3/23/2563

ภาคประชาสังคมชายแดนใต้.. อ้างโควิด-19 เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่.. เพื่อใคร..



สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) เรียกตัวเองว่า เป็นกลุ่มภาคประชาสังคมที่มีแนวทางการทำงานสอดคล้องกับกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการบังคับใช้กฎหมายพิเศษตั้งแต่ปี 2550  ได้ออกแถลงการณ์พิเศษ เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา   โดยเรียกร้องรัฐและBRN หยุดปฏิบัติการทางอาวุธอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกลับมาสู่ภาวะปกติที่ควบคุมได้โดยไม่ส่งผลเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้คนอีกต่อไป  โดยมีข้อเรียกร้อง ความว่า..  “ขอเรียกร้องรัฐและBRN โปรดเห็นแก่ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นที่ตั้ง ด้วยการดำเนินการยุติปฏิบัติการทางอาวุธหรือการสู้รบกันอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกลับมาสู่ภาวะปกติที่ควบคุมได้ โดยไม่ส่งผลเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้คนและพี่น้องประชาชนอีกต่อไป ”
ฟังแบบผิวเผินก็ดูเหมือนว่าจะดี..  แต่พิจารณาดูดีดีแล้ว.. เอ๊..นี่มันยังไงกันแน่..  กับแถลงการณ์นี้..  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นฝ่ายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2503 ที่มีการประกาศก่อตั้งขบวนการ BRN คนกลุ่มนี้ก็สร้างความเลวร้ายด้วยการปล้นฆ่าชาวบ้าน เรียกเก็บค่าคุ้มครอง จับตัวเรียกค่าไถ่ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ในทุกรูปแบบมาโดยตลอด   ตั้งแต่ปี 2547  คนกลุ่มนี้ได้เพิ่มความเลวร้ายด้วยการสร้างความรุนแรงให้มากขึ้นดังที่ทราบกันดี  ไม่ว่าจะเป็นการลอบวางระเบิดเพื่อสร้างความหวาดกลัว/ทำร้ายผู้บริสุทธิ/ประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่  การยิงครู/เผาโรงเรียน เพื่อสร้างความหวาดกลัวและทำร้ายเด็กๆ การเผาสถานที่ราชการและระบบสาธารณูปโภค ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไปต้องได้รับความเดือนร้อน และอีกสารพัดความเลวร้ายที่คนกลุ่มนี้สร้างขึ้นในพื้นที่..  และล่าสุดกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหน้า ศอ.บต. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้หลอกลวงปล้นรถชาวบ้านแล้วจับมัดไว้ ก่อนนำรถไปประกอบระเบิด โดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะนำรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่หน้า ศอ.บต. ในพื้นที่เมืองยะลา  แล้วกดระเบิด/สร้างความเสียหาย ทำให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิได้รับบาดเจ็บ รวม 18 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวครึกโครม..
ผ่านมาอีกไม่กี่วัน  เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ลุกลามเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภาคใต้  เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ถึงวิธีการป้องกันตัวเอง เพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น  รวมถึงได้มีการรณรงค์ทำความสะอาดกำจัดเชื้อโรคตามมัสยิดและสถานที่ราชการในพื้นที่ โดยมีกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จัดสัปดาห์ละครั้ง  แต่เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ก็คือ ในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดมัสยิด บ.ลาไม ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส  ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดกิจการพลเรือน ทพ.45 เดินทางออกจากการทำกิจกรรมดังกล่าว  กลุ่มคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ฯ บริเวณถนนในหมู่บ้าน ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย
จึงเป็นคำถาม.. ที่สังคมส่วนรวม โดยเฉพาะคนในพื้นที่ชายแดนใต้.. อยากได้คำตอบจาก สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) ว่า สิ่งที่ออกมาแถลงการเรียกร้องนั้น..  มีเจตนาอะไรกันแน่..  อยากจะแสดงบทบาทอะไร..  อยากจะช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆ หรือเปล่า.. ถ้าอยากจะช่วยชาวบ้านจริงๆ ทำไมไม่ประณาม การกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง และ BRN ที่ออกมาทำร้ายซ้ำเติมพี่น้องประชาชนในยามทุกข์ยากอยู่ขณะนี้.. แทนที่จะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่.. หรือกลัวว่า คนร้ายที่กำลังหลบหนีการติดตามจับกุมจะตายเพิ่มอีก.. หรือยังไง.. ช่วยตอบสังคมทีเถอะ

---------------------------

3/17/2563

ละครลวงโลกเพื่อยกระดับปัญหาชายแดนใต้ของไทยไปสู่เวทีโลก


            ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ที่ปรากฏชัดเจนมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน มีการลักลอบเผาโรงเรียนของรัฐบาลไปมากกว่า 320 แห่ง เผาบ้านเรือนประชาชนไป 300 กว่าหลังคาเรือน  เผาสถานที่ราชการไป 120 กว่าแห่ง  ประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนา ถูกยิงเสียชีวิต 2,945 คน บาดเจ็บ 6,276 คน  นี่ยังไม่นับรวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ตำรวจ ทหาร ครู อาสาสมัคร และคนร้ายผู้ก่อเหตุฯ ที่เสียชีวิตรวมกันอีกนับพันกว่าคน (ข้อมูลสถิติฯ จากฝ่ายความมั่นคงฯ ตั้งแต่ มกราคม 2547 ถึง ตุลาคม 2562)
            เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้  ยังไม่เคยมีใครออกมาแสดงตัวตนว่าเป็นผู้สั่งการ/ก่อเหตุ หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นฝีมือของคนกลุ่มไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว.. ซึ่งฝ่ายรัฐก็พยายามหาทางยุติปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการพูดคุยกับกลุ่มที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งก็มีอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน และกลุ่มที่น่าจะมีบทบาทมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ กลุ่มบีอาร์เอ็น (Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani  :  ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี)  ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็น ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ.2503 โดย อุสตาซ อับดุลการิม ฮัสซัน ในเวลานั้นได้การวางแผนก่อเหตุในวันฮารีรายอ 18 มีนาคม พ.ศ.2504 แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบล่วงหน้าจึงถูกจับกุม โดย หะยีอามีน โต๊ะมีนา บุตรชายของหะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ถูกจับกุมด้วย และถูกจำคุกจนถึง พ.ศ.2508 เมื่อพ้นโทษ หะยีอามีนฯ จึงลี้ภัยไปอยู่มาเลเซียจนเสียชีวิต 
            เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ จึงเกิดขึ้นมาต่อเนื่องยาวนานนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนถึงปี 47 ที่ปรากฏความรุนแรงชัดเจนดังที่เราท่านทราบกันดี ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ยังไม่เคยมีการออกมาแสดงตัวตนว่า เหตุร้ายความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น กลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นผู้สั่งการให้แนวร่วมเป็นผู้ก่อเหตุฯ ไม่เคยเลยที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นฝีมือของคนกลุ่มของตนเองแม้แต่ครั้งเดียว
            มาถึงวันนี้ กลุ่มบีอาร์เอ็น เดินหมากหวังรุกทางการเมืองเพื่อแสดงตัวตนในเวทีโลก ด้วยการลงนามในคำแถลงฝ่ายเดียว ว่าด้วยเรื่อง การปกป้องเด็ก จากผลกระทบของการขัดกันทางอาวุธ (Armed Conflict) เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา  ซึ่งมีการเผยแพร่เอกสารดังกล่าวในเว็บไซต์ theirwords.org  โดย Geneva Call ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่เรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธทั่วโลกเคารพในหลักการและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ว่านี้.. 
            ละครฉากนี้ กลุ่มบีอาร์เอ็นแสดงได้อย่างหน้าไม่อายเลยจริงๆ  ที่ผ่านมาทำอะไรไว้บ้าง.. เด็กๆ ในพื้นที่ชายแดนใต้ต้องรับเคราะห์กรรมไม่มีที่เรียนหนังสือเพราะโรงเรียนถูกเผา  เด็กเหล่านี้มีจำนวนเท่าไร..    แล้วการก่อเหตุยิงครูตายไปอีกจำนวนเท่าไรเพราะทำให้เด็กๆ ไม่มีคุณครูสอนหนังสือ..  และที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ กลุ่มบีอาร์เอ็นวางระเบิดและยิงได้แม้กระทั้งเด็กๆ พ่อแม่เด็กที่ถูกฆ่าตายจนเด็กๆ ต้องเป็นกำพร้า ไร้หลักชีวิตสิ้นอนาคตไปอีกเท่าไหร่..  แล้วอย่างนี้ กลุ่มบีอาร์เอ็น ยังจะมีหน้าไปแสดงละครบนเวทีโลก เพื่อปกป้องเด็ก อีกกระนั้นหรือ.. เห็นแล้วมันช่างน่ารังเกียจกับพฤติกรรมความชั่วที่ได้สร้างสมมาจริงๆ องค์กรอิสระที่ร่วมลงนามหรือรับรองอะไรก็ตาม ดูเหมือนจะแค่หลับหูหลับตาทำกันไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้มีผลงาน  ไม่ได้มีหลักเกณฑ์มีการตรวจสอบคุณสมบัติความเหมาะสมของกลุ่มที่จะไปลงนามอะไรด้วยเลย.. ว่ามีเหตุผลมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใดกับพฤติกรรมความชั่วที่กลุ่มเหล่านั้นได้กระทำมาในอดีตจนถึงปัจจุบันอย่างไรบ้าง.. ใช่หรือไม่..
            หลังจากลงนามแล้วยังไม่ถึงเดือน กลุ่มบีอาร์เอ็นได้สั่งการให้แนวร่วมปฏิบัติการก่อเหตุลอบวางระเบิด ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563  เป็นเหตุให้เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน  แล้วแบบนี้ท่านองค์กรอิสระฯ จะว่ายังไงบ้าง.. กลุ่มบีอาร์เอ็นรู้สึกรู้สาอะไรบ้างหรือไม่ กับละครลวงโลกเพื่อยกระดับปัญหาเพื่อให้กลุ่มตัวเองดูดีมีความสำคัญขึ้นมา.. แต่ในความเป็นจริงแล้ว.. ก็เป็นได้แค่โจรใต้ที่คอยลอบกัด.. มีแต่ความทุเรศที่ชาวบ้านเขาสาปแช่งด่าทออยู่ทุกวัน กับพฤติกรรมความชั่วที่ทำมายาวนาน.. มาจนถึงทุกวันนี้.. นั่นล่ะ..

------------------------------