กอ.รมน. ถอนฟ้อง 3 เอ็นจีโอ รายงาน54 กรณีซ้อมทรมาน จชต.
พร้อมจับมือตั้งกลไกร่วม สอบข้อเท็จจริง เป็นบทเรียนในอนาคต ด้าน เอ็นจีโอ ขอบคุณ “นายก-กอ.รมน.” พร้อมร่วมมือประสานงาน จนท.รัฐ
เดินหน้า ทำหน้าที่ปกป้องสิทธิพลเรือนในพื้นที่
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่โรงแรมสุโกศล พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์
ผู้แทนคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ส่วนหน้า
พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค
4 ส่วนหน้า (รองผอ.รมน.ภาค 4 สน.)
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.)ในฐานะผู้แทนรัฐบาล
ประชุมร่วมกับนายสมชาย หอมละออ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ และ น.ส.อัญชนา หีมมินะ
ซึ่งเป็นนักสิทธิมนุษยชน ผู้เผยแพร่รายงาน “สถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีฯ
ในจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2557 – 2558” และถูกฟ้องร้องดำเนินคดีโดยกอ.รมน.ภาค
4 ส่วนหน้า ร่วมกันแถลงข่าว เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่
และไกล่เกลี่ยให้ยกฟ้องยุติการดำเนินคดีกับ 3 นักสิทธิมนุษยชนฐานหมิ่นประมาท
ในขณะที่
สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (โอเอชซีเอชอาร์)
ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติออกมาแสดงความยินดีที่รัฐบาลไทยถอนฟ้อง 3 นักสิทธิมนุษยชน ที่เผยแพร่รายงานการละเมิดสิทธิในพื้นที่ชายแดนใต้ของไทย
ประกอบด้วยนายสมชาย หอมลออ , น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ
และน.ส.อัญชนา หีมมิหน๊ะ ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประสาทและกระทำผิดทาง
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร้องทุกข์หลังผู้ต้องหากรณีเผยแพร่รายงานสถานการณ์การทรมานภาคใต้
พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์
รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า
ได้แถลงผลการพูดคุยร่วมกับนักสิทธิมนุษยชนที่จัดทำรายงานสถานการณ์การทรมานในภาคใต้
ระบุ ไม่ขอติดใจเอาความและขอถอนแจ้งความการดำเนินคดี ณ
สภ.เมืองปัตตานีจากนี้เป็นต้นไป เนื่องจากไม่มีเจตนาต้องการชนะคดีหรือให้นักสิทธิมนุษยชนถูกดำเนินคดีตั้งแต่แรก
และเห็นพ้องว่าจากนี้ไปการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้จะมีการทำร่วมกันอย่างใกล้ชิด
โดยจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน
เพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจัดตั้งกลไกที่เหมาะสม ป้องกันการละเมิดสิทธิ
และมาตรการแก้ไข ออกระเบียบในการควบคุมตัวในห้องขัง
ซึ่งจะต้องมีการหารือร่วมกันอีกต่อไป
นายเลอรอง เมลลอง
รักษาการหัวหน้าสำนักงานโอเอชซีเอชอาร์ เปิดเผยว่า
โอเอชซีเอชอาร์ได้ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดมานานหลายเดือน เพื่อขอให้ทางการ
ซึ่งรวมทั้งกองกำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า
ให้ถอนฟ้องบุคคลทั้ง 3
และพัฒนาการที่เกิดขึ้นในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง
และขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเดินหน้าต่อไปเพื่อการปกป้องนักเคลื่อนไหวที่ทำหน้าที่รายงานและจับตาดูด้านสิทธิมนุษยชน
นายเมลลอง
ยังได้เรียกร้องให้ทางการไทยถอนฟ้องบรรดานักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆ รวมถึง
น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมระบุว่า
โอเอชซีเอชอาร์สนับสนุนแผนการสร้างกลไกที่ทั้งทหาร นักเคลื่อนไหว
และกลุ่มคนที่มีความเป็นห่วงกังวล
ให้มาทำงานร่วมกันเพื่อทบทวนและสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษชนทางภาคใต้ของไทย
และพร้อมที่จะให้คำแนะนำทางเทคนิคในกระบวนการดังกล่าวด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น