แบมะ ฟาตอนี
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 เวลา 19.00 น.
เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงนายมุกตาร์ อาลีมามะ อายุ 32 ปี และบุตร
เด็กชายลุกมาน อภิบาลแบ อายุ 6 ปี 2 เดือน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
แต่ได้มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบันนังสตา อยู่บ้านเลขที่ 66/2 ต.ตลิ่งชัน
อ.บันนังสตาเหตุเกิดที่ บ้านอูเป ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งนายมุกตาร์
อาลีมามะ เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิ.อาญาหลายหมาย
พฤติกรรมนายมุกตาร์
อาลีมามะ
"นายมุกตาร์ อาลีมามะ มีหมายจับคดี ป.วิ.อาญา หลายหมาย
มือสังหารผู้กองแคน-ธรนิศ/จ่าเพียร เป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องการตัวมาก เนื่องจากทางการเชื่อว่านายมุขตาร์
อาลีมามะ เป็นนักรบและหัวหน้าขบวนการปลดแอกเอกราชปาตานี
ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา"
นายมุกตาร์ อาลีมามะ
เป็นแกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ รับผิดชอบในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีหมายจับในคดีความมั่นคงรวม 6
หมายจับ แยกเป็น ที่ สภ.บันนังสตา จำนวน 5 หมาย สภ.ธารโต 1หมาย โดยคดีสำคัญ คือ ยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหารพราน
ภายในโรงเรียนบ้านเขื่อนบางลาง ทหารพรานเสียชีวิต 1นาย และปล้นปืน AK 47 ของทหารพรานหลบหนีไปจำนวน 6
กระบอกด้วยกัน เมื่อปี 2550 รวมทั้งร่วมกับพวกซุ่มยิง ร.ต.อ.ธรนิศ
ศรีสุข หรือผู้กองแคน เสียชีวิต ที่ควนนวรัตน์ บ้านสายสุราษฎร์ ต.เขื่อนบางลาง
อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2550 และเหตุลอบวางระเบิด พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา เสียชีวิตที่หมู่ 9 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ เมื่อตอนต้นปี 2553
เสียงสะท้อนจากชาวบ้านหลังเกิดเหตุ
จากการสอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ชาวบ้านได้ยินเสียงปืน 30 กว่านัด หลังจากสิ้นเสียงปืนชาวบ้านจึงรวมตัวกันขึ้นไปดูเหตุการณ์
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนจำนวนมากและพบศพของนายมุขตาร์ กับ ลูกชาย บริเวณนั้นมีรอยกระสุนที่รถจักรยานยนต์ของนายมุกตาร์ อีกด้วย
ชาวบ้านจึงได้นำศพลงมาจากสวนยางบนภูเขา อีกทั้งข้อมูลที่ได้รับจากชาวบ้านที่มีความน่าสนใจต่อการเสียชีวิตของสองพ่อลูก
ประเด็นแรก เป็นการหักหลังกันเองในกลุ่ม RKK เนื่องจากนายมุขตาร์ เป็นแกนนำระดับสั่งการในกลุ่มอาร์เคเค
เคยวางแผนร่วมกับนายมะแอ อภิบาลแบ อดีตแกนนำระดับสูง ที่ถูกวิสามัญเมื่อกลางปี 2554
นำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักร่วม 100 กก.ไปลอบวางระเบิด พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต
ผกก.สภ.บันนังสตา เสียชีวิตที่หมู่ 9 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ เมื่อตอนต้นปี 2553 หลังจากนั้น
นายมุกตาร์ก็รับช่วงเป็นแกนนำระดับสั่งการต่อ แต่ภายหลังมีกระแสว่า เกิดความขัดแย้งกันเองภายในกลุ่ม ประเด็นที่สอง
เนื่องจากนายมุขตาร์ อาลีมามะ เข้าไปมีส่วนร่วมกับกลุ่มค้ายาเสพติดในพื้นที่
รวมทั้งกลุ่มผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องการทำไม้เถื่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า
อาจจะเกิดจากความขัดแย้งกันเองภายในกลุ่ม
อาจเป็นชนวนนำไปสู่ความตายเนื่องจากขัดแย้งในเรื่องของผลประโยชน์ไม่ลงตัว
“ฆ่าพ่อสังหารลูก”เล่ห์เหลี่ยมโจรใต้ที่ต้องรู้เท่าทัน
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ยังไม่ได้ลดความรุนแรงลงอย่างที่หลายฝ่ายต้องการที่จะเห็น
ความสูญเสียยังเกิดขึ้นรายวัน และโจทย์ก็ยังเป็นโจทย์เดิมๆ
รูปแบบการก่อเหตุความรุนแรงกลุ่มคนร้ายยังคงนำรูปแบบเดิมๆ วนเวียนมาเล่นใหม่ อย่างเช่นแผนชั่วโจรใต้
“ฆ่าพ่อสังหารลูก” ข้อสังเกต กรณีการนำศพของเด็กชายลุกมาน อภิบาลแบ
มาส่งที่โรงพยาบาลบันนังสตานั้น รับทราบขั้นต้นแค่เพียงว่าเป็นคนตัดไม้ที่อยู่ในพื้นที่
แต่แนวโน้มไม่น่าเป็นไปได้เนื่องจากเมื่อส่งเด็กเข้าโรงพยาบาลแล้วรีบหลบออกจากโรงพยาบาลโดยทันที
ซึ่งเจ้าหน้าที่จำรถและทะเบียนไม่ได้
โดยลำดับขั้นตอนมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ในการโฆษณาชวนเชื่อ เพียงเพื่อหวังโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ
หลังจากนั้นสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มขบวนการ ด้วยการลงมือเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างเช่นเหมือนเหตุการณ์ต่อหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา
จากการก่อเหตุนำไปสู่การเคลื่อนไหวโดยองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) และสื่อแนวร่วมซึ่งเป็นปีกของขบวนการ
BRN ทำการโฆษณาชวนเชื่อขยายผลตามแผนที่ได้วางไว้
ผลประการแรก เนื่องจากเป็นการสังหารผู้ที่มีประวัติเป็น ผกร. ผู้ที่วางแผนต้องการให้กลุ่มสหพันธ์นิสิต
นักเรียนนักศึกษา และเยาวชนปาตานี (PerMAS) และนักสิทธิมนุษยชนออกมาเคลื่อนไหวประโคมข่าวสร้างกระแสปลุกปั่นกล่าวหาเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ประการที่สอง เป็นการฆ่าตัดตอนกันเองภายในองค์กร เนื่องจากผู้ตายเป็น ผกร.
ระดับสั่งการกุมความลับไว้มากมาย ก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายอับดุลเล๊าะ ปูลา ผกร.ในเครือข่ายของผู้ตาย
เมื่อวันที่ 30 มี.ค.56
นำไปสู่การขยายผลโครงข่าย ผกร.ในพื้นที่ ซึ่งโดยทั่วไป ผกร.
ระดับปฏิบัติการจะรับรู้เพียงบุคคล
หรือแผนการในเครือข่ายเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐ สามารถตรวจสอบเชิงลึกขยายผลไปยังกลุ่มอื่นได้
มีเพียง ผกร. ระดับแกนนำเท่านั้นที่สามารถติดต่อประสานงานกับส่วนอื่น เป็นไปได้ว่าการสังหารนายมุกตาร์
คือการฆ่าตัดตอนเพื่อไม่ให้สามารถขยายผลไปสู่เครือข่ายในพื้นที่อื่นๆ
ประการที่สาม เป็นการวางแผนสร้างสถานการณ์ของกลุ่มขบวนการ ด้วยการสร้างความชอบธรรมในการเข่นฆ่าพระ
ครู ประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่เพื่อสร้างความหวาดกลัวโดยอ้างเพื่อล้างแค้นให้แก่พี่น้องมุสลิมเหมือนที่เคยปฏิบัติที่ผ่านมา
หากจำกันได้เมื่อเร็วๆ นี้เกิดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุเข่นฆ่าเป้าหมายอ่อนแอ
ไม่ว่าจะเป็น พระ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้หญิง และครู แล้วลงมือจุดไฟเผา
โดยอ้างว่าเป็นการแก้แค้นให้กับเด็กมุสลิม 3 คน ซึ่งเป็นบุตรของนายเจ๊ะมุ มะมัน ที่โดนคนร้ายฆ่าตายที่บาเจาะ
“เหตุบันนังกูแว” คือแนวทางการเดินเกมส์
จากเหตุคนร้าย “กราดยิงเด็ก 3 ศพ
บุตรของนายเจ๊ะมุ มะมัน ที่บาเจาะ” ต่อเนื่องมาถึงเหตุ 2
ศพ ผัว-เมีย “บันนังกูแว” สหพันธ์นิสิต นักเรียนนักศึกษา และเยาวชนปาตานี (PerMAS) และนักสิทธิมนุษยชนบางกลุ่มได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยเฉพาะนายสุไฮมี ดูละสะ
ประธานกลุ่ม PerMAS ที่ได้แสดงตัวชัดเจนในการลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมข้อมูลในการดำเนินการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ความเคลื่อนไหวล่าสุด สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี
(PerMAS)
ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐไทยยอมรับว่าที่นี้คือสงครามที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นตัวขับเคลื่อนและควรเปิดพื้นที่ให้องค์กรสิทธิมนุษยชน
(NGOs) ภาคประชาสังคม ภาคประชาชนที่ประชาชนไว้ใจ
เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่ละเมิดหลักมนุษยธรรม รัฐไทยควรเอาจริงเอาจังกับยุทธศาสตร์การเมืองนำการทหารเพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางการสร้างสันติภาพแก่ประชาชนที่แท้จริง
และที่สำคัญที่สุดรัฐไทยควรถอดถอนทหารออกจากพื้นที่ให้หมดเพราะพิสูจน์แล้วว่าตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีมีทหารเต็มพื้นที่ก็ไม่สามารถรักษาความสงบสุขแก่ประชาชนได้รังแต่สร้างความคลางแคลงสงสัยตลอดจนสร้างเงื่อนไขใหม่เพิ่มเติมตลอดเวลา
สื่อแนวร่วมนำเสนอข่าวกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ
สำนักสื่อ WARTANI สื่อแนวร่วมขบวนการโจรใต้
ได้นำเสนอข่าวบิดเบือนความจริงตามที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ในเว็บไซต์ deepsouthwatch.org ซึ่งไม่ได้เป็นที่แปลกใจเท่าไหร่นัก อาจจะเหมือนเป็นเรื่องปกติที่สื่อเหล่านี้ได้ปฏิบัติเป็นประจำอยู่แล้ว
โดยมีการกล่าวแอบอ้างว่า “เสียงสะท้อนจากชาวบ้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เนื่องจากมีลูกชายนายมุขตาร์เสียชีวิตอยู่ด้วย
ชาวบ้านต่างแสดงความไม่พอใจกับการกระทำต่อเด็กอย่างทารุณ และชาวบ้านเชื่ออีกว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้สองวัน” พร้อมทั้งจั่วหัวข่าวในการนำเสนอ “เหตุยิงพ่อลูกที่บันนังสตา ชาวบ้านเชื่อเจ้าหน้าที่เป็นคนทำ”
สันดานโจรใต้ไม่เคยเปลี่ยน
เมื่อความจริงปรากฏจากคดีความมั่นคงที่ผ่านมา
นำไปสู่การจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย เหตุสังหารมาจากเรื่องส่วนตัว
ความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน
รวมไปถึงการสร้างสถานการณ์โดยโจรใต้เอง ได้ลงมือก่อเหตุฆ่าลูกหลานชาวมุสลิมปาตานี "มุสลิมฆ่ามุสลิม"
แต่สันดานเถื่อนถ่อย กลับกลายเป็นการสร้างเงื่อนไขที่โจรใต้เขียนขึ้นมากับมือ
ด้วยการประกาศกร้าวตั้งเป้าลงมือฆ่าล้างแค้นคนไทยพุทธกลุ่มน้อยในพื้นที่แห่งนี้ให้เกิดความหวาดกลัว
มันส่อถึง “สันดานโจรใต้ไม่เคยเปลี่ยน”แสดงให้เห็นว่าธาตุแท้โจรชั่วไร้ศาสนาเหล่านี้ไม่เคยมีเลยแม้อุดมการณ์ผุๆ
ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นจากการกระทำของกลุ่มขบวนการที่สั่งการโดยระดับแกนนำ
ให้ RKK ในพื้นที่ลงมือก่อเหตุสร้างสถานการณ์แล้วโยนผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่าดูถูกประชาชนชาวปาตานีอีกต่อไปเลย กับการสร้างเรื่องบิดเบือนข้อเท็จจริง
เดี่ยวนี้ประชาชนเค้าหูตาสว่างสามารถแยกแยะ
วิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารและเลือกเสพสื่อที่นำเสนอความจริงเท่านั้น “10 ปี ที่ขมขื่น”
คงจะเพียงพอสำหรับความจริงใจของขบวนการ BRN ที่แสดงละครตบตาประชาชนมาโดยตลอด
@@@@@@@@@@
ใครคือ แบมะฟาตอนี
ตอบลบ