ลมใต้ สายบุรี
การแก้ปัญหา จชต.ของภาครัฐ มีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ซึ่งเป็นผลมาจากการนำนโยบายของรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติด้วยการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนอย่างเป็นเอกภาพ
ส่งผลให้ภาพรวมของสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเร่งด่วน ของแม่ทัพภาคที่
4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ประกาศเจตนารมณ์
“พร้อมจัดการกับทุกปัญหาที่เป็นทุกข์ของพี่น้องประชาชนเพื่อนำสันติสุขกลับคืนมาโดยเร็ว”
ปัญหาหลักที่เป็นทุกข์ของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ “ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด”
นโยบายปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดเริ่มเห็นผลจากการดำเนินการเร่งด่วนใน
2 เรื่อง คือ การควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัย
โดยใช้ยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจ
ดำเนินการอย่างจริงจังนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดพร้อมยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก
ในขณะที่ผู้เสพเปรียบเสมือนผู้ป่วยที่จะต้องได้รับการรักษาได้แจ้งความจำนงเพื่อเข้ารับการบำบัดพร้อมกลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมกลับมาสู่อ้อมอกของครอบครัวอันอบอุ่น
หลายพื้นที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่เป็นตัวการระดับเอเย่นต์
พร้อมกับยึดอาวุธปืนสงครามได้เป็นจำนวนมาก เครือข่ายเหล่านี้บ่อนทำลายลูกหลานพี่น้องประชาชนให้ตกเป็นทาสยาเสพติดยังไม่พอ
กลับทำลายสังคมทำลายความสงบสุขของบ้านเมือง
มีส่วนคอยเติมเชื้อไฟใต้เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับขบวนการ BRN
ใช้เงินจากการค้ายาเสพติดจัดซื้อหาอาวุธปืน วัตถุในการประกอบระเบิดกลับมาก่อเหตุรุนแรง
คล้ายเป็นวงจรอุบาทว์ที่เชื่อมโยงกันระหว่าง BRN – ผู้ค้ายาเสพติด
– ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
เช่นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเครือข่ายค้ายาเสพติด
ซึ่งสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับภัยแทรกซ้อน และอาจให้การสนับสนุนกลุ่ม ผกร. ในพื้นที่ได้จำนวน
3 ราย ซึ่งทั้ง 3 ราย มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร
อ ตรวจค้นที่พักพบ เงินสด จำนวน 1,000,000 บาท มัดด้วยถุงดำชุกซ่อนในรถ จอดอยู่ภายในบ้าน
พร้อมรถยนต์ จำนวน 3 คัน และบัญชีรายการของผิดกฎหมาย
จากการสอบสวน 2 ใน 3 ให้การยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่
อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และให้การยอมรับมีส่วนเกี่ยวข้องกับภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ ทำหน้าที่ส่งเงินบริเวณท่ายามู
ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ให้กับชายไม่ทราบชื่อและภูมิลำเนา อีกทั้ง 1 ใน 3 ให้การยอมรับมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อน
และการค้าบุหรี่หนีภาษี
ส่วนนาย อ อีกหนึ่งคนได้ให้การปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด
ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และไม่เคยเกี่ยวข้องกับภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ จชต.ให้การยอมรับว่ามีพฤติกรรมเสพยาเสพติด
(ผงขาว) แต่ให้ข้อมูลแหล่งซุกซ่อนกระสุนปืน ในพื้นที่ ต.กาวะ อ.สุไหงปาดีฯ ฝังเก็บไว้ในดินบริเวณหลังบ้านขนาดต่างๆ
จำนวนร้อยกว่านัด
จากข้อมูลเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ยังพบบัญชีเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่มีส่วนพัวพันกับปัญหาภัยแทรกซ้อนเชื่อมโยงกับ
ผกร. เป็นท่อน้ำเลี้ยงไฟใต้ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถใช้กฎหมายการฟอกเงินนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ทันที
ต้องทำการขยายผลทำการกวาดล้าง เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
หากท่านต้องการให้เหตุการณ์ จชต.สงบ จึงกำจัดวงจรอุบาทว์นี้ให้หมดไป
----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น