แบมะ ฟาตอนี
เมื่อ 23 กันยายน 2557 เว็บไซต์
patanigovtinexile.wordpress.com ได้นำเสนอเรื่องราวการออกมาแถลงการณ์เผยแพร่ผ่านสื่อYou Tube ของกลุ่มสมัชชาประชาชนมลายูปัตตานี (Majlis Permesyuaratan Rakyat Melayu : MPRMP) โดยนายโต๊ะวันฮามะ ยูซุฟ ประธาน และนายไซด์ ตันศรีอาซิช รองประธาน ซึ่งได้มีการประกาศอิสรภาพจากประเทศไทยและจัดตั้งรัฐบาลปาตานีพลัดถิ่น
คณะทำงานเพื่อเอกราชปัตตานี (KBKP) จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ.2539 ต่อมาได้มีการปรับปรุงพัฒนาบทบาทหน้าที่
และรูปแบบการดำเนินงาน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น“คณะกรรมการเจรจาเพื่อประชาชนมลายูปัตตานี” (Komiti Perundinga Rakyat
Melayu Patani:KPRMP) โดยมี ดร.วันกาเดร์ เจ๊ะมาน และ ดร.มาฮาดี
ดาโอ๊ะ เป็นประธาน ทำหน้าที่ร่างระเบียบ ข้อบังคับว่าด้วยการก่อตั้ง
สมัชชาประชาชนมลายูปัตตานี เมื่อ 23 พ.ย.39 และแก้ไขเมื่อ 4 ม.ค.40 และ 1
มี.ค.40 ลงนามรับรองโดยประธานและกรรมการ KPRMP
และหัวหน้าทุกขบวนการ
เมื่อวันที่ 14-15
มิ.ย.40 ได้มีการจัดประชุมขึ้นของผู้นำขบวนการต่างๆ
ที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยมี ดร.มาฮาดี ดาโอ๊ะ, ดร.วันกาเดร์ เจ๊ะมาน
ประธาน BERSATU, รองประธาน BERSATU,
ประธาน BIPP, ประธาน BRN Co-ordinate, ประธาน
BRN-Congress, ประธาน GMP, ประธานกลุ่มอูลามาปาตานี
(GUP) , ประธาน PULO ใหม่ และตัวแทนเข้าร่วมประชุม รวม 84 คน สาระสำคัญคือ
ประกาศก่อตั้งสมัชชาประชาชนมลายูปัตตานี (MPRMP)
และเปลี่ยนแปลงคำย่อเป็น MPRP หรือ The Patani Malay
Consultative Congress:PMCC เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.40
ซึ่งถือเป็นวาระครบรอบ 540 ปี
ของการนับถือศาสนาอิสลามของชนชาติมลายูปัตตานี และกำหนดให้วันดังกล่าวเป็น “วันชาติมลายูปัตตานี”ทั้งนี้กลุ่ม MPRMP เป็นองค์กรทางการเมืองที่มีกลุ่มพันธมิตรใน BERSATU ได้แก่
PULO ใหม่, BIP, BRN-Congress และ GMP และกลุ่มที่ไม่สังกัด
BERSATU อาทิเช่น BRN CO-ordinate, PULO
88, GUP (กลุ่มอูลามาปาตานี)
เป็นแกนนำในการจัดตั้ง เพื่อสร้างเอกภาพในการต่อสู
และมีอำนาจต่อรองในการเจรจากับรัฐบาลไทย
ตลอดจนเพื่อแสวงหาการสนับสนุนจากแนวร่วมทั้งในและต่างประเทศ
โดยนำหลักการต่อสู้เพื่อศาสนา หรือ Jihad มาเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการดำเนินงาน
มีการโฆษณาชวนเชื่อโดยขบวนการ
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแลงรูปแบบการต่อสู้จากเดิมมาเป็นรูปแบบใหม่
ประวัตินายโต๊ะวันฮามะ ยูซุฟ ประธาน MPRMP
นายโต๊ะวันฮามะ ยูซุฟ
ซึ่งได้อ้างตัวเองว่าเป็นประธาน MPRMP นั้น
น่าจะเป็นบุคคลคนเดียวกันกับ นายวาห์ยุดดีน มูฮัมหมัด แกนนำ BIPP และดีกรียังเคยดำรงตำแหน่งประธาน BERSATU นายวาห์ยุดดีน
เป็นชาวจังหวัดปัตตานีโดยกำเนิด
ปัจจุบันจากแหล่งข่าวได้เปิดเผยว่าอาศัยอยู่ในบ้านเช่าย่านฮัจยะห์โรสนิบาร์
ถนนศรีเซอลายัง เขตกอมบัก กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
จากการตรวจสอบยังพบว่านายวาห์ยุดดีนเคยเป็นตัวแทนของกุ่มสมัชชาประชาชนลายูปัตตานี
(MPRMP)
เข้าร่มในการเจรจากับหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลไทยคณะหนึ่งที่ทำเนียบโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อประมาณเดือนกันยายน ปี 2551 ทั้งนี้ นายวาห์ยุดดีน ดีกรียังเคยดำรงตำแหน่งประธาน
BERSATU ก่อนที่
ดร.วันกาเดร์ เจ๊ะมัน, ดร.มาฮาดี ดาโอ๊ะ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนจนถึงปี 50 สำหรับ ดร.วันกาเดร์ และ ดร.มาฮาดีในปัจจุบันได้ประกาศยุติบทบาทและกลับใจหันมาให้ความร่วมมือกับภาครัฐแล้ว
ย้อนรอยความเคลื่อนไหวของ MPRMP
ที่ผ่านมา
ปลายปี 2540 ได้ปรากฏเอกสารแผ่นปลิวกรรโชกทรัพย์ของ กองกำลังติดอาวุธร่วมแห่งชาติปัตตานี (Angkatan Bersenjata Bersatu Negara Patani)
ซึ่งได้มีการข่มขู่กรรโชกทรัพย์บริษัท เอส.ที.พาราวู๊ด จำกัด เลขที่ 400 ถนนสาธารณประโยชน์ หมู่ 7 ต.สะแตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา และบริษัทเอ็มวู๊ด จำกัด เลขที่ 46 ถนนวิทยุ-โต๊ะปาเก๊ะ
หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา
ต้นปี 2541 หนังสือพิมพ์ BERNAMA ของมาเลเซีย ฉบับวันที่ 16
ม.ค.41)
ได้รับเอกสารจากสมัชชาประชาชนมลายูปัตตานี (MPRMP) ระบุว่า
สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน
ลงนามโดย นายโมฮัมหมัด ฮาริส ฮาดาฟี เลขานุการส่วนตัวของ ดร.มาฮาดี ดาโอ๊ะ/ดร.วันกาเดร์
เจ๊ะมัน ประธาน MPRMP ปฏิเสธข้อกล่าวหาของทางการไทยที่ระบุว่า
หน่วยจรยุทธ กองกำลังติดอาวุธของพวกตนที่ทำการฝึกในประเทศมาเลเซีย และได้แสดงความรับผิดชอบว่าการก่อการร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของไทยเป็นการกระทำของพวกตน
11 มี.ค.41 บริษัทการบินไทย
(มหาชน) จำกัด ได้รับเอกสาร ซึ่งเป็นจดหมายส่งจากประเทศเยอรมัน ประทับตรา
สัญลักษณ์ กองกำลังติดอาวุธปัตตานี (Angkatan Bersenjata Bersatu Negara
Patani-ABNP) มีข้อความว่า “เป้าหมายของกองกำลังติดอาวุธแห่งชาติปัตตานี
คือการต่อสู้เพื่อ ทำการปลดปล่อยและจัดตั้งรัฐปัตตานีให้เป็นอิสระ
หลังจากที่รัฐปัตตานีตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศไทยตั้งแต่ ค.ศ.1902 (พ.ศ.2445)พวกเรากองกำลังติดอาวุธแห่งชาติปัตตานี
ขอเตือนบริษัทการท่องเที่ยว ให้หยุดการบริการในประเทศไทย หรือโดยสารโดยเครื่องบินของการบินไทย
มิฉะนั้นพวกเราจะไม่รับรองความปลอดภัย”ท้ายลงชื่อ “อับดุลเราะมาน”
26 ก.ย.57 เว็บไซต์ patanigovtinexile.wordpress.com
ได้นำเสนอเนื้อหาข่าวสารกลุ่ม MPRMP
เตรียมยื่นเอกสารการจัดตั้งรัฐบาลอิสลามมลายูปาตานีพลัดถิ่น
แก่นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (UN)
พร้อมระบุถึงพื้นที่ประเทศอิสลามมลายูปาตานี ประกอบด้วย จังหวัดยะลา,
จังหวัดนราธิวาส, จังหวัดปัตตานี, จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล
ท่าทีนักวิชาการต่อกลุ่ม MPRMP
ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี
อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี/ผอ.ศูนย์เฝ้ารัวังสถานการณ์ภาคใต้ ระบุว่า
เคยเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยไปแถลงการณ์ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเจรจากับรัฐบาลไทยสมัย
นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี กลุ่มเก่าที่ไม่มีบทบาท
พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม ที่ปรึกษามูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้
ระบุว่า คลิปดังกล่าวเป็นการแสดงออกของกลุ่มมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี
โดยมีนายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ เป็นประธาน สาเหตุของการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว
เนื่องจากการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่ม BRN และกลุ่ม PULO ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ
แต่กลุ่มดังกล่าวไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเจรจา
จึงออกมาประกาศจุดยืนการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
นายฮาร่า ชินทาโร่
อาจารย์สอนวิชาภาษามลายู มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตกตานี ได้กล่าวว่า
การประกาศดังกล่าวยังมีกลุ่มบุคคลที่ไม่คำนึงถึงความสำคัญของคนมลายูปาตานี แต่ในทางตรงกันข้ามกลับให้ความสำคัญเฉพาะกลุ่มของตนเอง
ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของประชาชนปาตานี ที่ต้องการความเป็นหนึ่งเดียว
นายกามาลุดดีน ฮานาฟี ตัวแทน BIPP
ระบุว่าจากประสบการณ์ที่เคยทำงานร่วมกักลุ่มดังกล่าว ระยะเวลาร่วม 30
ปี ได้ทราบถึงความเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ แต่เวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว
เป็นแค่ความพยายามของคนชราที่ไม่มีอำนาจแล้ว ยากที่จะได้รับความสนใจของคนรอบข้าง
การแถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์
เว็บไซต์ You Tube ในครั้งนี้ของนายโต๊ะวันฮามะ ยูซุฟ (Tok Wan Hamat Wan Yusof)
ได้ระบุตำแหน่งของตนเองอย่างชัดเจนว่าเป็นประธานกลุ่ม MPRMP
และนายไซด์ ตันศรีอาซิช (Zaid Tan Sri Aziz) รองประธาน MPRMP ซึ่งเคยเจรจากับรัฐบาลไทยมาก่อนในสมัย นายสมัคร สุนทรเวช
เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นกลุ่มเก่าที่ค่อนข้างไม่มีบทบาทสักเท่าไหร่
เป็นที่น่าสังเกตว่าการแถลงการณ์ครั้งนี้มีขึ้นภายหลังจากรัฐบาลไทยได้แสดงจุดยืน
เดินหน้าการพูดคุยเพื่อสร้างสันติสุขกับทุกกลุ่มทั้งในทางลับและทาเปิด
อาจมีวัตถุประสงค์ในการออกมาเพื่อเปิดเผยตัวตน สถานภาพ แสดงอำนาจของกลุ่ม MPRMP ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในการประกาศอิสรภาพจากประเทศไทย
และจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อเป็นการสร้างกระแสต้องการเข้ามีส่วนร่วมในการพูดคุยเพื่อสร้างสันติสุข
และที่สำคัญต้องการยกระดับฐานะของกลุ่ม
เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองกับรัฐบาลไทย..แต่ที่แน่ๆ
การออกมาประกาศจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นของกลุ่ม MPRMP ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นผลบวกใดๆ
เลย
ทั้งนักวิชาการและแนวร่วมที่เคลื่อนไหวไม่เห็นด้วยต่างดาหน้าออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นว่าเป็นการกระทำเพื่อกลุ่มของตัวเอง
มีนัยยะแอบแฝงซ่อนเร้น เป็นความพยายามของคนชราที่หมดอำนาจไปแล้ว…..
-------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น