กรณีเมื่อวันที่
8 เมษายน 2562 สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ นำโดยนายขดดะรี บินเซ็น
และตัวแทนผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจากจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา
นราธิวาส สตูล และพัทลุง กว่า 50 คน ได้ร่วมแถลงการณ์ ณ โรงเรียนบุสตานุดดีน
อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อขับไล่ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รองแม่ทัพภาคที่ 4
ออกนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ฐานที่ใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามซ้ำซาก
เพื่อลดปัจจัยที่จะทำให้ปัญหาไฟใต้ลุกลามและกระทบกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
อ้าว!! นี่แสดงให้เห็นว่าการเข้าไปตรวจสอบโปร่งใสของโรงเรียนดังกล่าว
มีผลต่อสถิติการก่อเหตุร้าย และทำให้การพูดคุยสันติสุขไม่คืบหน้าเชียวหรือ!!
การออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าวถึงขั้นขับไล่ให้พ้นพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เบื้องลึกเกิดอะไรขึ้น เท่าที่ทราบ รองแม่ทัพภาคที่ 4
ท่านนี้คลุกคลีอยู่กับปัญหาภัยแทรกซ้อนมาเกือบตลอดชีวิตรับราชการ
ทำงานอย่างตรงไปตรงมาสร้างผลงานมานับไม่ถ้วน
และล่าสุดเปิดปมทุจริตโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจนฉาวโฉ่
ทันทีเมื่อกระแสข่าวขับไล่
พล.ต.จตุพร แพร่สะพัดออกไป ในสื่อโซเชียลมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
สะท้อนความจริงอีกด้าน เรามาดูข้อความของคนในพื้นที่กันครับ
ซึ่งไม่ได้มีการแต่งเติมเสริมแต่งแต่ประการใด ลองอ่านดูครับ
“เป็นเรื่องความจริง
ทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนสอนศาสนา... พออุสตาสขอขึ้นเงินเดือน ผอ.ก็ไล่ออกทันที..
บางโรงเรียนก็ได้เงินเดือนห้าพันบาท และบัตรของธนาคารต้อง ผอ.เก็บไว้ และช่วยกดเงินให้ทุกเดือน
ถามเงินเดือนก็ไล่ออกทันที สงสารอุสตาสจริงๆ เงินเดือนไม่พอ
แต่โชคดีบางคนมีสวนยางนิดหน่อย... นี่แหล่ะ!! โรงเรียนสอนศาสนาเอกชน”
“ไปดูบ้านเจ้าของโรงเรียนซิ
ใหญ่โตยังกะวัง บางแห่งทุบทิ้งสร้างใหม่ปีต่อปี
และเรื่องรถยนต์เต็มรั้วบ้าน
แต่พอเวลาจะสร้างมัสยิดในโรงเรียนแต่ละหลังต้องมาจัดงาน มาแกแตกินข้าวยำเพื่อสร้างมัสยิด
อนาถจิตจริงๆ”
“จริงๆ
ที่สุดกับแนวปฏิบัติปัจจุบัน ลูกเจ้าของกิจการโรงเรียนบางโรงปลูกสร้างที่อยู่อาศัยแบบหรูๆ
พอจะสร้างต่อเติมอาคารเกี่ยวกับโรงเรียน ก็จัดการกุศล”
“ขนาดเงินเดือนทำงานให้ยังกดอีก
ซากาตให้ทานจะไปเหลือหรือครับ”
“รัฐควรโอนเงินเดือนโดยตรงเข้าบัญชีครูที่บรรจุแล้ว
โดยไม่ต้องผ่านโรงเรียน”
“หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบดูแลฝ่ายการศึกษาของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาช่วยกันตรวจสอบ
สอดส่องดูแลกันบ้างไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลย ช่วยกันคิดผลส่วนรวม กรณีเด็กผีก็เคยประสบมาแล้ว
ทุกๆ โรงเรียนค่าเงินเดือนครูอาจารย์ก็มีเหมือนกันครับ จริงด้วยครับที่เจ้าของโรงเรียนมีรถหรู
บ้านประดับประดาสิ่งนี้ล้วนด้วยข้อเท็จจริงครับ”
“เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างหนึ่งที่สะท้อนความขัดแย้งในพื้นที่
ระบบแบนี้น่าจะใช้กันทุกโรงเรียนด้วย ความจำเป็นบางอย่างคือโรงเรียนต้องเอาไปดูแลครูสอนศาสนาด้วย
เพราะครูสอนศาสนาไม่อยู่ในระบบการศึกษาของรัฐ แต่จำเป็นสำหรับโรงเรียนที่ต้องมีครูสอนศาสนา
ไม่งั้นผู้ปกครองก็ไม่ส่งเด็กมาเรียน แต่บางทีก็กลายเป็นการสบช่องหาผลประโยชน์”
สรุปแล้วความเห็นของผู้โพสต์ในสื่อออนไลน์
ได้สะท้อนถึงรากเหง้าของปัญหามายาวนาน ที่รอการแก้ไขจากระบบราชการที่มี สช.
เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแล แม้ว่าในห้วงรัฐบาล คสช. 4 ปีที่ผ่านมา พลเอกสุรเชษฐ์
ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ได้รับมอบภารกิจจากท่านรัฐมนตรีให้มาแก้ปัญหาการศึกษาใน
จชต.
ก็มีการสร้างความเข้าใจกับผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ยังไม่สำเร็จในการตรวจสอบความโปร่งใส จนในที่สุดทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบ
และมีผลงานที่เด่นชัด กรณีโรงเรียนบากงพิทยา ที่อยู่ในการพิจารณาของศาล
และโรงเรียนอื่นๆ ก็จะถูกดำเนินการตรวจสอบเช่นเดียวกัน
จึงเป็นที่มาของการตั้งโต๊ะแถลงข่าวของสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ เมื่อวันที่
8 เมษายนที่ผ่านมา..
-----------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น