จับแล้ว 6 คนร้ายก่อเหตุระเบิดและยิงการไฟฟ้า 2 คดี แม่ทัพรุดสอบสวน พร้อมแถลงข่าวคืบหน้า
เมื่อวันที่ 9 กย. ที่มณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอโคกโพธิ์ พ.ต.อ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.สายบุรี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ทพ.43 พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ทพ.44 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าในคดีความมั่นคง จำนวน 2 คดี โดยคดีแรก เหตุคนร้ายกราดยิง พร้อมขว้างระเบิดเพลิงใส่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน หลังจากที่นำวัตถุพยานทั้งปลอกกระสุนปืนอาก้า จำนวน 7 ปลอกและปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 10 ปลอก รวมไปถึงขวดน้ำบรรจุน้ำมันเบนซิน และภาพจากกล้องวงจรปิด จึงทำให้สามารถรู้ตัวผู้ต้องสงสัย ที่ร่วมก่อเหตุดังกล่าว จำนวน 5 คน โดยอีก 3 คนขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี และจากการสอบปากคำ 1 ใน 2 ที่ถูกควบคุมตัวให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุโดยมี นายรอซาลี หลำโซ๊ะ และ นายอับดุลเลาะ มูดอ เป็นแกนนำร่วมก่อเหตุและมีหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 4 หมาย
ส่วนคดีตรวจยึดระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 15 กก. พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 7 กย.ที่ผ่านมานั้น จากการสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 1 ใน 3 ได้ให้การรับสารภาพเป็นคนรับระเบิดมาจากชายไม่ทราบชื่อและกำลังนำระเบิดส่งให้กับชายไม่ทราบชื่อในพื้นที่ต่อ แต่ไม่ทราบว่าบุคคลที่กล่าวอ้างนั้นเป็นใคร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์สามารถขยายผลนำไปสู่การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 คน อย่างไรก็ตามผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 คน 2 คดีถูกนำตัวเข้าสู่ขบวนการสอบสวนที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหารเพื่อขยายผลในการจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ
พลโท ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า วันนี้มีเรื่องดีและไม่ดี คือ ได้รับรายงานตัวผู้หลงผิดเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน จำนวน 3 คน ทุกวันนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 500 คนและยอมรับว่ามีคนต่อต้าน ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไร และโครงการพาคนกลับบ้านก็จะทำอยู่ต่อเนื่อง ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัย ทั้ง 6 คนใน 2 คดีพร้อมยึดของกลางมีทั้งระเบิดแสวงเครื่อง อาวุธปืนและวัตถุพยานต่าง ๆ ทำให้สามารถขยายผลจนรู้ตัวผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายคน ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเพราะเจ้าหน้าที่เปิดแผนยุทธการณ์ที่เข้มงวดในการปราบปรามทำให้กลุ่มคนเหล่านี้พยายามออกมาตอบโต้ด้วยวิธีการที่รุนแรง ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดี ยังมีการก่อเหตุ โดยเฉพาะการทำร้ายผู้หญิงและเด็ก ทำร้ายผู้ที่ไม่มีทางสู้ อุดมการณ์จริง ๆ แล้วไม่มี มีแต่การหาเงินโดยการก่อเหตุร้าย การทำร้ายประชาชน ตนเชื่อว่า อีกไม่นานกลุ่มที่ถูกทำร้ายเค้าจะรวมตัวสู้กับคุณ ขอให้ใช้สมองคิดบ้าง อย่าคิดแต่จะทำร้ายคนอื่น ตนจะบอกว่าคนที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จับได้มาหลายคนแล้ว คนที่เหลือถ้าได้ฟังที่ตนพูด ขอให้คิดใหม่ และกลับมาทำตัวใหม่ อย่าอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ระเบิดแต่ละลูกทำร้ายชีวิต ต่อไปอาจจะถูกญาติพี่น้องของตัวเองก็ได้ ถ้าเลวไม่สำนึก ตนก็จะใช้กฎหมายดำเนินการอย่างหนักแน่นอน สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีความมั่นคง ก็ต้องถูกตั้งข้อหา ก่อการร้าย และขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วงเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลรถต้องสงสัยและวัตถุต่าง ๆ หากพบก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะรถ จยย.ยี่ห้อฮฮนด้า สีขาวซึ่งคนร้ายนำมาก่อเหตุแล้ว 5 คดี เชื่อว่าต่อไปอาจจะนำระเบิดมาซุกแล้วนำไปลอบวางระเบิดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น