พฤติกรรมของโจรใต้ยังคงมุ่งสร้างความเดือดร้อนด้วยการก่อเหตุสร้างสถานการณ์นับตั้งแต่ต้นปี
47 จวบจนกระทั่งปัจจุบัน มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือความชั่วช้าสุดโต่งที่ได้ประทับตราบาปและยัดเยียดให้กับพี่น้องในพื้นที่ตลอด
15 ปี ที่ผ่านมา
รูปแบบการก่อเหตุยังคงมุ่งไปยังเป้าหมายที่อ่อนแอ
ไร้อาวุธ ไร้การต่อสู้มีแต่กระทำฝ่ายเดียว นี่หรือ!! นักรบฟาตอนีหน้าตัวเมียนุ่งโสร่ง
และปฏิเสธไม่ได้ว่าโจรใต้ฟาตอนีขี้ขลาดมีอัตลักษณ์อย่างหนึ่งที่มีการส่งต่อกันนั่นคือ
“ฆ่าผู้หญิง ยิงเด็ก ทำร้ายคนชรา”
ย้อนกลับไปเมื่อปี 50
ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญต่อพี่น้องไทยพุทธ เมื่อโจรใต้ได้ทำการก่อเหตุฆ่าตัดคอนายจวน
แก้วทองประคำ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/1 หมู่ 1 ต.นาประดู่
สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขาสั้น
ตามร่างกายถูกฟันด้วยมีดจนเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง
โดยคนร้ายนำศีรษะของผู้ตายติดมือไปด้วย
นายจวน แก้วทองประคำ เป็นเหยื่อชาวไทยพุทธคนที่
2 ที่ถูกฆ่าแล้วตัดศีรษะในเดือน ก.พ.50 โดยก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
คนร้ายก่อเหตุฆ่าตัดคอนายวีระชัย อุตระนิยัง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 1
ต.วังทอง อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู พ่อค้าเร่ขายไอศกรีม เหตุเกิดที่หมู่ 3 บ้านกือยา
ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ต่อมาอีก 2 วัน
คนร้ายนำศีรษะนายวีระชัยไปทิ้งไว้ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้รวบตัวโจรใต้ที่ก่อเหตุคือ
นายมะรอมลี แปแนะ และนายมูหะมะ แวกาจิ หนึ่งในสองผู้ต้องหาในในคดีฆ่าตัดคอ นายจวน
ทองประคำ อายุ 72 ปี เจ้าของโรงสีใน ต.นาประดู อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ซึ่งทั้งสองได้ให้การรับการสารภาพ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมขณะหลบหนี
“นายมูหามะ แวกาจิ”
ได้เปิดใจว่าตนเองเสียใจที่หลงผิดเพราะถูกเพื่อนชักชวนไปก่อเหตุ
ที่ผ่านมาเคยฆ่าตัดคอ และเผาโรงงานที่ ต.นาประดู่ จ.ปัตตานี
รู้สึกเสียใจที่ได้กระทำลงไป หลังจากเข้าร่วมขบวนการใหม่ๆ ทางแกนนำจะมีการสอนในเรื่องศาสนาและเรื่องประวัติศาสตร์ปัตตานี
จากนั้นจะมีการฝึกด้านร่างกาย การใช้อาวุธปืน การต่อสู้ด้วยมือเปล่าเป็นเวลานาน 3 เดือน ซึ่งก่อนที่จะถูกจับกุมตนได้เข้าร่วมขบวนการเป็นเวลา 5 ปี
“นายมูหามะ” ยังบอกฝากผู้ปกครองให้ช่วยกล่าวตักเตือนบุตรหลานเยาวชนอย่าให้เป็นเหมือนตน
เพราะได้หลงผิดไปแล้ว ไม่อยากให้มีเยาวชนมาหลงผิดอีก รวมถึงเพื่อนๆ ที่กำลังหลงผิดให้ออกมามอบต่อเจ้าหน้าที่
คำสารภาพโจรใต้
ให้แง่คิดอะไร!!
1. เหตุการณ์ฆ่าตัดคอคุณตาวัย 72 ปี เป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ไม่มีศาสนาไหนสอนให้มีการฆ่าเพื่อนร่วมชีวิตด้วยกันแล้วได้บุญ
แม้แต่การฆ่าสัตว์ยังเป็นบาป การก่อเหตุมีการมุ่งไปยังเป้าหมายอ่อนแอ เด็ก ผู้หญิง
คนชรา....
2. โจรใต้ได้เปิดเผยว่าได้เข้าร่วมขบวนการมาแล้วกว่า
5 ปี เมื่อบวกลบจากปีที่เกิดเหตุคือปี 50 แสดงว่าได้เข้าร่วมขบวนการเมื่อปี 45 ก่อนเกิดเหตุการณ์ตากใบ
กรือเซะ นั่นย่อมสื่อให้เห็นอีกว่าเหตุการณ์ตากใบ กรือเซะ
เปรียบเสมือนกองฟางที่โจรใต้วางแผนไว้อย่างดี โดยหลอกล่อให้พี่น้องมุสลิมมารวมตัวกัน
แล้วจุดเชื้อไฟโยนเข้ากองฟางให้ไฟใต้ลุกโชน สร้างเงื่อนไขไม่สนใจใยดีต่อชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่ไม่ว่านับถือศาสนาไหน!!
3. กลุ่มขบวนการโจรใต้
ปลุกระดมบ่มเพาะเชื้อร้ายโดยมุ่งเน้นไปที่เยาวชนอายุตั้งแต่ 16-25 ปี (ณ ขณะนั้น) แต่ในปัจจุบันกลับพบว่ามีการปลูกฝังตั้งแต่เด็กในโรงเรียนตาดีกา....
4. โจรใต้บิดเบือนศาสนา
และเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ให้ผิดเพี้ยน!!
ฆ่าคนได้ขึ้นสวรรค์
เปรียบเหมือนสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่อิสลามจะต้องไม่อยู่ภายใต้การปกครองของคนต่างศาสนา
พร้อมหว่านเมล็ดความเคียดแค้นชังแก่เด็ก "เราถูกรังแก"
"เราถูกข่มเหง" "เราไม่ได้รับความยุติธรรม"....
5. คำสารภาพของโจรใต้ ไม่ได้ชี้ว่าโจรใต้กลับใจ
แต่สื่อให้เห็นถึงความต้องการเอาตัวรอดที่ได้รับการเสี้ยมมาจากทนายความโจร
เพื่อต้องการผ่อนหนักเป็นเบา วางแผนฆ่าตัดคอชายชราแล้วหลบหนีเป็นพฤติกรรมที่ไม่ได้แสดงถึงการกลับใจ
ถ้าหากไม่ถูกจับกุมตัวได้เสียก่อนจะมีอีกกี่รายที่ถูกเชือดคอ อีกทั้งท่านจะเห็นโจรใต้กลุ่มนี้มีทำการโพสต์ปลุกระดมยั่วยุ
"วิ่งพล่านอยู่บนโลกออนไลน์"....
สิ่งที่ยืนยันการเอาตัวรอดของโจรใต้ ดูสิ่งที่มันแถหลังจากศาลยกฟ้อง
(บางคน) มันบอกว่าเจ้าหน้าที่ทหารซ้อม มีการทำร้ายทรมานร่างกายเพื่อให้สารภาพ
แต่ตอนที่จับได้คาหนังคาเขามันกลับบอกว่าหลงผิด และจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีของสังคมพร้อมที่จะช่วยพัฒนาชาติ
แหม!!!
6. การบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์โจรใต้เกิดขึ้นมานานแล้ว
และมีวิวัฒนาการผ่านยุคต่างๆ ส่งต่อความเลวจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะสถานศึกษาที่เราเข้าใจกันว่าเป็นแหล่งประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้
เรียนจบนำความรู้ไปประกอบอาชีพ แต่ในพื้นที่แห่งนี้กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น พบว่าโรงเรียนปอเนาะหลายแห่งมีการบ่มเพาะโจร
ชักนำให้เด็กนักเรียนหลงผิดจนต้องหมดสิ้นอนาคต ไม่ว่าอยู่ใกล้
หรือไกลจากตัวเมืองไร้การควบคุมจากผู้มีอำนาจ
ทำให้ผ้าขาวต้องกลายเป็นเทาและดำในที่สุด
เห็นได้จากกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐในคราบนักศึกษา พวกนี้คือผลผลิตจากการบ่มเพาะตอนยังเป็นเด็ก
ตอนนี้เมล็ดพันธุ์ชั้นเลวเหล่านั้นกำลังร่ำเรียนมันอยู่ในมหาวิทยาลัย
และได้เวลาที่มันจะสอนน้องๆ ให้เคลื่อนไหวต่อต้านอำนาจรัฐ และปลูกฝังความชั่วกันไปเรื่อยๆ
จากรุ่นสู่รุ่น
สุดท้ายผลผลิตสายพันธุ์โจรได้สอดแทรกเข้าไปเป็นมะเร็งร้ายทุกวงการ
บ้างที่เรียนจบเป็นทนาย เป็นครู เป็น NGOs เป็นนักการเมืองท้องถิ่น
เป็นข้าราชการ เป็นอัยการ เป็นหมอ เป็นพยาบาล ลองคิดเล่นๆ อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง
ที่เห็นๆ เป็นรูปธรรมในปัจจุบันนี้ คราใดโจรใต้ถูกควบคุมตัว
หรือตายจากการปะทะติดตามจับกุม ใครหนอ!! ที่เคลื่อนไหวกดดันรัฐแทนขบวนการ
ใครหนอ!! ที่รวมตัวกันเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ยกเลิก
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ใช่ผลผลิตของขบวนการโจรใต้ที่จับต้องได้หรอกหรือ!!!
หากยังคงเป็นอยู่เช่นทุกวันนี้!!! อีก 20 ปีข้างหน้า ท่านคิดว่า!!! อนาคต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็นเช่นไร..???
-------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น