"แบมะ ฟาตอนี "
สถานการณ์ไฟใต้ได้คุโชนขึ้นมารอบใหม่
หลังจากได้เงียบสงบมานานจนหลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติเกิดขึ้นอะไรกันแน่!! บ้างให้ข่าวเป็นสัญญาณที่ดีจากเหตุการณ์ที่ลดลงตามลำดับ
แนวโน้มและทิศทางในการแก้ปัญหาดำเนินมาถูกทางแล้วท่ามกลางกระแสข่าวที่มีการวิเคราะห์กันไปต่างๆ นาๆ
ได้จุดประกายความหวังพื้นที่แห่งนี้จะกลับมาสงบสุขอีกครั้งอย่างแน่นอน
แต่แล้วความฝันกลับถูกทำลายลงเมื่อโจรใต้ได้จุดความรุนแรงขึ้นระลอกใหม่ด้วยการลอบทำร้ายพี่น้องชาวไทยพุทธ
ดักซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ ยัดเยียดความสูญเสีย
ความเจ็บปวดและคราบน้ำตาอย่างที่เคยเป็นมาก่อน
วันที่ 2 ก.ย.61 คนร้ายจ่อยิงโหด
2 สองสามีภรรยาเจ้าของร้านนิคมเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 219 หมู่
3 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ส่วนลูกจ้างรอดหวุดหวิด
เผยเมื่อปี 56 เคยถูกลอบเผาแต่ได้ทำการซ่อมแซมจนกลับมาขายได้ตามปกติ
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.ย.61 คนร้ายประมาณ 5 คน
พร้อมอาวุธครบมือใช้อาวุธสงครามยิงถล่มบ้านพักเลขที่ 281 และยิงใส่ป้อม อรบ.
บ้านไอร์บาลอ หมู่ 6 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้ นางอวบ อุทัย,
นายศรีบุญเรือง อุทัย เสียชีวิต 2 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
วันที่ 9
ก.ย.61 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิง นายดอเลาะ นิเลาะ ซึ่งเป็นลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วน
หรือที่เรียกกันว่าโครงการ "ลูกจ้าง 4,500" บริเวณปากทางเข้าศูนย์สอนกีรออาตี
(สอนอ่านอัลกุรอ่าน) หมู่ 1 บ้านสุไหงปาแน ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ในวันเดียวกันคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิง
นายสุชัย ไชยสิทธิ์ พ่อค้ารับซื้อทุเรียนชาว จ.สงขลา เสียชีวิต
บริเวณสี่แยกบ้านปูโล๊ะสะนีแย หมู่ 4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา
และล่าสุด 11
ก.ย.61 คนร้ายซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารพราน บนถนนสายบ้านดอนนา หมู่ 5 ต.บางเขา
อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย
สถานการณ์ไฟใต้ที่คุโชนขึ้นมาหลังจากเงียบมานานหลายฝ่ายได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุ
โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวถึงการก่อเหตุดังกล่าวของกลุ่มโจรใต้น่าจะมาจากเหตุปัจจัยหลัก
4 ประการด้วยกัน กล่าวคือ
ประการแรก
เป็นช่วงการปรับเปลี่ยนกำลัง ใกล้สิ้นปีงบประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.
เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่ปฏิบัติงานใน จชต. บางส่วนครบกำหนดเกณฑ์แล้ว
บ้างลงมาปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี หรือ 2 ปี เตรียมเก็บข้าวของกลับบ้านเพื่อส่งต่อให้กับผู้มาปฏิบัติหน้าที่ชุดใหม่เข้ามารับผิดชอบหน้าที่แทน
ส่งผลให้มาตรการในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่อาจจะลดความเข้มข้นลง กลุ่มโจรใต้จึงอาศัยช่องว่างดังกล่าวลงมือก่อเหตุสร้างสถานการณ์
ประการที่
2 เป็นการประกาศศักดา และศักยภาพแสดงความมีตัวตนของกลุ่ม ผกร.
อีกทั้งเป็นการตอบโต้ฝ่ายความมั่นคง เหตุความรุนแรงที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นในพื้นที่
จชต. ไม่ใช่เหตุความมั่นคง แต่เป็นเหตุที่เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว
เกิดจากธุรกิจผิดกฎหมายซึ่งเป็นภัยแทรกซ้อนจากการค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน
สินค้าลักลอบหนีภาษี
ประการที่
3 เป็นการกดดันขับไล่ชาวไทยพุทธออกนอกพื้นที่ จชต.
พฤติกรรมดังกล่าวเป็นแนวทางของกลุ่มขบวนการที่ได้กระทำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความหวาดกลัวต่อกลุ่มคนไทยพุทธ
แต่ในระยะนี้มีการก่อเหตุถี่ขึ้นรายวัน
ประการสุดท้าย
กดดันกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข เป็นการตอบโต้การเปลี่ยนตัวผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติสุข
ซึ่งนายกฯ มาเลเซียได้แต่งตั้ง ตัน สรี อับดุล ราฮิม บิน โมห์ด นูร์ (Tan Sri Abdul Rahim bin Mohd. Noor) เคยเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจ
และผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมาเลเซีย
จะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
แทน ดาโต๊ะ สรี อะหมัด ซัมซามิน ฮาซิม
อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่ามาเลเซียจะประกาศนโยบายไม่ให้กลุ่ม ผกร. ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่
จชต. มาใช้ดินแดนมาเลเซียเข้ามาพักพิง หลบซ่อนตัว
หรือทำการสะสมอาวุธเพื่อทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ จชต.
ของประเทศไทยอีกต่อไปเหมือนที่ผ่านๆ มาอีกแล้ว
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นความพยายามของกลุ่มโจรใต้ในการก่อเหตุ
แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงยังคงเป็นประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งกลุ่มโจรใต้ยังได้มีการแต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่รัฐในการก่อเหตุ ถือได้ว่ากลุ่มโจรใต้ได้ตบหน้าฝ่ายความมั่นคงฉาดใหญ่ ด้วยการแต่งเครื่องแบบทหารก่อเหตุ
ดังนั้นตราบใดที่ ผู้มีอำนาจในการแก้ไขปัญหา ยังไม่ยอมรับว่าสู้อยู่กับ BRN และเจ้าหน้าที่ผู้น้อย ยังไม่รู้ว่าสู้อยู่กับใครก็สรุปได้เลยว่า ไม่ว่าใครจะมีอำนาจ หรือว่าใครจะเป็น ผบ.ทบ. ร้อยคนพันนาย ไฟใต้ก็ยังจะต้องโชนแสงต่อไป เพราะสู้แบบ ไม่รู้เขา รู้แต่เรา รบพันครั้ง ก็แพ้พันครั้ง อย่างที่เป็นอยู่ไม่รู้จบในขณะนี้ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องมารับเคราะห์กรรมแทนทั้งสองฝ่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น