ต่อกรณีที่เพจ ADMIN CERITA PATANI เมื่อ
๙ ม.ค.๖๒ เวลา ๒๓.๒๕ เขียนโจมตีการควบคุมตัว น.ส.นูรียะห์ เป๊าะลี เมื่อ ๔ ม.ค. ๖๒
ที่ผ่านมา ไปที่ ค่ายอิงคยุทธบริหาร
โดยเรื่องนี้มีที่มา ตั้งแต่ ๔ ม.ค.๖๒ จนท. ได้เข้าตรวจค้นบ้าน น.ส.นูรียะห์ เปาะลี
ในตำบลปิตุมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ภรรยาของนายมะซูกี สารูเม๊าะ ซึ่งอยู่ใน ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา จากข้อมูลการสืบสวน ยืนยันว่า
นายมะซูกี สารูเม๊าะ เป็นสมาชิกกลุ่มคนร้ายระดับสั่งการด้านวัตถุระเบิดพื้นที่
ปัตตานีและเขตรอยต่อ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุร้ายใหญ่ๆ ในพื้นที่หลายครั้ง
ทำให้พี่น้องไทยพุทธ-มุสลิม สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมามากต่อมาก ซึ่งตัวเขาเองยอมรับว่า
ถูกชักชวนเข้าร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อประมาณปี
๔๘ - ๔๙ จากนายมะอาฟิน ดอเต๊ะ อิหม่ามมัสยิด บ้านโต๊ะทูวอ ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ผ่านการกระทำพิธีสาบานตน (ซูมเปาะห์) เมื่อประมาณ ปี ๔๙
จากการตรวจค้นบ้าน
น.ส.นูรียะห์ เปาะลี แล้วทำการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานบุคคล
พยานแวดล้อม พยานวัตถุ รวมถึงการเข้าตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ อ.ยะรัง
จ.ปัตตานี พบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการก่อเหตุระเบิดนางเงือก
บริเวณชายหาดสมิหลา เขตเทศบาลนครสงขลา ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินกรรมวิธีซักถาม
น.ส.นูรียะห์ เปาะลี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลเชิงลึก ที่ยืนยันว่า
น.ส.นูรียะห์ ฯ ครูตาดีกาที่ใสซื่อ แต่เบื้องหลังเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการ เป็นสตรีแนวร่วม คอยให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
โดยเฉพาะสามีของเธอ ซึ่งมีส่วนพัวพันกับการก่อเหตุในเขตจังหวัดสงขลา ซึ่งการดำเนินการของ
จนท.เป็นไปตามพยาน หลักฐานที่ปรากฏ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยไม่สามารถเลือกปฏิบัติ
หากมีส่วนร่วมกับการกระทำผิด แม้เป็นผู้หญิงเหมือนหลายๆ
เหตุการณ์ที่ผ่านมา
สำหรับคดีความต่างๆ ใน จชต. ทุกคน เรียกร้องหาความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม
แต่ต้องไม่ลืมว่า บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงจากกลุ่มสุดโต่ง ก็มีสิทธิเรียกร้องหาความเป็นธรรม
เช่นเดียวกัน
และเป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกครั้งที่รัฐบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้าย
ก็จะมีองค์กรที่แอบแฝงในภาคประชาสังคมและองค์กรจัดตั้ง ออกมาเคลื่อนไหว
บิดเบือนและโจมตี กล่าวหาว่า จนท.ละเมิด อยู่ตลอดเวลา ดังเช่นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่มีสื่อโซเซียลบางเพจ
ติดตามข่าว คอยแก้ต่าง หาช่องทางโจมตีการทำงานของ จนท. จนผิดสังเกต เหมือนมีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์
หรือกลัวข้อเท็จจริงบางอย่าง จะสาวมาถึงกลุ่มตัวเองหรืออย่างไร
หากมีความบริสุทธิ์จริง มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ
ก็ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องร้อนรนกับการดำเนินการตามกระบวนการ “ทองแท้ ย่อมไม่กลัวไฟ” เว้นเสียแต่ว่า มีส่วนในการร่วมก่อเหตุจริงเท่านั้น
ที่น่าสนใจคือ เพจ ADMIN CERITA PATANI ที่มาอ้างมนุษยธรรม โจมตี จนท.รัฐ
แบบไร้ตรรกะ เหมือนมีส่วนร่วมกับขบวนการด้วย ? หรืออย่างไร?
**********************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น