''อิมรอน"
เป็นที่ทราบกันดีว่า
ประชากรส่วนใหญ่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นับถือศาสนาอิสลาม ทุกครอบครัวนิยมที่จะส่งบุตรหลานให้เรียนศาสนาอิสลามตั้งแต่เยาว์วัย
เพราะการศึกษาศาสนาถือเป็นการศึกษาภาคบังคับสำหรับมุสลิมทุกคน
สถาบันศึกษาปอเนาะและโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจึงมีบทบาทสำคัญในการให้การอบรมและขัดเกลาจิตใจของเยาวชนให้เป็นคนดี
มีความรู้คู่คุณธรรม
ท่านผู้ชมครับ
ขบวนการ BRN
เลือกเป้าหมายที่ง่ายที่สุดในการดำเนินการคือ เด็ก เยาวชน
ที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนตาดีกา สถาบันปอเนาะ และโรงเรียนสอนศาสนาเอกชน
โดยใช้ครูสอนศาสนา, อุสตาซ และเจ๊ะฆู ทำการปลูกฝัง
ปลุกระดมแนวความคิดต่อต้านอำนาจรัฐ ซึ่งรูปแบบในการปลูกฝังให้เด็กเกลียดชังเจ้าหน้าที่วิธีหนึ่งที่มักจะได้ผลเสมอคือการเล่านิทานให้เด็กฟัง
อย่างเช่นนิทานเรื่อง วอตอเป๊าะฮิญาหรือแอ๊ปเปิ้ลสีเขียว โดยเน้นให้มีทัศนคติ ความคิดต่อต้านเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ ปลุกระดมให้เห็นว่าดินแดนที่เรียกว่าปาตานีแห่งนี้ถูกรุกรานและยึดครองโดยสยาม
ชาวปาตานีถูกสยามกระทำย่ำยีอย่างทารุณ ส่งผลให้เด็กและเยาวชน
มีความรู้สึกเคียดแค้นชิงชังต่อคนไทยหรือสยามอย่างเข้ากระดูกดำ
ปรากฏการณ์แบบนี้พบได้จากการปฏิบัติการอย่างโหดเหี้ยม เช่น ฆ่าแล้วเผา
การฆ่าตัดคอเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
แต่ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษาด้านศาสนา
ต่างดาหน้าออกมาปกป้องกล่าวหาว่า ทำเกินกว่าเหตุ
ไม่ให้เกียรติเคารพสถานที่ซึ่งเป็นที่ศึกษาด้านศาสนา
และสถานศึกษาไม่ใช่สมรภูมิการสู้รบ
คำถามที่ว่า ใครคือผู้ที่ทำให้ปอเนาะต้องด่างพร้อย
ใครคือผู้ที่กำลังละเลงสีอย่างเมามันทำให้เด็กและเยาวชนต้องเปรอะเปื้อน ตอบคำถามข้อสงสัยได้ว่าครูสอนศาสนา, อุสตาซและเจ๊ะฆูบางคน ที่อยู่ภายใต้การสั่งการของขบวนการ BRN คือผู้สร้างและละเลงสีทำให้เด็ก เยาวชนต้องด่างพร้อย สิ่งที่ยืนยันผลงาน คือการแสดงออกของเด็กนักเรียนที่เป็นผลผลิตทางการศึกษาด้วยการขีดเขียนบนโต๊ะเรียน
บอร์ดกระดานดำ ฝาผนัง และห้องน้ำ
ด้วยข้อความที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งยังไม่นับรวมถึงการแสดงออกในสื่อสังคมออนไลน์ที่เด็กๆ
เหล่านี้ได้เข้าถึง อย่างเช่นโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนโรงหนึ่งพื้นที่อำเภอสายบุรี
จังหวัดปัตตานี บริเวณฝาผนังห้องน้ำ มีการเขียนข้อความภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ว่า “นักรบฟาตอนีfathoni Darussalam” โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาชื่อดังในพื้นที่อำเภอเมือง
จังหวัดยะลา ยังคงมีการแสดงออกของนักเรียนด้วยการขีดเขียนข้อความ “FATONI
MERDIKA 30”(การปลดปล่อยรัฐปัตตานี) และข้อความ “RKK”ในสถานที่สาธารณะของโรงเรียนดังกล่าวจำนวนหลายจุดด้วยกัน สถาบันปอเนาะในพื้นทีอำเภอระแงะ
จังหวัดนราธิวาส นักเรียนซึ่งเป็นผลผลิตได้มีการเขียนในกระดาษข้อความภาษาไทยว่า
“นักรบฟาตอนีดารุสลาม”มีเครื่องหมายลูกศรชี้ไปที่คำว่า
“RKK”และอีกข้อความ “จาก RKK ดารุสลามนักรบฟาตอนี”ส่วนกระดาษอีกแผ่นมีการวาดรูปปืน
และมีข้อความภาษาไทยทับศัพท์ว่า “บาบีอายิง”แปลว่า “หมูหมา”นอกจากนี้บนแผ่นไม้ชั้นวางหนังสือเรียนในศาลาเอนกประสงค์
มีการเขียนข้อความเป็นภาษาไทยว่า “กูรักฟาตอนี”มีรูปสัญลักษณ์กริช
และซองกริช โดยมีข้อความไว้บนซองกริชว่า “ฟาตอนี” สถาบันศึกษาปอเนาะ ในอำเภอระแงะ
จังหวัดนราธิวาส อีกแห่งหนึ่งมีการขีดเขียนข้อความด้วยปากกาที่โต๊ะภายในห้องเรียน,
ห้องละหมาด ข้อความว่า “กูเป็นนักรบฟาตอนี,
กูฟาตอนี, RKK, ” โรงเรียนตาดีกา สถาบันปอเนาะ และโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนบางแห่งยังตรวจพบว่าเป็นแหล่งพักพิง
ซ่องสุมกำลัง ซุกซ่อนอาวุธปืน เป็นแหล่งประกอบวัตถุระเบิด
รวมไปถึงฝึกปรือวิทยายุทธ์ก่อนจะออกทำการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่
และหลบหนีภายหลังการก่อเหตุ
ที่กล่าวมาข้างต้นชี้ให้เห็นแล้วว่าขบวนการ
BRN
ได้ใช้โรงเรียนตาดีกา สถาบันปอเนาะ และโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนบางแห่ง
เป็นแหล่งบ่มเพาะของกลุ่มขบวนการ และยังมีผู้บริหารของโรงเรียนบางแห่งเห็นแก่ได้มีการเบิกเงินอุดหนุนซ้ำซ้อน
ทำธุรกิจทางการศึกษาโดยไม่ยอมพัฒนาคุณภาพทางด้านการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็กเยาวชน
-----------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น