4/02/2561

งาบงบ ศธ. เงินภาษีประชาชนใช้ล้างสมองนักเรียน-นักศึกษาเป็นแนวร่วมแบ่งแยกดินแดน



แฉทุจริตงบอุดหนุนกระทรวงศึกษาธิการ หลัง ฉก.ปัตตานี บุกค้นโรงเรียน สอนศาสนาเอกชน ยึดหลักฐาน เอกสารเงินสดกว่าล้านบาท แฉเล่ห์ขบวนการ กว่า 100 โรงเรียน สร้างหลักฐานปลอม เพิ่มยอดนักเรียน-ครู ทำบัญชี "เด็กผี-ครูผี" โกงค่าหัว คาดหน่วยงานรัฐมีเอี่ยว เหตุทำเป็นขบวนการมานานนับสิบปี ปีละหลายร้อยล้าน แต่ไม่รู้ เร่งตรวจสอบ ขณะ โจรใต้ โต้กลับ "ลอบบึ้ม-ยิงฐานทหาร-ยิงเอ็ม16 ถล่ม" ป่วนหนักหลายพื้นที่ ด้าน "พล.ต.จตุพร กลัมพสุต" เชื่อโกงเงินหลวง ใช้บ่มเพาะ นักเรียน-นักศึกษาเยาวชน เข้าสู่ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ลั่นดำเนินคดีแล้ว 1 โรงเรียน อีก 6 อยู่ระหว่างตรวจหลักฐาน

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 30 มี.ค. ร.ต.ท.วรดร ใสสุชล รอง สว. (สอบสวน) สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิด บริเวณอาคารที่ทำการตลาดนัดเอกชน ริมถนนสายบาเจาะ-บ้านทอน บ้านบือเระ หมู่ 7 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก. และกำลังทหาร-ตำรวจ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่ทำการของตลาดห่างถนน 30 เมตร ถูกแรงระเบิดเสียหายเสาหัก 1 ต้น หลังคากระเบื้องถูกสะเก็ดระเบิดเสียหายกระจายเกลื่อน ใกล้กันพบหลุมลึก 50 ซม.กว้าง 60 ซม. มีเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องประกอบถังแก๊สปิกนิก หนัก 20 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารกระจายเกลื่อน สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทหารพรานกองร้อยทหารพราน ชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัดกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 นั่งรถหุ้มเกราะมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดรวมพล ก่อนออกตรวจเส้นทางมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน คาดว่าแฝงตัวอยู่ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดหวังลอบสังหารเจ้าหน้าที่ ทำให้ตัวอาคารเสียหาย ส่วนเจ้าหน้าที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากเป็นจุดอับ เบื้องต้นเชื่อว่า เป็นฝีมือกลุ่มผู้ไม่หวังดี ลอบสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน

ขณะที่เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.สายูตี กาเต็ ผกก.สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี นำกำลังตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยทหาร ตรวจที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวน ขี่รถจยย.ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงใส่หม้อแปลงไฟฟ้าข้างมัสยิดบูโกะ หมู่ 5 บ้านบูโกะ ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พบหม้อแปลงถูกกระสุนเป็นรู 4 รู พร้อมเก็บหลักฐานปลอกกระสุนเอ็ม 16 รวม 4 ปลอก และเหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงตัวตัดไฟฟ้า เสาไฟฟ้าแรงสูง ปากทางเข้าบ้านปูยุด หมู่ 7 ต.ปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้ตัวตัดไฟ สายไฟขาด ไฟฟ้าดับ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลักฐานกระสุนปืนเอ็ม 16 รวม 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ สุวรรโณ รอง สว. (สอบสวน) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้ปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฐานทหารพราน ร้อย ทพ.4403 ฉก.ทพ.44 หมู่ 2 ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี แล้วรีบหลบหนีไป ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยข่าวความมั่นคง เชื่อว่าเป็นการ ตอบโต้ของกลุ่มแนวร่วมขบวนการบีอาร์เอ็น กรณีเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา กำลังตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี พร้อมด้วย ชปข.ขกท.พล.ร.15 สนต. พท.22 ฉก.ปัตตานี ชุดเฉพาะกิจ ศรภ.สน.จชต. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และ เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เข้าตรวจ ค้นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาชื่อโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ ตั้งอยู่ หมู่ 5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยค้นอาคารทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียน พร้อมยึดเงินสด 1,227,980 บาท และเอกสารอีกจำนวนมากมาตรวจสอบ หลังพบว่ามีการทุจริตงบอุดหนุนโรงเรียน และตรวจสอบว่า มีส่วนพัวพันกับขบวนการบ่มเพาะนักเรียน นักศึกษา เยาวชน เพื่อนำเข้าสู่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนหรือไม่อย่างละเอียด

พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า จากที่ ฉก.ปัตตานี เข้าตรวจค้น ตรวจสอบ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา ใน จ.ปัตตานี มาตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นต้นมา ซึ่งขณะนี้มีโรงเรียนที่ถูกตรวจค้น ยึดเอกสาร หลักฐาน มาตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว 5-6 โรง และโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ เป็นรายล่าสุด ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นยึดเอกสารพร้อมเงินสดกว่า 1 ล้านบาท เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุก่อกวนใน จ.ปัตตานี และ นราธิวาส ขึ้นหลายเหตุการณ์

พล.ต.จตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับโรงเรียนแห่งแรกที่เข้าตรวจค้นได้หลักฐานเอกสาร และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุร้าย จำนวมมาก คือโรงเรียนบากงวิทยา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังการข่าวแจ้งว่า มีส่วนพัวพันกับการก่อการร้าย และบ่มเพาะนักเรียนมาก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวเคยถูกตรวจค้นไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ วันที่ 25 เม.ย.60 ซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนดังกล่าวไว้ที่ สภ. หนองจิก จ.ปัตตานี แล้ว โดยมีข้อกล่าวหาใน 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องการทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวของนักเรียน โดยมีการแจ้งเท็จจำนวนนักเรียน และจำนวนครู เพื่อทุจริตเงินอุดหนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีการอุดหนุนให้เด็กนักเรียน รายหัวละ 14,000 บาทต่อคนต่อปี และเงินอุดหนุนครูอีกจำนวนหนึ่ง

พล.ต.จตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ สภ. หนองจิก อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐาน ขณะเดียวกันทางผู้บริหารโรงเรียน ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และการทุจริต ซึ่งก็เป็นสิทธิแต่ก็ต้องเป็นไปตามขบวนการยุติธรรม แต่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่าจากหลักฐานที่ได้มา และจากพฤติการณ์ที่ผ่านมา สามารถเอาผิดกับบุคคลหลายคนที่เกี่ยวกับโรงเรียนดังกล่าวได้ ส่วนโรงเรียนเอกชนอื่น ๆ อีก รวมถึงโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ ที่ตรวจค้นไปแล้ว และมีการยึดเอกสารมาตรวจสอบนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด ซึ่งหากพบว่ามีการทุจริตงบอุดหนุน ทั้งในส่วนของเด็กนักเรียน ครู และอื่น ๆ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะเยาวชนให้หลงผิด ก็จะแจ้งความดำเนินคดีทุกโรงเรียนที่หลักฐานเอาผิดได้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการทุจริตเงินอุดหนุนของโรงเรียนเอกชน ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานเป็นสิบ ๆ ปี แต่ไม่มีหน่วยงานไหนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะสำนักงานการศึกษาเอกชน หรือ สช. ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ไม่กล้าที่จะตรวจสอบ ทั้งการเงิน การบริหาร และการเรียนการสอน จึงทำให้โรงเรียนบางแห่งทำบัญชีผี ที่เรียกว่า "เด็กผี" และ "ครูผี" ขึ้นมา โดยสมมุติตัวเลขจำนวนนักเรียนหรือครูในโรงเรียนขึ้นมาเพื่อเพิ่มจำนวนเงิน เช่น โรงเรียนมีนักเรียน 700 คน ก็จะทำหลักฐานแจ้งกระทรวงศึกษาธิการว่ามีนักเรียน 1,200 คน มีครู 70 คน ก็แจ้งว่ามีครู 120 คน เป็นต้น โดยงบอุดหนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาที่รัฐจ่ายให้โรงเรียนดังกล่าวหัวละ 14,000 บาทต่อหัวต่อปี แบ่งเป็น 5 หมวด คือ ค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์ ค่าเครื่องแบบ ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาผู้เรียน นอกนั้นเป็นงบอุดหนุนอื่น ๆ เช่น ครูอัตราจ้าง ค่าเสี่ยงครู เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่มีมากกว่า 200 โรงเรียน มีการตรวจพบแล้วส่วนหนึ่งว่ามีการสร้างบัญชี เด็กผี ครูผี และหลักฐานเท็จ เพื่อรับเงินอุดหนุนเกินจริง และยังมีการตรวจพบใบเสร็จปลอม ออกโดยห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นใบเสร็จซื้อหนังสือ อุปกรณ์การเรียนการสอน และอื่น ๆ โดยห้างร้านหลายแห่งมีการปิดกิจการไปแล้ว และหลายแห่งไม่มีตัวตน ซึ่งตัวเลขจากหน่วยงานความมั่นคง อ้างว่า มีโรงเรียนที่เข้าข่ายทุจริตไม่ต่ำกว่า 100 โรงเรียน และมีบริษัท ห้าง ร้าน กว่า 10 แห่ง ที่ทำเอกสารเท็จดังกล่าว และในขบวนการตรวจสอบ หน่วยงานความมั่นคง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ "เงินทอน" ของการทุจริตครั้งนี้ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคลากรของรัฐคือ สำนักงานการศึกษาเอกชน หรือ สช. หรือไม่ เนื่องจากการทุจริตทำกันเป็นขบวนการมานานกว่า 10 ปี จึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่รัฐ จะไม่รู้หรือไม่ระแคะระคายสงสัย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การเปิดยุทธการตรวจค้นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาครั้งนี้ มีเพียง ฉก.ปัตตานี ซึ่งมี พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เท่านั้น ที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้าตรวจสอบ ซึ่งส่วนใหญ่โรงเรียนที่ถูกตรวจค้นมีรายชื่อพัวพันกับแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น และก่อนปี 2547 ก็เป็นโรงเรียนที่อยู่ในบัญชีของหน่วยงานความมั่นคง ขณะที่ ฉก.ยะลา และ ฉก.นราธิวาส กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า หลัง ฉก.ปัตตานี เปิดยุทธการครั้งนี้ พบว่ามีบรรดาผู้นำเครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พยายามออกมาเคลื่อนไหว โดยส่งหนังสือขอความเป็นธรรมไปยัง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมถึง พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข อย่างต่อเนื่องเพื่อขอให้ระงับการตรวจค้นโรงเรียน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการสร้างความแตกแยก

สำหรับการทุจริตค่าหัวเงิน หรือการทำบัญชี "เด็กผี"-"ครูผี" ของโรงเรียนเอกชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีมาตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา มีการตรวจพบการทุจริตงบอุดหนุน ปีละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ ทีมข่าว นสพ.เดลินิวส์ จะมีการนำมาเสนออย่างต่อเนื่องต่อไป

ขณะที่เวลา 08.30 น. วันที่ 30 มี.ค. ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรระแงะ ถนนระมรรคา 8 เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตัวแทนผู้นำศาสนา 7 ตำบล 61 หมู่บ้าน ต.ตันหยงมัส กว่า 500 คน รวมพลังร่วมประกอบพิธีละหมาดฮายัต ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุคนร้ายนั่งท้ายกระบะ กราดยิงตำรวจ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ขณะเคารพธงชาติ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2560 ที่ผ่านมา พร้อมปล่อยลูกโป่งสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของการขอสันติภาพสู่ชายแดนใต้ รวมทั้งขอพรจากพระเจ้าช่วยประทานพรให้ความสงบสันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่โดยเร็ว โดยที่ผู้นำศาสนาอิสลามในพื้นที่ และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยมีนายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอระแงะ พ.ต.อ. สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน อ.ระแงะ ร่วมประกอบพิธี ส่วนทางคดี มีการออกหมายจับ 14 ราย ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 10 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น