สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) เรียกตัวเองว่า เป็นกลุ่มภาคประชาสังคมที่มีแนวทางการทำงานสอดคล้องกับกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ในการบังคับใช้กฎหมายพิเศษตั้งแต่ปี 2550
ได้ออกแถลงการณ์พิเศษ เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเรียกร้องรัฐและBRN หยุดปฏิบัติการทางอาวุธอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
จะกลับมาสู่ภาวะปกติที่ควบคุมได้โดยไม่ส่งผลเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้คนอีกต่อไป โดยมีข้อเรียกร้อง ความว่า.. “ขอเรียกร้องรัฐและBRN โปรดเห็นแก่ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นที่ตั้ง ด้วยการดำเนินการยุติปฏิบัติการทางอาวุธหรือการสู้รบกันอย่างไม่มีกำหนด
จนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกลับมาสู่ภาวะปกติที่ควบคุมได้
โดยไม่ส่งผลเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้คนและพี่น้องประชาชนอีกต่อไป ”
ฟังแบบผิวเผินก็ดูเหมือนว่าจะดี..
แต่พิจารณาดูดีดีแล้ว.. เอ๊..นี่มันยังไงกันแน่.. กับแถลงการณ์นี้.. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นฝ่ายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ตั้งแต่ปี
2503 ที่มีการประกาศก่อตั้งขบวนการ BRN คนกลุ่มนี้ก็สร้างความเลวร้ายด้วยการปล้นฆ่าชาวบ้าน
เรียกเก็บค่าคุ้มครอง จับตัวเรียกค่าไถ่ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ในทุกรูปแบบมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2547
คนกลุ่มนี้ได้เพิ่มความเลวร้ายด้วยการสร้างความรุนแรงให้มากขึ้นดังที่ทราบกันดี ไม่ว่าจะเป็นการลอบวางระเบิดเพื่อสร้างความหวาดกลัว/ทำร้ายผู้บริสุทธิ/ประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่
การยิงครู/เผาโรงเรียน
เพื่อสร้างความหวาดกลัวและทำร้ายเด็กๆ การเผาสถานที่ราชการและระบบสาธารณูปโภค
ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไปต้องได้รับความเดือนร้อน
และอีกสารพัดความเลวร้ายที่คนกลุ่มนี้สร้างขึ้นในพื้นที่.. และล่าสุดกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหน้า ศอ.บต.
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้หลอกลวงปล้นรถชาวบ้านแล้วจับมัดไว้ ก่อนนำรถไปประกอบระเบิด
โดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะนำรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่หน้า ศอ.บต.
ในพื้นที่เมืองยะลา แล้วกดระเบิด/สร้างความเสียหาย
ทำให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิได้รับบาดเจ็บ รวม 18 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวครึกโครม..
ผ่านมาอีกไม่กี่วัน
เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19
ลุกลามเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ถึงวิธีการป้องกันตัวเอง
เพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น
รวมถึงได้มีการรณรงค์ทำความสะอาดกำจัดเชื้อโรคตามมัสยิดและสถานที่ราชการในพื้นที่
โดยมีกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
จัดสัปดาห์ละครั้ง
แต่เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ก็คือ ในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา
หลังจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดมัสยิด บ.ลาไม ต.บองอ อ.ระแงะ
จ.นราธิวาส
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดกิจการพลเรือน ทพ.45
เดินทางออกจากการทำกิจกรรมดังกล่าว
กลุ่มคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ฯ บริเวณถนนในหมู่บ้าน ได้รับบาดเจ็บ
จำนวน 2 นาย
จึงเป็นคำถาม.. ที่สังคมส่วนรวม โดยเฉพาะคนในพื้นที่ชายแดนใต้..
อยากได้คำตอบจาก สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) ว่า สิ่งที่ออกมาแถลงการเรียกร้องนั้น.. มีเจตนาอะไรกันแน่.. อยากจะแสดงบทบาทอะไร.. อยากจะช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆ หรือเปล่า..
ถ้าอยากจะช่วยชาวบ้านจริงๆ ทำไมไม่ประณาม การกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง และ BRN ที่ออกมาทำร้ายซ้ำเติมพี่น้องประชาชนในยามทุกข์ยากอยู่ขณะนี้..
แทนที่จะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่.. หรือกลัวว่า
คนร้ายที่กำลังหลบหนีการติดตามจับกุมจะตายเพิ่มอีก.. หรือยังไง..
ช่วยตอบสังคมทีเถอะ
---------------------------