กรณีสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ แถลงการณ์ไล่
พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รองแม่ทัพภาคที่ 4 ออกนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ระบุใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามซ้ำซาก
พร้อมทั้งประกาศฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาต่อช่อง 7 และบุคคลต่างๆ
ที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
การออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าวมีการกล่าวหาการใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน
เป็นปัจจัยเอื้อทำให้ปัญหาไฟใต้ลุกลามและกระทบกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
หากมองการออกมาเคลื่อนไหวของสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ในครั้งนี้
น่าจะเกิดจากแรงกดดันจากภาครัฐ หลายส่วนที่เดินหน้าการสอบสวนกระบวนการบริหารจัดการ
รวมทั้งกรมสรรพากรที่จะคิดภาษีย้อนหลังของการโอนเงินอุดหนุนเข้าบัญชีบุคคล
ซึ่งจะต้องเสียภาษีทั้งๆ ที่โรงเรียนจัดตั้งในรูปของมูลนิธิ
การออกมาแถลงข่าวเหมือนเป็นการร้อนตัว
ซึ่งล่าสุด สช. ได้สั่งการศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศปบ.จชต.) ให้ สช.จังหวัด และ สช.อำเภอในพื้นที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
โดยตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากทุจริตจริง จะพิจารณาโทษ คาดว่าจะสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ภายใน
15 วัน นอกจากนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งคณะกรรมการในระดับ
ฉก.ทหารในพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด
เพื่อตรวจสอบโรงเรียนในพื้นที่ของตนเองอีกด้วย
การที่สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้
ขับไล่ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รองแม่ทัพภาคที่ 4 ออกนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ระบุใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น เนื่องจาก พล.ต.จตุพรฯ
เป็นผู้ที่ขุดคุ้ยการทุจริตที่เกิดขึ้นและตามจิกไม่ปล่อย ต่อสู้กับปัญหานี่มาโดยตลอด
อีกทั้งเป็นผู้ที่ออกมาแฉ เปิดโปงข้อมูลให้สังคมได้รับรู้นำไปสู่การตรวจสอบอีกหลายร้อยโรงเรียนในขณะนี้
การทุจริตที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้วยการโกง “งบอุดหนุนรายหัวนักเรียน”
และมีการเชื่อมโยงไปถึงการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน
ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับโรงเรียนบากงพิทยาที่มีการตรวจพบเท่านั้น ยังจำกรณีโรงเรียนปอเนาะ ญีฮาด ของนายอับดุลเลาะ แวมะนอ กันได้มั๊ย!!
ปัจจุบัน นายอับดุลเลาะ
แวมะนอ ไปอยู่ที่ไหน? นายอับดุลเลาะฯ ใช่หรือไม่? ที่เป็นแกนนำสั่งการให้บรรดาแนวร่วมก่อเหตุสร้างสถานการณ์ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์
สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้น่าจะเอาเวลาไปตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและปอเนาะในพื้นที่ดูบ้างเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยโรงเรียนปอเนาะญีฮาด
หรือโรงเรียนบากงพิทยาที่อื้อฉาว ภายในโรงเรียนมีการปลูกฝังเรื่องอะไรให้กับเด็กและเยาวชน
จนผลผลิตของโรงเรียนเหล่านั้นเกิดความกระด้างกระเดื่องเกลียดชังรัฐไทยและนิยมความรุนแรง
อย่างไรก็ตามการเข้าทำการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาต้องสงสัยหลายแห่งที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานสำคัญต่างๆ มากมายที่บ่งชี้ว่าโรงเรียนเหล่านั้นมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการ
แต่มีโรงเรียนหลายโรงพร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการเข้าทำการตรวจสอบด้วยความบริสุทธิ์ใจ
และที่น่าสังเกต โรงเรียนหรือเจ้าของโรงเรียนใดที่ต่อต้านมักจะมีความผิด
พยายามทุกวิถีทางที่จะเลี่ยงความผิดเพื่อรักษาผลประโยชน์จำนวนมหาศาลที่ได้จากการทุจริต
อีกไม่นานความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผย ใครถูกใครผิด!! ว่ากันไปตามกฎหมาย และพอจะคาดเดาคำตอบกันได้ล่วงหน้าแล้วว่า
การที่สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวในครั้งนี้
จุดประสงค์เพื่ออะไร?
สุดท้ายอยากให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการใช้งบประมาณของแผ่นดิน
เพื่อช่วยพัฒนาระบบการศึกษาของเด็ก-เยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เพื่อนำไปสู่การแข่งขัน มีความสามารถทางวิชาการสู้กับภาคอื่นๆ ได้ อีกทั้งเป็นการคืนความสุขให้กับครูที่อุทิศแรงกายแรงใจในการสอน
แต่ผลตอบแทนกลับไม่ได้ตามที่รัฐอุดหนุนงบประมาณให้ จึงขอให้สังคมเป็นผู้ตัดสินใจ
ต้องการให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามยังคงเป็นแดนสนธยา
หรือต้องการเปิดมิติใหม่เพื่อพัฒนาการศึกษาของลูกหลานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป.
-----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น