"Ruslan"
เมื่อวันที่
10 พฤษภาคม 2560 องค์กรสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์วอทช์” สำนักงานใหญ่นครนิวยอร์ก
สหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ ผู้ก่อความไม่สงบวางระเบิดห้างสรรพสินค้าในภาคใต้ของประเทศไทยพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนซึ่งอาจเป็น“อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”
แถลงการณ์ประณามของ
“ฮิวแมนไรท์วอทช์” กล่าวว่า
การโจมตีที่ห้างบิ๊กซีเป็นสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงสูงสุดของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนเป็นการโจมตีที่พุ่งเป้าไปที่“พลเรือน”ซึ่งอาจถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
รัฐบาลควรนำตัวผู้กระทำผิดทุกคนมาลงโทษ
เพราะนับแต่มีการโจมตีด้วยอาวุธเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังเดือนมกราคม 2547 ผู้ก่อความไม่สงบจากกลุ่ม Barisan Revolusi Nasional (BRN) ได้มุ่งกระทำการต่อเป้าหมายพลเรือน
หรือการโจมตีที่ไม่แยกแยะระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับพลเรือน
ในแถลงการณ์ยังย้ำว่า
นับแต่มีการโจมตีด้วยอาวุธเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังเดือนมกราคม 2547 ผู้ก่อความไม่สงบจากกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้กระทำการที่ละเมิดกฎหมายสงครามหลายครั้ง
ซึ่งคนเหล่านี้เป็นพลเรือนทั้งที่เป็นชาวไทยพุทธ และชาวมุสลิมเชื้อสายมลายู
ในส่วนของความเคลื่อนไหว“กัสตูรี มะโกตา” แกนนำพูโล และ “อาบูฮาเฟส อัล-ฮากิม” ในนามมาราปาตานี
ต่างออกมาแสดงความคิดเห็น พร้อมกล่าวประณามมือก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซีปัตตานี
นายกัสตูรี
มะโกตา แกนนำพูโล (PULO)
ได้แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
เหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซีปัตตานีนั้น
ในนามส่วนตัวไม่เห็นด้วยต่อการกระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
และเรียกร้องให้เลิกการกระทำลักษณะรุกราน หรือรังแกคนต่างเชื้อชาติ
และไม่ใช่มุสลิม
ทางด้าน
อาบูฮาเฟส อัล-ฮากิม ซึ่งหนึ่งในคณะผู้เห็นต่างจากรัฐที่เข้าร่วมในกระบวนการพูดคุย ได้แสดงความเห็นว่า
เราไม่อาจจะยกโทษให้แก่การละเมิดความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะได้
เราขอประณามการกระทำใดๆ ก็ตามด้วยความขลาด อันมีผลโดยตรงต่อการบาดเจ็บ
ล้มตายของพลเรือน และมีผลต่อผู้หญิง และเด็ก
ผู้ก่อเหตุจะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม เราขอแสดงรู้สึกเห็นใจ
และแสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
ประชาชนชาวปาตานีทุกชาติพันธุ์ และทุกศาสนา
การเรียกร้องให้กลุ่ม
องค์กร นักสิทธิมนุษยชน องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รวมทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันแสดง “ความรังเกียจ” ต่อการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขบวนการ
BRN
ไม่เห็นด้วยต่อแนวทางการใช้กำลังทำลาย ทำร้ายชีวิตต่อกลุ่มเป้าหมายประชาชนผู้บริสุทธิ์
ถือได้ว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ต้องการสื่อให้เห็นว่าประชาชนไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งประณามต่อการกระทำที่ป่าเถื่อนสุดโต่ง
ไร้มนุษยธรรม จนกระทั่งกลุ่มและองค์กรต่างๆ ได้ออกแถลงการณ์ หรือภาคประชาชนได้รวมพลัง
ละหมาดฮายัตขอพรต่ออัลลอฮฺ เพื่อให้เกิดสันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่
“ไม่ต้องการความรุนแรง”เลิกการก่อเหตุควารุนแรงทุกรูปแบบ
ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังเรียกร้องการโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนของกลุ่มขบวนการ
BRN
เป็น“อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” เป็นความน่ารังเกียจน่าขยะแขยงต่อพฤติกรรม ซึ่งส่อเจตนามาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำต่อผู้หญิง
และเด็ก
แต่อีกด้านหนึ่ง
นายกัสตูรี มะโกตา แกนนำพูโล (PULO) ได้อาศัยจากสถานการณ์ดังกล่าวแสดงท่าทีเหมือนจะดีได้ออกมาประณามมือก่อเหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซีปัตตานี
แต่กลับกลับเอาความดีเข้าตัวชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไทยไม่สามารถคุ้มครอง
และให้หลักประกันในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนชาวมลายูปัตตานี
พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยคืนอำนาจให้ประชาชนชี้ชะตาอนาคตของตัวเอง
นี่คือสันดานของกลุ่มขบวนการไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน
โดยเฉพาะ นายกัสตูรี มะโกตา แกนนำพูโล หลายครั้งที่ผ่านมาพยายามเคลื่อนไหวเพื่อให้เป็นข่าว
สร้างเครดิตให้กับตนเองว่าสำคัญ ต้องการ มีบทบาทในเวทีการพูดคุยสันติสุขกับรัฐบาลไทย
เนื้อแท้จริงๆ ของกลุ่มองค์กรต่างๆ คงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่นัก มักอ้างอุดมการณ์ในการเคลื่อนไหว
ซึ่งความจริงเป็นอุดมการณ์ที่หลอกลวงหรือผลประโยชน์กันแน่!! ที่สำคัญหลอกใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ
มีแต่คอยซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน...ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา...ประชาชนคือเหยื่อความรุนแรงที่ถูกยัดเยียดและปล้นความสันติสุขไปจากจังหวัดชายแดนภาคใต้……
---------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น