"RUSLAN"
อิสลามคือศาสนาแห่งสันติภาพ
และขันติธรรม ดังนั้นผู้ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม
จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะประพฤติตนขัดแย้ง กับหลักการดังกล่าว
ยิ่งกว่านั้นไม่มีแหล่งกำเนิดใดๆ จากอัลกุรอาน และหะดิษของท่านนบีมุฮัมมัด
ที่บ่งชี้ไปในทิศทางดังกล่าว การเรียกร้องในอิสลามที่ปรากฏอยู่ในอัลกุรอาน
ได้เชิญชวนด้วยวิธีการที่เฉลียวฉลาด และนิ่มนวลซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะถือได้ว่า
เป็นความรุนแรงแต่ประการใด ดังปรากฏในอัลกุรอาน ซูเราะ อัลนะห์ล โองการที่ 125 ความว่า “จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของเจ้าโดยสุขุม
และการตักเตือนที่ดี แจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้นพระองค์ทรงรู้ดียิ่ง
ถึงผู้ที่หลงจากทางของพระองค์
และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาของผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง”
เมื่อย้อนกลับจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
จชต. สามารถเห็นได้ว่าการปฏิบัติของกลุ่ม BRN พยายามชักจูงชี้นำให้ผู้หลงผิด
ปฏิบัติตัวผิดจากหลักคำสอนของศาสนาที่ได้กล่าวไว้ในอัลกุรอาน และยังใช้วิธีและเหตุผลชั่วๆ
เพื่อให้เด็กเยาวชนเข้ามามีส่วนในการก่อเหตุ ดูได้จากมือระเบิดที่บิ๊กซีปัตตานี เมื่อวันที่
9 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา จากการจับผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี
เพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ การทำงานเป็นขบวนการของกลุ่ม BRN หวังแค่ผลประโยชน์ฝ่ายตน และต้องการทำลายคนในพื้นที่ สร้างความคิดผิดๆ เพื่อความสะใจภัยใต้อุดมการณ์อุบาทว์ของกลุ่ม
BRN โดยใช้งบประมาณจากการบริจาคของประชาชนบางส่วน นำเยาวชนไปเข้าคุก??
นั้นเอง
“สถาบันการศึกษา”คือเป้าหมายหลักของกลุ่มขบวนการ
โดยเลือกใช้สถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษา สถาบันปอเนาะ ทำการขับเคลื่อนงานการเมืองผ่านองค์กรนักศึกษา
อุสตาซและเยาวชนผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน เคลื่อนไหวจัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นต่อเป้าหมาย
เด็ก เยาวชน นักเรียนโรงเรียนสอนศาสนา นักศึกษา และกลุ่มปัญญาชน โดยใช้ “อัตลักษณ์”และ“วาทกรรม”ในการขับเคลื่อนขยายฐานมวลชน
ยิ่งไปกว่านั้นรูปแบบการเคลื่อนไหวขององค์กรนักศึกษาสถาบันต่างๆ โดยมีกลุ่มบางกลุ่ม
ซึ่งรู้จักกันดีได้พยายามปลุกระดมด้วยการจัดเวทีเสวนา เคลื่อนไหวในพื้นที่และนอกพื้นที่มาโดยตลอด
นอกจากสถาบันการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ยังมีการขยายเครือข่ายไปยังสถาบันการศึกษานอกพื้นที่อีกด้วย
เช่นเดียวกับการแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่ม
BRN
ที่ยิ่งนับวันยิ่งมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น ทั้งมีการค้าของเถื่อน
ค้ายาเสพติด และสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ต่อคนในพื้นที่คือการเรี่ยไร หรือขอเงินรับบริจาค
เพื่อไปสร้างอาคาร สถาบันปอเนาะฯลฯ เงินเหล่านี้บางส่วนก็นำไปสร้างหรือใช้งานจริง
แต่กลุ่มเห็นแก่ตัวบางกลุ่มนำเงินส่วนนี้ไปเป็นค่าจ้าง ค่าเลี้ยงดูผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่งทำผิดกฎหมาย
ร่วมไปถึงการสร้างบ้านใหม่ให้กับตัวเอง ซื้อรถใหม่
ซึ่งตามหลักศาสนาไม่สนับสนุนให้ทำในลักษณะนี้
เพราะเป็นการนำเงินไปใช้ในทางที่ผิดถือว่าบาปหนัก
แต่กลุ่มไร้สมองไร้อุดมการณ์คงไม่คิดเช่นนั้นหรอก!! ปัญหาเหล่านี้มันเกิดขึ้นนับสิบๆปี
ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
เนื่องจากกลุ่มผู้ที่มีอุดมการณ์ใหม่ๆพร้อมที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลาโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
สมมุติว่าเราลองคำนวณเงินบริจาคที่ประชาชนในพื้นที่ ที่มีจิตสัทธาให้การบริจาค 1
บาท/คน แล้วประชากรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา ปัตตานี
จังหวัดนราธิวาส และ4 อำเภอจังหวัดสงขลา มีพี่น้องที่ต้องจำใจ
ประมาณ 3 แสนคน ตกเดือนละ 3 แสน ปีละ 3 ล้านหกแสนบาท เวลาที่ผ่านมา หากตีค่าเป็นเงินรวมๆ
ก็เกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งเงินเหล่านี้ไม่ใช่น้อยๆ
เป็นสิ่งล่อตาล่อใจสำหรับกลุ่ม BRN ที่คอยแสวงหาผลประโยชน์ก็เป็นได้
ปัญหาตามมาคงไม่ใช่ใครที่ไหนคงหนีไม่พ้นเยาวชนในพื้นที่ ที่ต้องรับกรรมจากความคิดไร้อุดมการณ์ของกลุ่ม
BRN หึหึ..
อย่างนี้ไม่เรียกว่า
“กลุ่มผลประโยชน์ BRN”
แล้วจะเรียกว่าอะไร..... ความรุนแรงต้องหมดไป ทุกเชื้อชาติและศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้ความแตกต่าง
ซึ่งจะนำไปสู่ความสมานฉันท์
แม้ปัญหาที่เกิดจากความแตกต่างในสังคมเดียวกันจะมีอยู่ทั่วไป แต่หากมีการเคารพ
และยอมรับซึ่งความแตกต่าง มีความไว้ใจและมีความปรารถนาดีต่อกัน สิ่งเหล่านี้
ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ประชาชนทุกชาติพันธุ์
สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข.
--------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น