“ลมใต้ สายบุรี”
การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้โดยใช้นโยบาย
“กฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย”
มุ่งใช้กระบวนการทางกฎหมายนำการปฏิบัติการทางทหาร
เป็นมาตรการที่เดินมาอย่างถูกทาง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เป็นจำนวนมาก
มีการเก็บพยานหลักฐานเพื่อส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์
ส่งผลให้พยานหลักฐานดังกล่าวมีความเที่ยงตรงใช้ประกอบสำนวนคดีในการฟ้องร้องผู้ต้องหาในชั้นศาลอีก
อีกทั้งกระบวนการซักถามของเจ้าหน้าที่มีส่วนสำคัญที่เป็นข้อมูลขั้นต้นว่ามีความเกี่ยวพันกับคดีหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการก่อเหตุ
นำไปสู่การฟ้องดำเนินคดีซึ่งศาลรับฟังผลจากการซักถาม
บทเรียนจากการบังคับคดีการก่อการร้าย
หรือก่อกบฏ ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้มีการวางแผนเป็นอย่างดี เพื่อเลี่ยงการทิ้งพยานหลักฐานในที่ก่อเหตุ
มีการเตรียมการในการลงมือ ซึ่งหากขาดพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา
การต่อสู้ในชั้นศาลขาดน้ำหนักนำไปสู่การยกฟ้องคดี
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการเรียกร้องของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในเรื่องของความเสมอภาคเท่าเทียมกันในการบังคับใช้กฎหมาย
และมีมาตรฐานเดียวกันไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธ-มุสลิม
หรือคนกลุ่มไหนก็แล้วแต่
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การดูแลพื้นที่หมู่บ้านชุมชนเข้มแข็ง
ปัญหาด้านยาเสพติด การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ควรที่จะได้รับการดูแล
ขณะที่ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์
แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ท่านใหม่พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่พบปะพูดคุยรับฟังความคิดเห็นกับพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
จ.นราธิวาส ณ วัดประชุมชลธารา จ.ปัตตานี ณ
วัดตุยง และพื้นที่ จ.ยะลา พบปะพี่น้องไทยพุทธ ณ วัดเมืองยะลา
ซึ่งได้รับข้อมูลข้อเสนอแนะต่างๆ จากประชาชนในพื้นที่มากมาย
พลโทพรศักดิ์ ระบุว่าจะดำเนินการเรื่องยาเสพติด ลุยกวาดล้าง ในทุกหมู่บ้านเป็นอันดับแรกๆ
เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อเยาวชน และบุคคลในครอบครัว
โดยจะใช้กฎหมายในการเข้าดำเนินการ และจะไม่ใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด
การมุ่งจัดการกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นอันดับแรก
ไม่ได้หมายความว่านโยบาย ของแม่ทัพภาคที่
4 ท่านใหม่จะไม่ให้น้ำหนักกับเรื่องอื่นๆ แต่ “ภัยแทรกซ้อนไฟใต้”
ถือว่าเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่สุดของสถานการณ์ความไม่สงบตลอดเกือบ
15 ปีที่ผ่านมา เพราะ เรื่องนี้ทีมงานของ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ยืนยันว่า
ท่านแม่ทัพ เข้าใจปัญหาภาคใต้เป็นอย่างดี ว่ามีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย
ทั้งแนวคิดแบ่งแยกดินแดน การต่อต้านรัฐไทย รวมไปถึงปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ
และภัยแทรกซ้อนจากยาเสพติดและธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งมีการย้ำ อย่างชัดเจนจากแม่ทัพภาคที่ 4 ท่านใหม่ว่า “จะใช้กฎหมายในการ เข้าดำเนินการ และจะไม่ใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด”
นั่นแสดงให้เห็นว่ารูปแบบการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
การใช้กฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย ไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในแก้ปัญหา
มาตรการปิดล้อม ตรวจค้น จะดำเนินการเท่าที่จำเป็น
รวมทั้งเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติ ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลังต้องเป็นไปตามขั้นตอน
และมีหลักฐานชี้แจงได้ทุกเหตุการณ์ จะช่วยลดแรงกระเพื่อมและความคลุมเครือในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จากการตั้งข้อสงสัยและนำไปสู่การฟ้องร้องละเมิดสิทธิจากองค์กรภาคประชาสังคมที่เคลื่อนไหว
และตอบโจทย์ การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
เป็นความหวังในการนำสันติสุขกลับคืนมาสู่พื้นที่ในเร็ววัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น