10/13/2559

การปลุกระดมทางความคิดใน จชต.เพื่ออะไร..?

แบดิง  โกตาบารู


ในประเทศไทยเรามีการปลุกระดม ปลุกกระแสให้เกิดความแตกแยกในสังคมของกลุ่มผู้เห็นต่าง มีการเคลื่อนไหวทางความคิดกระทำการอย่างเปิดเผยไม่กลัวเกรงต่อกฎหมายใดๆ ซึ่งมีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ

ยิ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกลุ่มและองค์กร นักคิดนักเขียน นักวิชาการ นักการศาสนา ทนายความ และปีกการเมืองกลุ่มขบวนการไม่แค่ทำการปลุกระดมทางความคิดธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ถึงขนาดชี้นำปลุกกระแสให้มีการแบ่งแยกดินแดนเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชจากรัฐบาลไทยกันเลยทีเดียว

การสร้างการรับรู้กับประชาชนมีการเผยแพร่บทความ การจัดเวทีเสวนา หนักหนาสาหัสถึงกับยุแหย่ให้ประชาชนในพื้นที่ละเมิดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ยอมรับการปกครองที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย

เมื่อวันที่ 10 ต.ค.59 นายอาบีบุสตา ดอเลาะ ทนายความมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม อดีตกลุ่มกิจกรรมนักศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและวัฒนธรรมชายแดนใต้ (KAWAN-KAWAN) ได้เผยแพร่บทความผ่านเว็บไซต์ deepsouthwatch หัวข้อ การผนวกรัฐปาตานีผ่านรัฐธรรมนูญโดยรัฐไทย

ในบทความดังกล่าวได้ระบุสนธิสัญญา Anglo-Siamese Treaty ทำให้ปาตานีถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยาม ตั้งแต่ พ.ศ.2452 โดยไม่มีความชอบธรรม เนื่องจากเจ้าเมือง  และประชาชนปาตานีไม่มีส่วนรู้เห็น

โดยได้มีการชี้นำว่าเมื่อปี 2475 อาณาจักรสยามได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับแรก กำหนดในมาตรา 1 สยามประเทศเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกัน จะแบ่งแยกมิได้ ประชาชนชาวไทยไม่ว่าเหล่ากำเนิดหรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน

หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 3 เป็นต้นมา ได้เปลี่ยนจากคำว่า สยาม เป็น ประเทศไทย เพื่อลบภาพ รัฐล่าอาณานิคม และไม่เคยเปลี่ยนแปลงข้อความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 เท่ากับ เป็นการผูกมัดให้ประชาชนปาตานีต้องกระทำการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ความอิสระทางความคิด การปลุกระดมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้นับวันยิ่งทวีความรุนแรง มีกลุ่มบุคคลมุ่งสร้างความแตกแยกในเรื่องเชื้อชาติ และศาสนา เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตัวมาปรับทัศนคติกลับกล่าวหาเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ในฐานะที่จังหวัดชายแดนใต้มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย กลุ่มหรือบุคคลเหล่านี้ย่อมรู้ดีว่าการบังคับใช้กฎหมายของประเทศเพื่อนบ้านเข้มงวดขนาดไหน ลองมาดูและเปรียบเทียบความผิดที่ลงโทษการละเมิดต่อกฎหมาย แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาของกลุ่มเครือข่ายแนวร่วมสนับสนุนกลุ่มขบวนการได้คืบจะเอาศอกวัตถุประสงค์ของกลุ่มทนายความมุสลิมจัดตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร? ไม่ใช่มุ่งช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ให้พ้นผิดหรอกหรือ?

ความเข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมายของประเทศมาเลเซีย ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติปลุกระดม (พ.ร.บ.ปลุกระดม) ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จับกุมคนที่เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูน นักกฎหมาย ทนายความ ฝั่งตรงข้ามรัฐบาล แม้กระทั่งทนายความที่ช่วยเหลือผู้ถูกจับกุม ก็โดนจับกุมด้วย

พ.ร.บ.ปลุกระดม และกฎหมายการสื่อสารและมัลติมีเดียในมาเลเซีย ผู้กระทำความผิดมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 ริงกิต หรือประมาณ 45,000 บาท หรือจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับสำหรับผู้กระทำความผิดครั้งแรก และไม่เกิน 5 ปี สำหรับผู้กระทำความผิดซ้ำ

นี่หากกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไปอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียคงติดคุก ติดตะรางกันหลายรอบแล้ว ประเทศมาเลเซียแค่เบาะๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลุกระดมอย่างเดียวก็มีความผิดแล้ว แต่จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้านเรา..พฤติกรรมถึงกับคิดแบ่งแยกดินแดนแยกตัวเป็นเอกราชจากรัฐบาลไทย   

ที่สำคัญมีการปลุกกระแสความเป็นชาตินิยม ให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัวหลงผิดคิดว่าตัวเองคือ มลายูไม่ใช่คนไทย ด้วยการปฏิเสธ 5 ไม่ กล่าวคือ NO INFORMATION จะต้องไม่ยอมรับสื่อหรือข่าวสารใดๆ ที่มาจากฝ่ายรัฐบาลไทย หรือเจ้าหน้าที่รัฐไทย ต้องไม่ยอมรับไม่เห็นด้วย และต่อต้านข่าวสารทุกชนิดที่มาจากรัฐไทย

NO COMPROMISE ไม่ยอมให้อภัย ไม่สมานฉันท์ ไม่คืนดี ไม่ให้คำมั่นสัญญา ไม่เจรจา ไม่ประนีประนอม ไม่ต้องการให้มีการเจรจาเกิดขึ้น

NO ASSIMILATE จะต้องไม่อยู่ร่วมกันอย่างเด็ดขาดกับคนสยาม ไม่กลมกลืนทางวัฒนธรรม ไม่ปรองดองกับสยาม ซึ่งมีความพยายามชี้ให้ให้เห็นว่าสยามทำลายความเป็นชนชาติมลายู ทำลายศาสนาอิสลาม 
  
NO AUTONOMY จะต้องไม่เอาเขตปกครองพิเศษ หรือ AUTONOMY อย่างเด็ดขาด เขตปกครองพิเศษไม่ใช่เป้าหมายการต่อสู้ขององค์กร ขบวนการ BRN มีเป้าหมายเดียวเท่านั้นคือ MERDEKA (เอกราช) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

NO PALIAMENT จะต้องไม่ยอมรับกฎหมายไทย เพราะกฎหมายไทยเป็นกฎหมายของคนสยาม เป็นกฎหมายของชาวไทยพุทธ จะมาบังคับใช้กับคนมลายู และบังคับคนที่นับถือศาสนาอิสลามไม่ได้

การปลุกระดมเพื่อหาแนวร่วมยังคงใช้ประเด็นสยามกดขี่ ข่มแหง กดดัน ใช้ประวัติศาสตร์ยุคใหม่ เช่นเหตุการณ์ตากใบ ชี้ให้เห็นว่าซีแยกระทำต่อพี่น้องมลายูปาตานีอย่างโหดเหี้ยมยังคงใช้ได้ผลอยู่ในปัจจุบัน คนที่ยังไม่รู้เท่าทัน คงจะรู้แล้วว่ากลุ่มขบวนการ รวมไปถึงเครือข่ายสนับสนุนมีการปลุกระดมทางความคิดใน จชต.เพื่ออะไร?

------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น