สำหรับความเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 61 ที่ผ่านมา ณ ปอเนาะดารุสซาลาม อ.ราวัง กรุงกัวลาลัมเปอร์
ประเทศมาเลเซีย มีแกนนำระดับสูงฝ่ายทหารอย่าง นายดุนเลาะ แวมะนอ และสามาชิก BRN ที่พักอาศัยอยู่มาเลเซีย
จำนวน 3 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย BRN Congress BRN Coordinate และ BRN Ulama ในที่ประชุมกล่าวถึงการจัดงานวันสถาปนาขบวนการ
BRN ครบรอบ 58 ปี พร้อมสั่งการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในวันก่อตั้ง
BRN Congress คือ 10 เม.ย. ของทุกปี เมื่อปีที่แล้ว กลุ่มขบวนการได้สั่งก่อการเหตุระเบิดเสาไฟฟ้า
52 ต้น ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ทั้งนี้ แกนนำสำคัญระดับสั่งการก่อเหตุรุนแรงและยังมีการคัดเลือกให้แต่งตั้ง
อุสตาซอับดุลเลาะห์ สาวอ เป็นประธาน BRN คนใหม่ อีกด้วย
ประธาน BRN คนใหม่พฤติกรรมความรุนแรงไม่เคยเปลี่ยน หลังจากที่แนวร่วม RKK ได้ก่อเหตุยิงรายวันสร้างความเดือดร้อนสูญเสียให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังก่อเหตุลอบวางระเบิดเทศบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 61 กลุ่มโจรใต้ได้ลอบวางระเบิดจักรยานยนต์บอมม์ ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย รวมถึงเด็กน้อยวัย 3 ขวบ ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ด้วย การเลือกใช้ความรุนแรงโดยไม่เลือกเป้าหมาย จงใจกระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้เล็งเห็นแล้วว่า เป็นพื้นที่ชุมชนมีผู้คนพลุกพล่าน แต่กลุ่มโจรใต้ก็ยังกระทำเพื่อหวังสังหารหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เหมือนที่เคยกระทำมา อย่างที่ระเบิดบิ๊กซีปัตตานี เป็นพฤติกรรมชั่วสุดโต่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในสันดานของคนไม่มีศาสนาอย่างกลุ่มโจรใต้
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก ความสูญเสียจากการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและโจรใต้ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย โจรใต้เสียชีวิต 2 คน เมื่อ 10 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 13.25 น. เจ้าหน้าตำรวจสถานีตำรวจภูธรยะรัง จำนวน 8 นาย เดินทางปฏิบัติหน้าที่ด้วยรถกระบะ จำนวน 2 คัน เพื่อปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ ถนนสายระแว้ง-สะนอ บ.ระแว้ง ต.ระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 3 คน จอดรถจักรยานยนต์พูดคุยกันอยู่ริมถนนท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจสอบ แต่บุคคลดังกล่าวกลับใช้อาวุธปืนพก ยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เจ้าหน้าที่จึงติดตาม และเกิดการปะทะกันขึ้น ภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ คนร้ายเสียชีวิต จำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นายซอบือรี เจะหะ กับนายยูโซ๊ะ เจ๊ะหลง พร้อมอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก และระเบิดขว้างแบบมาตรฐาน เอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก
นายซอบือรี เจะหะ กับนายยูโซ๊ะ เจ๊ะหลง ผู้ต้องหาหนีหมายจับ 19 หมาย เคยก่อเหตุคดีสะเทือนใจมาแล้วหลายคดี ยกตัวอย่างคดีสะเทือนขวัญพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ คือ
1. คดียิงครูสาว กศน. เสียชีวิต เมื่อ 28 ต.ค.59 ลอบยิง นางสาวสุณิสา บุญเย็น ครูอัตราจ้าง กศน. มายอ เสียชีวิต และนางสาว ชฏพร ศรีเส้ง ลูกจ้าง กศน.มายอ ได้รับบาดเจ็บ
2. คดียิงเด็กวัยรุ่น เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 2 คน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 60 ลอบยิงกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ที่ออกไป หาของป่าภายในสวนยางพาราในพื้นที่ ม.1 ต.ตันหยงจึงงา อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 2 คน
3. คดียิงหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด 8 เดือน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 59 ทำให้ทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาต้องจบชีวิตลงก่อนลืมตาดูโลก
นี้คือธาตุแท้ให้เห็นว่าโจรใต้เหล่านี้ที่มีพฤติกรรมเดิมๆ ความสุดโต่ง ไร้มนุษยธรรม ไร้อุดมการณ์ ไร้ความรู้สึกความเป็นมนุษย์ ที่กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เมื่อกลุ่มตนเองไม่สมหวังกับเงื่อนไขที่ต้องการ ก็เลือกใช้ความรุนแรงกับประชาชน ความเจ็บปวดคราบน้ำตาของผู้สูญเสียตลอด 14 ปี ที่ผ่านมา มันไม่ได้ทำให้พวกคุณมีสำนึกบ้างเลยหรือ?
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความสูญเสีย ที่ไม่มีใครต้องการให้เกิด..ทุกคนเสียใจ เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน ไม่ใช่ชัยชนะของเจ้าหน้าที่รัฐและความภาคภูมิใจใดๆ เลย สำหรับนายซอบือรี เจะหะ และนายยูโซ๊ะ เจ๊ะหลง ผกร. ที่เสียชีวิตจากการปะทะ พบว่าเจ้าหน้าที่ได้ไปพูดคุยกับครอบครัวหลายครั้ง เพื่อให้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน แต่ก็ไม่เป็นผลจนนำมาสู่ความสูญเสียดังกล่าว
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายของเจ้าหน้าที่เป็นความชอบธรรมในการปฏิบัติงาน เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี...แต่ไม่ชอบธรรมสำหรับกลุ่มขบวนการที่ใช้อาวุธในการต่อสู้เจ้าหน้าที่รัฐ จนกระทั่งนำมาสู่ความสูญเสีย
- - - - - - - - - - - -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น