แบมะ ฟาตอนี
เมื่อเอ่ยชื่อ ‘นายอิสมาแอล กาเจ’ หน่วยงานความมั่นคงต่างหมายมั่นปั้นมือ อยากจะได้ตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการผู้นี้มาลงโทษ
และดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในพื้นที่ต่างได้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของนายอิสมาแอล
กาเจ อยู่ตลอด เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิ.อาญา 5 หมาย เป็นผู้ร่วมในการก่อเหตุหลายเหตุการณ์ด้วยกัน
และมีหลายครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปจากน้ำมือของโจรชั่วผู้นี้ ยังไม่นับรวมถึงความเสียหายอื่นๆ
อีกที่เกิดจากการกระทำซึ่งได้เป็นสันดาน ไม่ใช่แค่เป็นผู้หลงผิด
คนชั่ว หรือคนไม่ดีไม่ว่าในวันนี้
พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ ก็ตามแต่ ไม่อาจที่จะหลีกหนีพ้นผลจากผลกรรมที่ตัวเองได้เคยก่อเอาไว้
เช่นเดียวกับนายอิสมาแอล กาเจ เหมือนฟ้ามีตาได้ชี้นำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่
23 พฤศจิกายน 2557
นายอิสมาแอล
กาเจ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวอยู่ในเขตรับผิดชอบพื้นที่อำเภอยะหริ่ง
และอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
นายอิสมาแอล กาเจ เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมครั้งแรกเมื่อวันที่
10 เมษายน 2553 โดยหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 22 ได้เข้าทำการพิสูจน์ทราบโรงเรือนเลี้ยงไก่ของนายอิสมาแอลฯ
เมื่อทำการตรวจสอบกลับเจออาวุธปืนสงคราม M-16 พร้อมซองกระสุน เจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก
เชิญตัวเพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2553 เจ้าหน้าที่ได้ออกหมาย
พ.ร.ก.ฯ ควบคุมตัว ณ ศูนย์สมานฉันท์ ซึ่งจากผลการซักถาม นายอิสมาแอลฯ
อ้างว่าไม่ทราบว่า อาวุธปืนเล็กยาว M-16 มาอยู่ในโรงเรือนเลี้ยงไก่ของตนเองได้อย่างไร
และปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงทุกกรณี
จึงได้รับการปล่อยตัวไป เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2553
หลังจากได้รับการปล่อยตัวแล้ว ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของนายอิสมาแอล
กาเจ เริ่มมีความถี่ขึ้นในการมีส่วนร่วมในการก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่
อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ
รวบรวมพยานหลักฐาน และพยานบุคคลชี้ตัว จนนำไปสู่การออกหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 5
หมาย ดังนี้
หมายจับ ป.วิ.อาญา
ที่ 1
จากเหตุการณ์
ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้รถยนต์กระบะเป็นยานพาหนะ ได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงเข้าใส่ป้อมจุดตรวจร่วม
แต่ถูกเจ้าหน้าที่ได้ทำการยิงตอบโต้ ส่งผลให้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตจำนวน 3 คน และได้ทำการตรวจยึดรถยนต์กระบะ
พร้อมอาวุธปืนได้อีก จำนวน 5 กระบอก
สาเหตุที่นำไปสู่การออกหมายจับนายอิสมาแอล
กาเจ สืบเนื่องจากผลการตรวจสารพันธุกรรมคราบโลหิตบนถนน ตรงกับนายอิสมาแอลฯ และจากการจับกุมในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจร่างกาย พบว่ามีรอยแผลเป็นคล้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืน
บริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายมือ
หมายจับ ป.วิ.อาญา
ที่ 2
จากเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบเผากล้องวงจรปิด
ได้รับความเสียหาย จำนวน 9 ตัว ในพื้นที่อำเภอมายอ
และอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด
กลับพบภาพผู้ต้องสงสัย 2 คน ซึ่งหนึ่งในสองคนนั้นคือ นายอิสมาแอล กาแจ
กำลังยืนถือปืนเล็กยาว AK-102 เพื่อทำการเฝ้าระวังให้กับผู้ที่กระทำการเผากล้องวงจรปิด
หมายจับ ป.วิ.อาญา
ที่ 3
จากเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุรุนแรง จำนวน 8
คน ได้ร่วมกันปล้นรถยนต์กระบะ ฟาร์มตัวอย่างป่าตาเขียว เหตุเกิดบนถนนสาย 4157 หมู่
2 ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี สาเหตุที่นำไปสู่ออกหมายจับ
สืบเนื่องจากคนขับรถยนต์กระบะ ชี้ภาพยืนยันตัวบุคคล
หมายจับ ป.วิ.อาญา
ที่ 4
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557
เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ถูกเผาริมถนนชนบท ในพื้นที่ ตำบลปล่องหอย
อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี และในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะพ้อ
เดินทางกลับด้วยรถยนต์กระบะ เกิดเหตุระเบิด บนถนน ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5
นาย ซึ่งพยานในที่เกิดเหตุชี้ภาพยืนยันว่านายอิสมาแอล กาเจ ร่วมในการก่อเหตุดังกล่าว
หมายจับ ป.วิ.อาญาที่
5
ผู้ก่อเหตุรุนแรง
ใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะลอบยิงชุดรักษาความปลอดภัยพระ ส่งผลให้พระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป และอาสาสมัครทหารพราน เสียชีวิต
1 นาย เหตุเกิดบริเวณ ตำบลบ้านกลาง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
สาเหตุที่นำไปสู่การออกหมายจับสืบเนื่องจาก
พยานในที่เกิดเหตุชี้ภาพนายอิสมาแอล กาเจ ยืนยันว่าร่วมในการก่อเหตุ
และข้อมูลที่สำคัญรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้ ถูกปล้นมาจากฟาร์มกุ้ง
ในอำเภอหนองจิก และ นำไปก่อเหตุลอบยิงอีก 2 เหตุการณ์
สุดท้ายนำไปก่อเหตุลอบวางระเบิดติดตั้งในรถยนต์กระบะ หน้าร้านราชาเฟอร์นิเจอร์
เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2557
ในที่สุดผู้ที่กระทำความชั่วไม่สามารถหนีรอดเงื้อมมือของกฎหมายไปได้
ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ก็จะต้องได้รับผลกรรม เข้าไปอยู่ในคุกตะรางชดใช้เวรกรรมต้องหมดสิ้นอิสรภาพ...ทิ้งลูกทิ้งเมีย
และครอบครัวต้องทนทุกข์ลำบากอยู่เบื้องหลัง
คุ้มมั๊ย!!..ที่ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับขบวนการ
สุดท้ายโดนลอยเพไม่มีใครเหลียวแล
และนี่คือตัวอย่างของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่โดนจับกุมและต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
และยังมีอีกหลายรายที่โดนจับตายเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำการวิสามัญ
เนื่องจากเกิดจากการปะทะต่อสู้..ยังไม่สายสำหรับผู้ที่หลงผิด
และยอมหันหลังให้กับขบวนการ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม รายงานตัวแสดงตน รัฐเปิดโอกาสให้กับท่านเสมอ
อยู่ที่ว่าตัวท่านเองจะรีบฉวยโอกาสดีๆ เช่นนี้ให้กับตัวท่านเองและครอบครัวหรือไม่เท่านั้น!!!
-----------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น