คุณรู้ไหมเงินรัฐที่จ่ายค่าตอบแทนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาบางแห่งให้ครูสอนศาสนานั้น
ถูกปิดบังฉ้อโกง และนำเงินค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายครูนั้นนำไปให้กับ
กลุ่มขบวนการโจรใต้
เป็นที่ทราบกันดีกว่าในสามจังหวัดชายแดนใต้ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
ทุกครอบครัวนิยมที่จะส่งบุตรหลานให้เรียนศาสนาอิสลามตั้งแต่เยาว์วัย
เพราะการศึกษาศาสนาถือว่าเป็นการศึกษาภาคบังคับของพีน้องมุสลิมทุกคน
สถาบันการศึกษาปอเนาะ
และโรงเรียนเอกสอนศาสนาอิสลามจึงมีบทบาทสำคัญในการให้การอบรมและขัดเกลาจิตใจของเยาวชนให้เป็นคนดีมีความรู้คู่คุณธรรม
จึงไม่แปลกที่ปอเนาะและโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาพุดกันเหมือนดอกเห็ดเต็มไปทั่ว 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้
สถาบันปอเนาะและโรงเรียนสอนศาสนาจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ
ค่าบำรุง ค่าตอบแทนรายเดือน ค่าเสียงภัยให้กับครูในโรงเรียน แต่สถาบันปอเนาะและโรงเรียนสอนศาสนาบางแห่งกลับต้องมาด้างพล้อยเพราะการกระทำของกลุ่มขบวนการ
BRN
ที่แอบแฝงมาเป็นครูสอนศาสนาโดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนรู้เห็นเป็นใจ บังคับครูในโรงเรียนให้คืนเงินหรือบริจาคตามหลักศาสนา
โดยมีการทำสัญญากันไว้เพื่อป้องกันตนเอง
ดังเช่น กรณีผู้ใช้ Facebook Siti-Maryam Kolae ได้โพสต์ระบายความคับแค้นใจกับสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดของตนเอง โดยระบุว่า “สิ่งที่ไม่เข้าใจที่สุดตอนนี้คือ พฤติกรรมของเจ้าของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในสามจังหวัดหรืออาจจะมีจังหวัดอื่นๆร่วมด้วยในเรื่องของเงินเดือนบุคลากร....ทำไมถึงเอาเปรียบผู้สอนขนาดนั้น
เซ็นรับเงินเดือน 15,000.- หรือมากกว่านั้น แต่ได้รับเงินแค่7,000.- -
8,000.-บาทเท่านั้น...บางคนที่ควรจะได้รับค่าเสียงภัยก้อไม่ได้รับ...แต่สิ่งที่เห็นชัดเลยคือ
เจ้าของโรงเรียนรวย...มีเมียเพิ่มขึ้น..ความเป็นอยู่ดีขึ้น...แต่กลับกันครูมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง...แล้วมาอ้างว่าให้นียัตทำเพื่อศาสนา....ทำเพื่ออาคีรัต....บังคับหักตังครูเพื่อบริจากโรงเรียน..ต่าง
ๆ นาๆ...จะมีใครสามารถช่วยในเรื่องพวกนี้...ช่วยกำจัดและจัดการพวกที่เอาเปรียบสังคมพวกนี้หน่อย
ส่งสารเหล่าบันดาคุณครูทั้งหลาย....
#คนโพสไม่ได้ประกอบอาชีพครูนะคะ
#แต่ได้รับฟังจากเพื่อนพี่น้องที่เป็นครูมา
#ซึ้งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจเพราะจะมีผลกระทบกับงานที่ทำ.
นี้คือความรู้สึกของหญิงสาวคนนี้ที่ระบายความรู้สึกแทนครูในสามจังหวัดชายแดใต้
ที่ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนบางแห่งกระทำฉ้อโกงด้วยการบังคับให้บริจาคเงินเดือนตัวเองกว่าครึ่งหนึ่งให้กับโรงเรียน ซึ่งกรณีแบบนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบแล้วเมื่อกลางปี
61 ขอยกกรณีตัวอย่างของโรงเรียนบากงพิทยาที่
เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากการตรวจพบวัตถุระเบิดในพื้นที่ใกล้โรงเรียนบากงพิทยา
ผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวและซัดทอดมายังโรงเรียนว่าเป็นสถานที่ฝึก
ทำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจค้นโรงเรียนบากงพิทยาโดยทันทีพบหลักฐานแนวทางการต่อสู้ของกลุ่มขบวนการ
พบหลักฐานทุจริตเงินเดือนครู พบหลักฐานทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวจากรัฐ เป็นเงินมากกว่า 10 ล้านบาท
และที่สำคัญยังพบว่ามีการจ้างและให้ค่าตอบแทนกับนายซาการียา หัดสมัด ผกร.ก่อเหตุเผา
7-11 ดอนยาง ผกร.เข้ามาแฝงตัวเป็นครูสอนศาสนา โดยผู้อำนวยการรู้เห็นเป็นใจและให้ทำหน้าที่เป็นครูด้วยการบิดเบือนคำสอนให้กับเด็ก
ๆ ในโรงเรียนให้มีความเกลียดชังคนต่างศาสนา สร้างความคับแค้นอคติให้กับเด็กๆ
เกลียดชังเจ้าหน้าที่ ในที่สุดเด็กเหล่านี้ก็เข้าร่วมขบวนการ
จนนำไปสู่การก่อเหตุร้ายจากรุ่นสู่รุ่น
นายซาการียา
หัดสมัด ควบคุมตัวเมื่อ 9 ต.ค. 60
-
เมื่อประมาณปี 2549 เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม ผกร. ในพื้นที่ อ.หนองจิก
-
ฝ่ายส่งกำลังบำรุง (Logistic)
และให้การสนับสนุนด้านเงินให้กับกลุ่ม ผกร. ทั้งใน และนอกพื้นที่
-
หมายจับ จ 657/60 ลงวันที่ 30 พ.ย. 60
-
ให้ข้อมูลขณะอยู่ในเรือนจำปัตตานี จนสามารถจับกุมนายสาลาฮูดิน ลาเตะ/เลาะแคนา
เมื่อ 12 ม.ค. 61
-มีส่วนร่วมในการก่อเหตุ
2 เหตุการณ์
เมื่อ
2 พ.ย.59 บุกก่อเหตุเผาร้านสะดวกซื้อ 7-11 และระเบิดปั้มน้ำมัน ปตท.ดอนยาง
อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเมื่อ 15 ก.ค.60 ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิง ใส่บ้านเรือนราษฎร
ไทยพุทธ เป็นเหตุให้ราษฏร บาดเจ็บ 5 ราย เหตุเกิด บริเวณถนนสาย ดอนยาง ต.บ่อทอง
อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
จากข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์กรณีการขอบริจาคเงินเดือนครูให้กับโรงเรียนเป็นที่น่าสนใจคือเงินที่ได้บริจาคหายไปไหน
ถูกใช้ในการสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรงต่างๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่?? ถ้าใช่ก็คงจะเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐที่จะต้องดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
และควรมีมาตรการบทลงโทษโรงเรียนเหล่านี้ให้ถึงที่สุด
รวมทั้งบังคับให้โรงเรียนเหล่านี้คืนเงินที่โกงรัฐไปให้หมดซึ่งเงินตัวนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกใช้ไปมากน้อยเท่าใดแล้วเช่นกัน
----------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น