะรอบีมีส่วนเกี่ยวข้องขบวนการหรือไม่!!!

นายอับดุลเล๊าะ สตาปอ ได้ให้การว่า นายซอบือรี เจะหะ ผู้ก่อเหตุรุนแรงหัวหน้าชุดปฏิบัติการ RKK ได้เข้ามาหลบซ่อนตัวภายในห้องพักของนายมะ (ไม่ทราบชื่อ/สกุลจริง) ภายในปอเนาะประตูช้าง

นายอับดุลเล๊าะฯ  และนายมะรอยี  เจะสะมาแอ ได้ยืนยันตรงกันว่าเคยพบเห็นนายอับดุลเลาะ สาแม เดินป้วนเปี้ยนในสถาบันปอเนาะประตูช้าง พร้อมทั้งมาซื้อของใช้ส่วนตัวในร้านสหกรณ์ และได้พักอาศัยภายในปอเนาะ

ส่วนนายสับรี  บาเหะ ยอมรับสารภาพว่ากล้องเล็งปืนที่ตรวจค้นเจอในห้องพักเป็นของตนจริง แต่ได้ถูกขโมยไป มีการออกตัวว่าสิ่งของที่ค้นเจอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันปอเนาะแต่อย่างใด

ของกลางทั้งหมดที่ทำการตรวจยึดเจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 เพื่อทำการตรวจสอบหาหลักฐานความเชื่อมโยงทางวิทยาศาสตร์ ผลการตรวจสอบสิ่งของและอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงและปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ดังนี้


สิ่งบอกเหตุที่สำคัญกรณีหมวกแก๊ปเจ้าหน้าที่ EOD ซึ่งมีรหัสประจำหมวกพบว่าเป็นหมวกของ จ.ส.ต.ณรงค์ศักดิ์ เกตุแดง ซึ่งได้สูญหายจากเหตุ นางเบญจพร เกื้อตุ้ง ภรรยา ถูกลอบยิงและถูกเผาเสียชีวิต คนร้ายได้แย่งชิงรถยนต์ไปด้วย (หมวกแก๊ปอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว) เหตุเกิดเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2558 และเมื่อ 10  กุมภาพันธ์ 2558 ได้ตรวจพบรถยนต์ในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี


ส่วนการตรวจสอบอาวุธปืน AK-102 จำนวน 2 กระบอก ผลการตรวจสอบที่มากลับพบว่ามีประวัติที่ใช้ในการก่อเหตุมาอย่างโชกโชน

อาวุธปืน AK-102 กระบอกที่ 1 หมายเลขปืน 101162410 แย่งชิงมาจากเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอยะหริ่ง เสียชีวิต 3 นาย เหตุเกิดเมื่อ 8 ตุลาคม 2555 และเคยใช้ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง

อาวุธปืน AK-102  กระบอกที่ 2 หมายเลขปืน 1011622573 แย่งชิงจากเหตุลอบยิง อส.ซุลกิฟลี ตาเฮ เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเมืองปัตตานี เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อ 23 เมษายน 2555 เคยก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง

บาบอมะรอบีโต๊ะครูสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ได้ให้สัมภาษณ์ นสพ.ผู้จัดการออนไลน์ภาคใต้ ASTV เนื้อหามีการกล่าวถึงการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในประเด็นต่างๆ ซึ่งสื่อมวลชนได้นำมาเขียนข่าวทำการขยายผล และที่สำคัญสำนักข่าวอิศรา ที่ได้มีการเขียนข่าวเอนเอียงสนับสนุนกลุ่มขบวนการมาโดยตลอดได้มีการเขียนบทความในลักษณะกระแหนะกระแหน พร้อมได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงสะท้อนความสำเร็จของฝ่ายความมั่นคง โดยเป็นเพียงข้อมูลด้านเดียวซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นผู้เปิดเผย และอยากฟังความข้างโต๊ะครู

ขอให้ประชาชนคิดอย่างมีสติ และจงเข้าใจ.....กรณีการตรวจค้นสถาบันปอเนาะของเจ้าหน้าที่ในวันนั้น หากไม่มีข้อมูลไม่มีใครกล้าเสี่ยงหรอกครับ และพยานหลักฐานที่ทำการตรวจยึดได้ก็ชัดเจน อีกทั้งคำสารภาพของผู้ต้องสงสัยที่ได้มีการเชิญตัวมาซักถามก็ยืนยันว่าปอเนาะประตูช้างเป็นแหล่งพักพิงหลบซ่อนตัวของโจรใต้ฟาตอนีจริง

บาบอมะรอบีในฐานะเจ้าของปอเนาะปัดความรับผิดชอบไม่ได้หรอกครับ แต่หากดูท่าทีของท่านบาบอแล้วกลับไม่พอใจกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เสมือนหนึ่งว่าตนเองบริสุทธิ์ต้องการจะบอกกับประชาชนว่า...เจ้าหน้าที่ได้พยายามกล่าวหา และยัดเยียดความเลวร้ายให้กับตนและสถาบันปอเนาะ

โจรใต้ฟาตอนีที่มีหมายจับ ป.วิอาญา มีอิสระเข้าออกตามอำเภอใจในสถาบันปอเนาะของท่าน แล้วจะให้สังคมคิดอย่างไร อาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ในวันนั้นอยู่ห่างจากปอเนาะไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งกับการออกมากล่าวว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลย...เหตุผลฟังไม่ขึ้น วัตถุพยานหลักฐาน และคำสารภาพของผู้ต้องสงสัยคือสิ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสถาบันปอเนาะยังคงเป็นแหล่งบ่มเพาะของกลุ่มขบวนการ และมีความพยายามจากบุคคลบางกลุ่มได้เคลื่อนไหวไม่ให้เจ้าหน้าที่ไปเตะต้องสถาบันปอเนาะ มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึกเพราะเกี่ยวข้องกับศาสนา เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าทำการตรวจสอบกลุ่มขบวนการจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว ซุกซ่อนอาวุธได้ตามอำเภอใจ ในเมื่อ..รู้อย่างนี้แล้วคิดว่าสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์หรือสถาบันปอเนาะอื่นๆ อีกหลายโรงมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่? ผู้เขียนคิดว่าท่านผู้อ่านน่าจะมีคำตอบอยู่แล้วในใจกันแล้วนะครับ…

------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น