“Ibrahim”
ชาวสวนยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างต่อเนื่องซึ่งราคาขายอยู่ที่
3 กิโลกรัม 100 บาท ยังซื้อเนื้อหมูได้ไม่ถึงกิโล
ถึงแม้วันนี้ราคาจะปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 40 บาทต้นๆ ต่อกิโลกรัมก็ตามที
แต่เมื่อบวกลบคูณหารราคาต้นทุนในการผลิตยังไม่คุ้มทุน จะต้องก้มหน้าแบกรับภาระจำใจกรีดยางเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ
ในขณะที่ชาวสวนยางพาราบางส่วนได้ตัดโค่นทิ้ง
เพื่อหันไปปลูกพืชเศรษฐกิจตัวใหม่
แต่ยังมีชาวสวนยางพาราอีกจำนวนมากที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนและยังคงหวังว่าสักวันราคายางพาราอาจจะดีขึ้นดั่งเช่นในอดีตที่ราคาพุ่งสูง
100 กว่าบาทต่อกิโลกรัม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เช่นเดียวกันอาชีพส่วนใหญ่ต่างทำสวนยางพาราและได้รับผลกระทบ
ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างกับพื้นที่อื่นๆ แต่ที่แตกต่างหนำซ้ำเดือดร้อนสาหัสกว่าเมื่อมีกลุ่มโจรใต้ได้ซ้ำเติมปัญหาด้วยการใช้กับระเบิดวางไว้ในสวนยางเพื่อทำร้าย
ทำลายชีวิตชาวสวนยางถึง 5 ครั้ง ภายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
จากการปฏิบัติการดังกล่าวของกลุ่มโจรใต้
มุ่งเป้าสังหารไปยังกลุ่มชาวไทยพุทธ ซึ่ง 5 ราย ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
แข้งขาขาดต้องพิกลพิการ ชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วยกับปัญหาความขัดแย้งแต่ต้องมารับชะตากรรมแทน
ที่ผ่านมาทั่วโลกต่างออกมาต่อต้านการใช้กับระเบิดในพื้นที่สงคราม
หรือพื้นที่ขัดแย้งทางอาวุธเนื่องจากความรุนแรงของกับระเบิดส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์รวมถึงเด็กๆ
ผู้สูงอายุ ผู้หญิง ต้องเสียชีวิตหรือกลายเป็นผู้พิการ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยถึงแม้ไม่เข้าข่ายเป็นพื้นที่สงคราม
หรือพื้นที่ขัดแย้งทางอาวุธก็ตามที
แต่โจรใต้กลับใช้กับระเบิดต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
การก่อเหตุของกลุ่มโจรใต้เริ่มต้นลงมือ เมื่อ 28 มิ.ย.ในสวนยาง ต.ตาชี อ.ยะหา, เมื่อ 30 มิ.ย.ในสวนยาง ต.ลำพะยา อ.เมือง, เมื่อ 2 ก.ค.ในสวนยาง ต.สะเอะ อ.กรงปินัง, เมื่อ 4 ก.ค.ในสวนยาง ต.ตาเน๊าะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา
และล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 5 ก.ค.ในสวนยาง ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา
ซึ่งหากวิเคราะห์ในการก่อเหตุของกลุ่มโจรใต้น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าว
อีกทั้งเป้าหมายที่ก่อเหตุเป็นพื้นที่ของชาวไทยพุทธทั้งหมด
การกระทำดังกล่าวของกลุ่มโจรใต้ต้องการสร้างสถานการณ์
สร้างความหวาดกลัวต่อชาวไทยพุทธให้ละทิ้งถิ่นฐานย้ายออกไปตั้งหลักแหล่งยังที่อื่น
อีกทั้งต้องการดิสเครดิตอำนาจรัฐ แสดงศักยภาพในการก่อเหตุและแสดงความมีตัวตนของขบวนการว่าสามารถทำการก่อเหตุสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเพื่อใช้เป็นอำนาจการต่อรองในเวทีการพูดคุยสันติสุขที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินอยู่กับกลุ่มผู้คิดต่างโดยมีประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก
ในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่อาจละเลย
ข้อมูลจากแหล่งข่าวเชิงลึกได้ให้ข้อมูลว่า เป็นลีลาเดิมๆ ของ BRN ในการวางกับระเบิดในสวนยาง มุ่งเป้าทำร้ายชาวไทยพุทธผู้บริสุทธิ์
แล้วก็จะเริ่มทำร้ายพี่น้องมุสลิมที่ใกล้ชิดเจ้าหน้าที่ โดยหลังจากนั้นจะมีการโฆษณาชวนเชื่อปล่อยข่าวลือว่า
“ถูกพวกซีแยตอบโต้ ล้างแค้น” ความต้องการและความมุ่งหวังจริงๆ
ของกลุ่มโจรใต้ คือ ต้องการให้ชาวไทยพุทธลุกฮือขึ้นมาตอบโต้ เพราะรอบนี้ได้วางแผนเตรียมการ
โดยใช้กลุ่มนักศึกษามุสลิมที่ศึกษาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ทำการเก็บข้อมูลเพื่อร้องเรียนไปยัง UN และ องค์กรระหว่างประเทศ
หากเรารู้เท่าทันจงอย่าวู่วามกระทำการใดๆ นำมาซึ่งความขัดแย้งทางศาสนา จะทำอะไร? ก็อย่าเสียรู้กลุ่มโจรใต้เล่ห์เหลี่ยมจัด
จะต้องบังคับใช้กฎหมายเท่านั้นเพื่อติดตามนำตัวคนผิดมาลงโทษ
ส่วนการกระทำของโจรใต้ไร้ศาสนากับการฝังกับระเบิดในสวนยางพารา
จนทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บและพิการ ไม่ใช่เป็นเรื่องแค่ควรถูกประณามเท่านั้น
แต่ทุกภาคส่วนจะต้องโดดเดี่ยวต่อพฤติกรรมที่สุดโต่งของกลุ่มโจรใต้
ไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบ กลุ่ม NGOs ไม่ใช่มาเรียกร้องให้รัฐทำการตรวจสอบพื้นที่ที่อาจมีการฝังกับระเบิดที่กล่าวอ้างเพื่อรักษาชีวิตและความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์
ตามสัตยาบันอนุสัญญาต้านกับระเบิด (Mine Ban Treaty) ของสหประชาชาติ
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2541 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม
2542 แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น กลุ่ม NGOs จะต้องทำการประณามกลุ่มโจรใต้ซึ่งเป็นต้นเหตุ
และเรียกร้องให้กลุ่มที่ทำการก่อเหตุยุติการกระทำดังกล่าวเสีย แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่างหาก
อย่ามาซ้ำเติมประชาชนด้วยการวางกับระเบิดในสวน ขณะที่ราคายางพาราตกต่ำอีกเลย..
แค่ราคายางพาราไม่มีราคาก็ทุกข์ใจเต็มกลืน แล้วจะซ้ำเติมกันไปถึงไหน!!!!
*****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น