‘Ibrahim’
“สันติสุขชายแดนใต้”
จะกลายเป็นแค่เรื่องเล่าให้ลูกหลานฟังในวันข้างหน้าหรือ?..ทุกคนต่างโหยหาให้หวนกลับมาเป็นเช่นวันเก่า..เมื่อครั้งอดีตที่พี่น้องพื้นที่ชายแดนใต้แห่งนี้
ต่างอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ภายใต้พหุวัฒนธรรม ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา
แบ่งเค้าแบ่งเราถ้อยทีอาศัยซึ่งกันและกันมาช้านาน ก่อนที่จะเกิดปัญหาไฟใต้
มีการสร้างความหวาดกลัว หวาดระแวงต่อกันของพี่น้องในพื้นที่โดยกลุ่มขบวนการ
หลายองค์กรได้เรียกร้อง “สันติสุข” “สันติภาพ” หรือแม้กระทั่งคิดการไกลไปถึง “เอกราช” แยกตัวเป็นอิสระจากรัฐบาลไทย แต่ “KILLING FOR PEACE” ขบวนการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
น้ำตาอีกกี่หยด..เลือดจะต้องอาบแผ่นดินอีกเท่าไหร่ กลุ่มขบวนการเหล่านี้ถึงจะหยุด
เป็นพวกปากอย่างใจอย่างบนเวทีพูดคุยต้องการสันติสุข ในพื้นที่กลับสั่งฆ่าผู้บริสุทธิ์
ศาสนาทุกศาสนาได้สั่งสอนให้ศาสนิกชนกระทำแต่ความดี
มนุษย์มีศาสนาเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินชีวิต เป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจ
ปฏิบัติตนตามข้อบัญญัติของแต่ละศาสนาซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป
ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นปัญหาของกลุ่มที่คิดต่างต้องการแบ่งแยกดินแดน ต้องการเอกราชได้
ใช้กำลังทำการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ บ้างต้องได้รับบาดเจ็บ แขนขาขาดพิกลพิการ
ไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางด้านศาสนา
แต่ไม่น่าเชื่อว่ากลุ่มขบวนการกลับใช้ศาสนาอิสลาม
ซึ่งคนส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นับถือ มาบิดเบือน ปลูกฝังแนวคิด
ฝังชิปความชั่วร้ายเข้าไปในสมองให้สมาชิกแนวร่วม RKK ทำการเข่นฆ่าผู้คนแล้วได้บุญ
อย่างเช่นในห้วงเดือนรอมฎอนที่เหตุการณ์ความรุนแรงจะเกิดขึ้นถี่ยิบ
กลุ่มขบวนการ BRN ใช้อิหม่ามที่คนส่วนใหญ่เคารพนับถือ บิดเบือนเสี้ยมสอนให้สมาชิกแนวร่วมมีความเชื่อว่า
“การฆ่ากาฟิรฺ” (คนต่างศาสนา)
และ “มุนาฟิก” (ผู้กลับกลอก)
เป็นสิ่งที่อนุมัติในอิสลาม ผู้ฆ่าจะได้ผลบุญ และหากผู้ที่จะไปฆ่าผู้อื่นกลับถูกฆ่าเสียเอง
เขาก็จะได้ขึ้นสวรรค์เป็นการตอบแทนโดยไม่ต้องรอฟังคำพิพากษา
“กาฟิรฺ” มีความหมายโดยรากศัพท์ทางภาษาแปลว่าผู้ปฏิเสธ ผู้ดื้อดึง ผู้ฝ่าฝืน
แต่ในทางศาสนา“กาฟิรฺ” หมายถึง “ผู้ปฏิเสธต่อศาสนาอิสลาม”
“กาฟิรฺ” จำแนกได้ 3 ประเภท คือ “กาฟิรฺหัรบียฺ” หมายถึง คนต่างศาสนิกที่เป็นคู่สงครามและเป็นศัตรูซึ่งมีความพยายาม
ที่จะทำลายล้างศาสนาอิสลาม
“กาฟิรฺซิมมียฺ” หมายถึง คนต่างศาสนิกที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐอิสลาม
ซึ่งรัฐจะต้องดูแลพวกเขาด้วยความยุติธรรมและพวกเขาต้องจ่ายภาษีแก่รัฐอิสลาม และ “กาฟิรฺมุอาฮัด” คือคนต่างศาสนิกที่ได้ทำสัญญา
และมีพันธสัญญาที่ไม่รุกรานและไม่ ละเมิดซึ่งกันและกัน
“มุนาฟิก” คือ “บุคคลที่ยอมรับความเป็นมุสลิมเพียงด้วยวาจาแต่จิตใจปฏิเสธ” ในสมัยท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) มีผู้ที่เป็นมุนาฟิกหลายคน แต่ท่านเราะสูล
(ศ็อลฯ) ไม่เคย อนุญาตให้ฆ่ามุนาฟิกแม้แต่คนเดียว ต่อความคิดของผู้ที่ปลุกปั่นยุยงเยาวชนว่าคนที่เห็นต่างจากตน
เป็นกาฟิรฺหรือมุนาฟิกและต้องฆ่าเสียให้หมดนั้น จึงเป็นความ
คิดที่ผิดหลักศาสนาอิสลาม ไม่มี อายะฮฺใดเลยที่ปรากฏในอัลกุรอานที่ระบุให้ฆ่า “มุนาฟิก”
หลายต่อหลายครั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ความรุนแรงที่กลุ่มขบวนการ หรือนักรบ RKK ได้หยิบยื่นให้กับพี่น้องมุสลิมที่รับราชการ
หรือทำงานให้รัฐ แม้กระทั่งคนต่างศาสนาต้องเสียชีวิตจากเหตุลอบยิง เหตุลอบวางระเบิด
กลุ่มขบวนการ BRN หรือ “จูแว” จะมีปฏิกิริยาในทันที แสดงความคิดเห็นและแสดงความดีใจที่เห็นมุสลิมหรือคนต่างศาสนาเสียชีวิต อยากจะรู้ว่าความต้องการที่แท้จริง“ต้องการความสงบสุข” หรือ “ต้องการความรุนแรง”แล้วสันติสุขที่ทุกคนเรียกหาละ...
--------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น