"แบมะ ฟาตอนี"
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่
17 ธันวาคมที่ผ่านมา “อาชญากรใต้” ได้ลงมือปฏิบัติการเย้ยอำนาจรัฐ
นัดรวมพลกว่า 10 คน
สวมชุดดำหมวกไหมพรมสวมเป็นไอ้โม่งพร้อมอาวุธครบมือดักปล้นรถทัวร์โดยสารประจำทางสายเบตง-กรุงเทพฯ
บนทางหลวงสาย 410 (ยะลา-เบตง) เขตพื้นที่บ้านคลองน้ำขุ่น หมู่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา
จ.ยะลา โดยคนร้ายไล่พนักงานขับพร้อมกระเป๋ารถ และผู้โดยสารชายหญิงรวม 17 คน
ลงจากรถ ก่อนราดน้ำมันเบนซินแล้วจุดไฟเผารถและทรัพย์สินวอดกลางวันแสกๆ
โดยไม่ได้ทำร้ายผู้โดยสารและพนักงานขับรถแต่อย่างใด นำมาซึ่งข้อสงสัยต่อประชาชนทั่วไป
และยิ่งคิดไปไกลเมื่อสื่อได้จุดประเด็นเหตุใดการก่อเหตุครั้งนี้ ไม่มีการทำร้ายประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บแม้เล็บแมวข่วน
ดั่งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เราไม่รู้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไหน
ที่แน่ๆ เป็นการกระทำที่ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย และสื่อแนวร่วมอาชญากรใต้ได้ชิงนำในการใช้ความเนียน
โดยพยายามสื่อ “เรารู้เพียงว่า” กลุ่มผู้ก่อเหตุใส่ชุดทหาร
ใช้ไอ้โม่งปิดหน้า มีอาวุธสงครามครบมือ ใช้ภาษามลายูปาตานีและใช้ภาษาไทย การปฏิบัติการครั้งนี้โดยไม่มุ่งหวังต่อชีวิตผู้ที่อยู่ในรถ
แต่เป้าหมายคือต้องการทำลายทรัพย์สิน อีกทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ช่วยกันขนกระเป๋าของผู้โดยสารออกจากรถ
ให้ผู้โดยสารอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนทำการจุดไฟเผา และได้มีการสื่ออีกว่า จุดเกิดเหตุอยู่ตรงกลางระหว่างด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้านบันนังบูโบ
และฐานทหารพรานสามแยกเขื่อนบางลาง ห่างจากด่านตำรวจประมาณ 1 กิโลเมตร
และจากจุดเกิดเหตุถึงฐานทหารพรานประมาณ 1 กิโลเมตร การสื่อดังกล่าวของ “สื่อแนวร่วมอาชญากรใต้” ถามว่าต้องการอะไร? ต่อความพยายามทั้งหมดที่โยงโน่นนิด
ผสมนี่เข้าไปหน่อย หากจะมองคงจะมีประเด็นเดียว เพียงเพื่อให้สังคมเข้าใจผิดคิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการแต่งกาย การใช้ภาษาในการสื่อสาร อีกทั้งยังมีน้ำใจช่วยผู้โดยสารขนกระเป๋าก่อนจุดไฟเผารถทัวร์
ซึ่งจะมีคนร้ายที่ไหน!! ใจดีขนาดนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นแผนชั่วที่ได้มีการตระเตรียมไว้แล้วล่วงหน้าของกลุ่มอาชญากรใต้
เมื่อก่อเหตุเสร็จให้สื่อแนวร่วมชิงนำโฆษณาชวนเชื่อในสื่อสังคมออนไลน์ ตั้งคำถามต่อสังคม!!
ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่มีศักยภาพ....
แผนการชั่วอาชญากรชายแดนใต้ล้ำลึกจริงๆ
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง
กับโลกเสมือนจริงในสื่อสังคมออนไลน์ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการสืบทราบเบาะแสของเจ้าหน้าที่
พบว่าผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่ม นายอาหามะ ลือแบซา แกนนำระดับปฏิบัติการอาชญากรใต้
ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ อ.บันนังสตา และ อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งหากวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการปฏิบัติการเผารถทัวร์
โดยไม่เตะต้องทำร้ายผู้โดยสาร หรือแม้กระทั่งพนักงานขับพร้อมกระเป๋ารถแต่อย่างใด เนื่องจากกลุ่มอาชญากรใต้เหล่านี้ขาดการสนับสนุนจากแกนนำใหญ่
ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวในพื้นที่ตามยถากรรม อีกทั้งความระส่ำระส่ายภายในองค์กรเอง
ผสมกับความไม่ชัดเจนในเรื่องของอุดมการณ์ที่แน่นอน บางกลุ่มเอาตัวรอดถึงกับปล้นเขากิน
ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย แต่สาเหตุหนึ่งที่สำคัญในปัจจุบัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐมีความเข้มแข็งขึ้น
ในขณะที่กลุ่มอาชญากรใต้เองที่ผ่านมาเกิดความผิดพลาดเสียมวลชน จากการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
ไม่มีการแยกแยะเป้าหมาย โดยเฉพาะต่อเป้าหมายที่อ่อนแอไม่มีแม้อาวุธต่อสู้ ซึ่งมีมวลชนหันมาให้ความร่วมมือกับภาครัฐเพิ่มมากขึ้น
และนี่คือเหตุผล!!
ที่หลายคนสงสัยว่าเหตุใดพฤติกรรมกลุ่มอาชญากรใต้จึงเปลี่ยนไป.. และเหตุการณ์เผารถบัส..
อาจจะเป็นแผนเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อเรียกค่าคุ้มครองของกลุ่มอาชญากรใต้ก็เป็นได้.
-------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น