4/12/2562

น.ส.พรเพ็ญ ต้องการอะไร? จึงขอให้ยุติการเก็บ DNA ผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารใน จชต.



กรณี น.ส.พรเพ็ญ  คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้แถลงการณ์: ขอให้ยุติการเก็บและให้ทำลายสารพันธุกรรมของผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารในพื้นที่ชายแดนใต้ เมื่อวันที่  9 เมษายน 2562 ที่ผ่านมานั้น มีการกล่าวหาการเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอของผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารในลักษณะของการล่วงละเมิดสิทธิของบุคคล
การจัดทำฐานข้อมูลตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ผู้ที่เข้ารับการคัดเลือกทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ประจำปี 2562 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลานั้น อยู่ในแผนการพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 อยู่แล้ว ซึ่งมีการจัดทำโครงการขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลและได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้
ส่วนการเก็บ DNA ของผู้เข้ารับคัดเลือกทหารกองประจำการ ปี 2562 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลานั้น จะมีแบบให้กรอกความยินยอม หรือไม่ยินยอมก็ได้  ซึ่งหากดูสถิติผู้ที่เข้ารับคัดเลือกทหารกองประจำการ พบว่าระหว่างวันที่ 18 เม.ย.62 ซึ่งยังไม่จบสิ้นการคัดเลือกมีผู้ที่ยินยอมให้จัดเก็บ DNA มีถึง 19,410 คน ไม่ยินยอม 49 คน และไม่มีการจัดเก็บ 582 คน เนื่องจากไม่รายงานตัวเข้ารับการตรวจเลือก
          การจัดทำฐานข้อมูลตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ไม่ได้มีการบังคับเป็นความสมัครใจซึ่งมีแบบฟอร์มชัดเจนในการแสดงเจตจำนง และไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามที่ น.ส.พรเพ็ญ  คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้กล่าวหา
  การแสดงท่าทีและออกแถลงการณ์ของ น.ส.พรเพ็ญ กับการลงทุนลงแรงเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์อะไร? ก็คงไม่พ้นการสร้างผลงานเพื่อรวบรวมรายงานไปยังองค์กรต่างประเทศ เพื่ออะไร? ทุกคนคงทราบดี ในส่วนของผู้ที่ไม่ยินยอมนั้นไม่ว่ากัน!! เพราะเป็นสิทธิที่สามารถปฏิเสธได้ แต่ลึกๆ แล้วกลัวอะไร? หากไม่เคยทำผิดมาก่อนไม่ต้องกลัว หากบริสุทธิ์ใจจริงการเก็บ DNA ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ เลย เกิดผลดีด้วยซ้ำมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สถานการณ์ดีขึ้น อีกทั้งการเก็บ DNA ไว้ในฐานข้อมูล.. จะไม่ถูกกลั่นแกล้งยัดข้อหามั่วให้กับผู้บริสุทธิ์...
------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น