"แบมะ ฟาตอนี"
กรณีเมื่อ 31 พฤษภาคม 2561 สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี
หรือกลุ่ม PerMAS ได้ทำการ
Live สด การร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน ภายใต้หัวข้อ “4 ปี คสช.กับสันติภาพปาตานี” ผ่านเพจ: The
Federation of Patani Students and Youth – PerMAS ซึ่งดำเนินรายการโดย
นายซุกรีฟฟี ลาเตะ ร่วมพูดคุยโดย
นายฮาฟิส ยะโกะ ประธานสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS)
และ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยส่วนกลาง
ตลอดการ Live สด ผู้ร่วมพูดคุยได้กล่าวโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล
การจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และส่งผลกระทบต่อการสร้างสันติภาพปาตานี
มีการเปรียบเทียบกระบวนการพูดคุยสันติสุขระหว่างรัฐบาล พลเรือนกับรัฐบาลทหารซึ่งมีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง
โดยกล่าวว่ารัฐบาลพลเรือนเปิดกว้างให้คนปาตานีพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ รัฐบาล คสช.
เข้ามาได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการพูดคุย แม้แต่ชื่อยังมีการเปลี่ยนจากการพูดคุยสันติภาพมาเป็นการพูดคุยเพื่อสันติสุข
รัฐบาลชุดนี้พยายามหลีกเลี่ยงการพูดคุยถึงปัญหารากเหง้าและแก่นแท้ของปาตานี
นายฮาฟิส ยะโกะ ประธาน PerMAS ได้กล่าวโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐในการบังคับใช้กฎหมาย ปิดล้อมจับกุมผู้กระทำความผิดว่า “ไม่มีความโปร่งใส” ทีมเจรจาที่ไปเจรจาอยู่บนโต๊ะกับระดับปฏิบัติการที่อยู่ในพื้นที่ยังคงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมทรมาน การจับกุมผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐโดยใช้กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เล่นงานจับกุม คุกคามนักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน และ NGOs ในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง
รัฐบาล คสช. สร้างความหวาดกลัวใช้การปราบปรามคนปาตานีที่มีอุดมการณ์ชาตินิยม คือความสำเร็จของรัฐบาลชุดนี้
แต่มีตอนหนึ่งที่ นายฮาฟิส ยะโกะ ได้กล่าวถึงคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่ 1
ซึ่งหากรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งจะต้องร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จะทำให้บรรยากาศต่างๆ เอื้อต่อการพูดคุยมากขึ้น ซึ่งจะนำมาสู่สันติภาพ ต่อการกำหนดชะตากรรมของปาตานี
นั่นคือ“ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สุด”
มาตรา 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับได้บัญญัติไว้ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว
จะแบ่งแยกมิได้”
ซึ่งประเทศไทยของเราก็เป็นเช่นนี้จริงๆ
เป็นอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวมาโดยตลอด นับตั้งแต่ผู้เขียนจำความได้ ไม่เพียงแต่จะเป็นอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันเท่านั้น
พี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วทุกภาคต่างมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
เราเดินทางไปมาหาสู่กัน ทั้งไปท่องเที่ยว ไปเยี่ยมเยียน หรือไปทำงานประกอบอาชีพ
พี่น้องชาวอีสานไปทำงานภาคใต้ พี่น้องชาวใต้เคยยกขบวนไปปักหลักขุดแร่ที่ภาคเหนือทั้งหมู่บ้าน...อพยพกันไปอพยพกันมาอยู่ตลอดเวลา
มาวันนี้กลับมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่พยายามจ้องทำลายความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ทำการปลุกระดมบ่มเพาะสร้างความเกลียดชัง ทำลายการอยู่ร่วมสังคมพหุวัฒนธรรม
คิดแก้ไขรัฐธรรมนูญไทยมาตราที่ 1
คิดการณ์ไกลในการแบ่งแยกดินแดนจากรัฐบาลไทยเพื่อมุ่งไปสู่เอกราช
อยากลงประชามติในการกำหนดใจตนเองจนตัวสั่น ซึ่งความคิดของ นายฮาฟิส ยะโกะ ประธาน PerMAS ขอบอกเลยว่าเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ
ฝันกลางวันที่ไม่อาจจะเป็นจริงได้ พฤติกรรมจากรุ่นสู่รุ่นของ PerMAS ส่อให้เห็นแล้วว่าเป็นผู้บ่อนทำลายอธิปไตยของชาติ
เป็นแค่ปีกการเมืองของกลุ่มขบวนการ
ซึ่งมีจุดหมายเดียวกันกับขบวนการที่ทำการต่อสู้ด้วยความรุนแรงเพื่อมุ่งไปสู่“เอกราช” ไม่มีอุดมการณ์ในการต่อสู้ สุดท้ายเพื่อผลประโยชน์ของคนเพียงไม่กี่คน
ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อพี่น้องปาตานีที่มีการแอบอ้างมาโดยตลอดเวลา ส่วนความเพ้อฝันของ นายฮาฟิส
ยะโกะ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตราที่ 1 นั้น จะนำไปสู่ “ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สุด” ซึ่งจะนำมาสู่สันติภาพคือการกำหนดชะตากรรมของปาตานี!! แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของนักศึกษาปัญญาชนผู้นำปีกการเมืองกลุ่มขบวนการที่ค่อยๆ
เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา เคยถามคนส่วนใหญ่ในพื้นที่หรือยังว่าต้องการอะไร?
มิใช่สันติสุขที่ปราศจากการก่อเหตุร้ายของกลุ่มขบวนการ หรือการสร้างความหวาดระแวง
การทำลายสังคมพหุวัฒนธรรมของกลุ่ม PerMAS หรอกหรือ!! คือสิ่งที่พี่น้องปาตานีต้องการ...
*****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น