"Ruslee Awang"
RKK คือชุดปฏิบัติการทหารของกลุ่มขบวนการ
แรกเริ่มเดิมทีมีหน้าที่ในการก่อเหตุและรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ถูกจัดตั้งแบบสมบูรณ์
สอดแนมหาข่าวเป้าหมายในการก่อเหตุและสุดท้ายคือการก่อเหตุ
การก่อเหตุแต่ละครั้งของกลุ่มขบวนการมีค่าใช้จ่ายสูงตามเหตุการณ์ที่ต้องการให้เกิด
เงินทุนในการก่อเหตุนอกจากงานได้จากเงินซากาตแล้ว
ยังได้รับเงินทุนจากกลุ่มนักการเมืองผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายธุรกิจมืด
เช่น ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน ของหนีภาษี มีความเชื่อมโยงกันเป็นอาชญากร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่ามกลางเหตุความไม่สงบความรุนแรง
เจ้าหน้าที่สามารถบุกทลายเครือข่ายยาเสพติดและน้ำมันเถื่อนได้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งเป็นการตัดวงจรท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มขบวนการขณะที่กลุ่มขบวนการเองก็มีการวิวัฒนาการความเลวปรับจาก RKK ซึ่งเป็นผู้ที่คอยก่อเหตุมาทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ให้กับกลุ่มขบวนการ
เพื่อควบคุมมวลชนของแต่ละพื้นที่ไม่ให้เข้าร่วมมือกับรัฐรวมถึงรักษาผลประโยชน์ธุรกิจมืดให้กับกลุ่มขบวนการและบ่อยครั้งที่ทีมงูเต๊ะจำเป็นต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ด้วยการมอบความตายให้กับชาวบ้าน เพื่อให้เกิดความรู้สึกกลัวจำใจต้องให้ความร่วมมือกับกลุ่มขบวนการหรือไม่ก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จึงไม่แปลกที่แต่ละคดีการจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต้องใช้เวลาหรือไม่ก็จับไม่ได้โดยทันทีซึ่งต่างจากคดีนอกพื้นที่ขณะที่ยังมีกลุ่มภาคประชาสังคมNGOs บางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวช่วยเหลือผู้ก่อเหตุคอยหยิบยกสร้างประเด็นความสับสนให้กับคนในพื้นที่ในสังคมตลอดเวลา เพื่อสร้างความรู้สึกลดความน่าเชื่อถือด้านกระบวนการความยุติธรรมของไทย
สำหรับการจัดตั้งทีมงูเต๊ะของกลุ่มขบวนการเพื่อควบคุมมวลชนในหมู่บ้าน
ส่วนมากแล้วจะให้แนวร่วมที่เคยก่อเหตุแล้วหรือเป็น RKK มีภาวะการเป็นผู้นำสามารถคุมหมู่บ้านหรือตำบลที่ตนรับผิดชอบได้ มีสติปัญญา มีอุดมการณ์ เคร่งศาสนา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมมวลชนในพื้นที่ แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีความขัดแย้งกันของกลุ่มขบวนการแนวร่วมในอดีตถดถอย
บางคนหนีไปต่างประเทศอีกหลายคนยอมมอบตัวเข้าร่วมกับโครงการพาคนกลับบ้านมากขึ้น กลุ่มขบวนการจึงจำเป็นต้องหาแนวร่วมที่มีปัญหาส่วนตัวหรือใครก็ได้มีระดับของสติปัญญาและฐานะทางครอบครัวและเศรษฐกิจด้อยกว่าคนอื่นในหมู่บ้าน เช่น
กลุ่มเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและกลุ่มคนที่เกี่ยวของกับธุรกิจมืดน้ำมันเถื่อน
โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีความคึกคะนองเอนเอียงไปกับกลุ่มขบวนการ ทั้งนี้การก่อเหตุทุกครั้งจะเน้นเยาวชนที่เข้าร่วมกับกลุ่มขบวนการ
เพราะเวลาก่อเหตุเสร็จก็จะยากต่อการสืบหา เพราะในสารบบเจ้าหน้าที่ไม่มีข้อมูล
การก่อเหตุทุกครั้งยังเป็นการฝึกทดสอบเยาวชนของกลุ่มขบวนการก่อนจะเข้าเป็น RKK
ของกลุ่มขบวนการอีกด้วย การยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว
ได้ทั้งเงินทอง ได้กำจัดเสี้ยนหนามของกลุ่มขบวนการเอง ได้ทั้งโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่
ได้ทั้งฝึกเยาวชนที่เข้าร่วมขบวนการของตัวเอง
วิวัฒนาการความเลวของกลุ่มขบวนการที่ก่อเหตุจะเปลี่ยนสภาพเป็นทีมงูเต๊ะทันที
เมื่อผลประโยชน์ของขบวนการเสียหาย อย่างกรณี เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 61 เวลา 19.45 น.
กลุ่มทีมงูเต๊ะ ก่อเหตุยิงนายมุตาอาลี ดีสะเอะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่
6 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จาการสอบสวนพบว่าในช่วงหัวค่ำ นายมุตาอาลี
ดีสะเอะ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์
ออกจากบ้านพัก เพื่อเดินทางไปละหมาดที่มัสยิดดารูลฮีดา บ้านคอลอกาเอ ม. 5 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
หลังละหมาดเสร็จนายมุตาอาลี ได้เดินออกจากมัสยิดเดินตรงไปยังจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้ามัสยิด
หลังจากนั้นมีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ที่มาดักรอดูอยู่แล้ว ได้เดินเข้าไปหาและใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายมุตาอาลี
ติดต่อกันหลายนัด จนทำให้นายมุตาอาลีล้มลง ก่อนจะยิงซ้ำที่ใบหน้าอีก 1 นัด
เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เตรียมไว้หลบหนีไปทาง ต.ตลิ่งชัน อย่างรวดเร็ว
นี้คือตัวอย่างของการล่าสังหารของทีมงูเต๊ะ
ที่มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานด้วยการเฝ้าตรวจพฤติกรรมของนายมุตาอาลี ซึ่งมันก็เหมือนกับการก่อเหตุของ RKK โดยเฉพาะคนที่รู้การเคลื่อนไหวก็คือคนในหมู่บ้านนั่นเอง
ก่อนจะมีการโทรศัพท์บอกทีมงูเต๊ะอีกทีมให้ก่อเหตุ นำมาสู่การสูญเสีย นายมุตาอาลี
เป็นบุคคลสำคัญที่ทำงานให้กับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับโครงการพาคนกลับบ้านจนทำให้แนวร่วมหลายคนที่กลัวกลุ่มขบวนการและอยากจะถอนตัว
มาขอให้นายมุตาอาลีช่วยเหลือ ก่อนจะเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านหลายคน นายมุตาอาลีจึงกลายเป็นหนามยอกอกของกลุ่มขบวนการ พฤติกรรมชั่วเดิม ๆ
ของกลุ่มขบวนการก็นำมาใช้กับพี่น้องมุสลิม นั้นก็คือการเลือกใช้ความรุนแรง
การฆ่าคือสูตรสำเร็จของขบวนการโจรใต้นั่นเอง
นี่คือวิวัฒนาการความชั่วช้าเลวระยำของกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่มีการตั้งทีมงูเต๊ะ
เพื่อรักษาผลประโยชน์คุมมวลชนในพื้นที่ของกลุ่มขบวนการให้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ก้มหน้ารับใช้เป็นทาสผลประโยชน์ที่แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ของกลุ่มขบวนการที่อยู่บนความสูญเสียกับคราบน้ำตาของคนในพื้นที่
โดยไม่เคยแยแสต่อความเจ็บปวดของผู้สูญเสีย ขณะที่คนที่บงการสั่งการอยู่มาเลย์กลับเสวยสุขกันอย่างอิ่มหนำสำราญ
ปล่อยให้ลูกน้องตัวเองก่อเหตุติดคดีหนีหัวซุกหัวซุนไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ ปล่อยให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุเดือดร้อนไร้เงินช่วยเหลือ
อดอยากปากแห้ง ไม่ตายก็ติดคุก กลายเป็นคนโง่ทำตามคำสั่งเพราะเคลิ้มไปกับคำสวยหรูแห่งอุดมการณ์
อำนาจ และการยอมรับนับถือบนความหวาดกลัวของชาวบ้าน
หาใช่การยอมรับนับถือด้วยการยกย่องอย่างแท้จริงไม่.....ยังคิดกันไม่ได้อีกหรือว่าโดนหลอกใช้บนข้ออ้างของศาสนา
กับความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีอยู่จริง
-----------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น