"Ruslan"
จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่
9 พฤษภาคม 2560 คนร้ายนำระเบิดบรรจุในรถยนต์เข้าจอดบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี
สาขาปัตตานี แล้วทำการจุดระเบิด ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 61 ราย
แต่เดชะบุญที่ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ที่น่าเศร้าและสลดใจ ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บมีเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่รวมอยู่ด้วยถึง
8 ราย
คนร้ายในคราบ“ชัยฏอน”ไม่ต้องบอกกล่าวหรืออธิบายให้เสียเวลาว่าเป็นใคร
ฝ่ายไหน? การกระทำในสิ่งที่ชั่วร้าย “สุดโต่ง” หมายปองเอาชีวิตผู้คนเพียงเพื่อผลประโยชน์ฝ่ายตนเป็นใคร เสียไม่ได้นอกจาก“กลุ่มขบวนการโจรใต้”เท่านั้นที่กระทำการชั่วช้าสามานเช่นนี้ได้
การกระทำของกลุ่ม
BRN
ที่มุ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี
มีการเตรียมการเป็นขั้นเป็นตอน ต้องการทำลายเศรษฐกิจการค้าการลงทุน
สร้างความตื่นตระหนกตื่นกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน ที่สำคัญเป็นการวางแผน “สังหารหมู่ประชาชน” ที่โหดเหี้ยม
ในสื่อสังคมออนไลน์มีการตั้งข้อสังเกต
และหาสาเหตุการลอบระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี และมีการตั้งกระทู้กันเป็นวงกว้าง
แต่ที่จับประเด็นใจความสงสัยเคลือบแคลงใจของนักท่องโลกไซเบอร์คงหนีไม่พ้นความเชื่อมโยงในเรื่องผลประโยชน์ของกลุ่มทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
กับกลุ่มขบวนการ BRN
ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน “ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง
2 ตัว”
ย้อนกลับไปก่อนเกิดเหตุระเบิดห้างบิ๊กซี
สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ได้มีการเปิดห้างใหม่ใจกลางเมืองปัตตานีของกลุ่มทุนในพื้นที่
ในการนี้ได้มีการเชื้อเชิญอดีตรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด โดยมีผู้นำศาสนา
หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดและแขกผู้มีเกียรติทั้ง ในและต่างประเทศเข้าร่วมกว่า 500 คน
ประเด็นแรกที่ผู้คนสงสัย
และมีการตั้งคำถามสาเหตุการก่อเหตุดังกล่าวของกลุ่มขบวนการ BRN เป็นการ“ทำลายคู่แข่งทางเศรษฐกิจ”หรือไม่? เพียงเพื่อ“สนับสนุนกลุ่มทุนของตนเอง”อย่าลืมว่า ห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี
เป็นของกลุ่มทุนจากนอกพื้นที่ ซึ่งบิ๊กซีสำนักงานใหญ่ลงมาเปิดดำเนินการเอง ภายใต้การถือหุ้นของ
บริษัท บีเจซี 71.48% และ บริษัทเสาวนีย์โฮลดิ้งส์ ถือหุ้น 26.46% ซึ่งมี ที่เดียวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาพบว่ามีประชาชนแห่มาใช้บริการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนมาก
ย้อนกลับไปดูแผนการทำลาย“คู่แข่งทางเศรษฐกิจ”ของกลุ่มทุนจากนอกพื้นที่อย่างเช่น
KFC
ที่ยอดขายดิบขายดีมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และติดอันดับยอดขายดี
1 ใน 3 ของประเทศ โดยเฉพาะ KFC ห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี
มีกลุ่มอิทธิพลที่มีความเชื่อมโยงกับขบวนการ BRN ส่งกลุ่มบุคคลเข้ามาข่มขู่และเรียกเก็บเงิน
6 ล้านบาท แต่ทางบิ๊กซีไม่ยอมจ่าย สุดท้ายมีการเคลื่อนไหวอ้าง KFC ไม่มีเครื่องหมายฮาลาล บีบคั้นกดดันทุกวิถีทาง
มีการปลุกระดมไม่ให้พี่น้องมุสลิมกินไก่ KFC สุดท้ายมีการยกเลิกการขาย
KFC ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกสาขา
เมื่อมีการถอน
KFC
ออกไปจากจังหวัดชายแดนภาคใต้จะเห็นได้ว่าจะมีไก่ทอดสัญชาติมาเลย์เข้ามาเปิดดำเนินการแทน
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นไปตามแผนการที่ได้มีการวางแผนไว้แล้วเพื่อต้องการครอบครองในเรื่องผลประโยชน์ฝ่ายตนด้วยการทำลายคู่แข่งทางเศรษฐกิจของคนนอกพื้นที่
นั่นคือ“แผนการอุบาทว์”อันแยบยลของกลุ่มขบวนการ BRN และกลุ่มทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จับมือกันที่ต้องการทำลายเศรษฐกิจเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตน
มุ่งทำการก่อเหตุสร้างความรุนแรงด้วยการ“สังหารหมู่ชีวิตประชาชน”เป็นการกระทำที่ “สุดโต่ง” ไร้ซึ่งอุดมการณ์ เห็นแก่เงินตรา
หน้าหนาไร้ยางอายด้วยการเอาชีวิตประชาชนเป็นเดิมพัน
สร้างความเดือดร้อนมานับสิบกว่าปี กระทำการที่ผิดหลักศาสนาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่เคยสำนึก
สมาชิกแนวร่วมที่หลงผิดยังคิดจะสนับสนุนกลุ่มขบวนการ
BRN
อยู่อีกหรือ!!! ตราบใดที่ไม่ยอมหันหลังให้และยังนิยมความรุนแรงในการแก้ปัญหา
สักวันลูกหลานเรา ญาติสนิทมิตรสหายจะตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงเสียเอง
กลุ่มขบวนการ BRN คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ฝ่ายตน
แต่ไม่เคยคิดถึงความเดือดร้อนของประชาชน...นั่นคือจุดยืนของกลุ่มขบวนการสุดโต่งที่ชื่อว่า“บีอาร์เอ็น”
-------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น