"Ruslan"
เดือนรอมฎอน เดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมเป็นเดือนของการกระทำแต่ความดีละเว้นความชั่วทั้งปวง
เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในเดือนนี้เหตุการณ์น่าจะเบาบางลง
หรือไม่เกิดขึ้นเลย แต่ในความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามมีเหตุลอบยิง
ลอบวางระเบิดมุ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สิน สิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ทำไม? เหตุรุนแรงในเดือนนี้กลับมีสถิติที่สูงขึ้นเรามาไขปมข้อสงสัยกันว่ามาจากสาเหตุอะไร?
ย้อนกลับไปดูสถิติเหตุรุนแรงในช่วง
10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนเมื่อปีที่แล้ว คือปี 2559 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นทั้งสิ้น 30 ครั้ง
เป็นคาร์บอมบ์ 2 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 17 ราย บาดเจ็บ 25 ราย
นั่นคือตัวเลขความสูญเสียที่เกิดขึ้นในเดือนแห่งบุญของปีที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดขึ้น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้แจ้งเตือนให้มีการเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมเมื่อมีการก่อเหตุ
แต่มิวายที่เหตุการณ์เดิมๆ ซึ่งเกิดจากน้ำมือกลุ่มขบวนการโจรใต้โดยอาศัยจังหวะและเวลาในการลงมือทำการก่อเหตุ
ทำลายเดือนแห่งการกระทำความดีที่คนส่วนใหญ่มุ่งปฏิบัติกลับกลายเป็น “รอมฎอนเปื้อนเลือด”
สำหรับ 10
วันสุดท้ายเดือนรอมฎอนของปีนี้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน จนถึงวันที่ 24
มิถุนายน สถานการณ์ล่าสุด ณ วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน หรือผ่าน 5 วันของช่วง 10
วันสุดท้ายมาแล้ว มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน คนร้าย 2
คน ทำการก่อเหตุยิงกลุ่มวัยรุ่นหาของป่าที่อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.แว้ง จังหวัดนราธิวาส เสียชีวิตคาโรงพัก เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน
สรุปในช่วง 5 วันแรกของ 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอนปีนี้ แม้จะมีระเบิดเกิดขึ้นเพียง 1
ครั้ง และยิงด้วยอาวุธปืน 2 ครั้ง แต่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วถึง 10 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ
5 ราย ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ต้องมาสูญเสียจากการกระทำของกลุ่มโจรใต้
อะไร?
คือสาเหตุและแรงจูงใจให้กลุ่มขบวนการโจรใต้ลงมือก่อเหตุในห้วงสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน
และส่งผลให้เหตุรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
สาเหตุหลักเกิดจากกลุ่มขบวนการโจรใต้ได้รับการปลูกฝังแนวความคิด
และถูกบ่มเพาะอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน ให้มีความเชื่อว่า“หากทำการก่อเหตุช่วงนี้ จะได้บุญเพิ่มเป็น 10 เท่า”ที่สำคัญ
มีการบิดเบือนหลักคำสอนทางศาสนา กล่าวอ้างว่าดินแดนปาตานีซึ่งหมายถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ
4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เป็นดินแดนที่คนมุสลิมถูกกดขี่ถูกรุกราน
ฉะนั้นจะต้องลุกขึ้นต่อสู้ทำสงครามศาสนาเพื่อปลดปล่อยปาตานี
เมื่อตีความว่าดินแดนนี้เป็น “ดินแดนสงคราม” ใครที่ทำลายฝ่ายศัตรูก็จะได้บุญ
โดยเฉพาะในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ก็จะได้บุญเพิ่มเป็น 10 เท่า
ปัจจุบันการเผยแพร่แนวความคิดความเชื่อลักษณะเช่นนี้ก็ยังคงมีอยู่
โดยเฉพาะในกลุ่มที่ถูกบ่มเพาะอุดมการณ์ซึ่งใช้สถานศึกษา
สถาบันปอเนาะเป็นศูนย์กลางให้กับกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ๆ ที่เรียกกันว่า “แนวร่วมรุ่นใหม่” หรือ “นักรบรุ่นใหม่”
นั่นคือการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาอิสลามของกลุ่มขบวนการโจรใต้
แต่ในความเป็นจริงบทบัญญัติศาสนาอิสลาม อธิบายไว้ว่าสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน
เป็นสิบวันที่มุสลิมจะต้องสร้างคุณงามความดี โดยการถือศีลอดตามหลักปฏิบัติของมุสลิม
ถือว่าเป็นเดือนที่มีแต่การให้แก่ผู้อื่น รวมทั้งการไม่ทำร้าย ไม่ทำลาย
ไม่เบียดเบียนให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือเสียหาย
ฉะนั้นพี่น้องมุสลิมส่วนใหญ่จะเสียใจมาก
หากมีลูกหลานญาติมิตรกระทำการใดๆ ที่จะนำไปสู่ให้เพื่อนบ้านเดือดร้อนก่อให้เกิดสังคมในพื้นที่วุ่นวาย
มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายในห้วงเดือนรอมฎอน จากการกระทำของกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่ได้รับความเชื่อผิดๆ
เป็นการทำลายเดือนแห่งบุญที่ผู้คนส่วนใหญ่ปฏิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน
จึงขอเรียกร้องให้สังคมมุสลิมมุ่งมั่นทำความดี ละเว้นความไม่ดีทั้งปวง
เป็นช่วงเดือนที่ต้องขออภัยและให้อภัยในสิ่งที่ผิดพลาดทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจต่อกัน
เพื่อความสงบสันติสุขอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นในพื้นที่ปลายด้ามขวานเหมือนในอดีตที่ผ่านมา.
--------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น