8/15/2561

7 ข้อเรียกร้อง หลีกเลี่ยงข้อหา กบฏแบ่งแยกดินแดน หะยีสุหลง โต๊ะมีนา



หะยีสุหลง คือครูสอนศาสนาและผู้นำจิตวิญญาณของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 3 จชต.
ซึ่งในขณะนั้น ราวปี พ.ศ. 2475 ประเทศไทยก็มีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ภายหลังการปฏิวัติ และเกิดมีกลุ่มขบวนการมุสลิมปัตตานี ก่อเหตุจลาจล โดยมี หะยีสุหลง เป็นผู้นำ สร้างความวุ่นวายไปทั่ว 3 จชต. เพื่อต่อต้านอำนาจรัฐบาล เกิดปัญหาความไม่เข้าใจกันในด้านภาษาและวัฒนธรรม จึงมีแนวความคิดที่จะปกครองตนเองโดยการแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัด แต่ก็กลัวถูกข้อหากบฏ จึงได้เสนอคำเรียกร้อง 7 ข้อ แก่รัฐบาล โดยอาศัยหลักการจิตวิทยา ดังนี้

           1. ขอให้มีการปกครองใน 4 จังหวัดปัตตานี สตูล ยะลา นราธิวาสโดยมีผู้ดำรงตำแหน่งอย่างสูง ให้มีอำนาจในการศาสนาอิสลามและมีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการใน 4 จังหวัดโดยสมบูรณ์ และให้ออกโดยเหตุประการต่างๆ ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งสูงนี้ต้องเป็นมุสลิมใน 4 จังหวัดนี้ และเป็นผู้ที่ได้รับเลือกจากปวงชนมุสลิมภาคนี้ โดยจะให้มีกำหนดเวลาดำรงตำแหน่งตามทางราชการก็ได้
               
        2. ข้าราชการแต่ละแผนกใน 4 จังหวัดนี้ให้มีอิสลาม 80 เปอร์เซ็นต์ประกอบอยู่ด้วย
                
           3. การใช้หนังสือในราชการให้ใช้ภาษามลายูและให้ควบกับภาษาไทยด้วย เช่น แบบฟอร์ม หรือใบเสร็จต่างๆ จะต้องให้มีภาษามลายูใช้ด้วย
               
          4. การศึกษาโรงเรียนชั้นประถมให้มีการศึกษาภาษามลายูตลอดประถมบริบูรณ์

         5. ขอให้มีศาลรับพิจารณาตามกฎหมายอิสลามแยกออกจากศาลจังหวัดที่มีแล้ว มีโต๊ะกาลีพอสมควรและมีเสรีในการพิพากษาชี้ขาดความโดยจะฟังเสียงผู้ใดไม่ได้ นอกจากผิดหลักกฎหมาย
               
           6. ผลประโยชน์รายได้ต่างๆ จะต้องใช้จ่ายในภาค 4 จังหวัดนี้ โดยไม่แบ่งจ่ายให้แก่ที่อื่นเลย
               
          7. ให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนี้มีเอกสิทธิ์ออกระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนาอิสลามโดยเห็นชอบผู้มีอำนาจสูง (ตามข้อ 1)

เป็นไงครับ 7 ข้อทรราช อ่านแล้วก็เหมือนไม่มีอะไรรุนแรง ก็ปกติทั่วไป ไม่เห็นมีบอกเลยว่าอยากขอแบ่งแยกดินแดน ถ้าคิดเช่นนี้เท่ากับว่าคุณติดกับดักที่วางไว้แล้ว เรามาตีความหมายของแต่ละข้อแบบบ้านๆ กันดูครับ
           1.เขาต้องการปกครองตนเองโดยครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีผู้นำสูงสุดเป็นมุสลิมในพื้นที่ มีอำนาจเด็ดขาดในการแต่งตั้ง เลื่อนยศ ปลด ย้าย ข้าราชการใน 4 จังหวัดโดยสมบูรณ์ รัฐบาลไทยจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้เลย สุดท้ายเมื่อได้เป็นเอกเทศเช่นนั้นแล้วก็จะเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนต่อไป
           2. ข้าราชการแต่ละส่วนจะต้องมีมุสลิม 80 เปอร์เซนประกอบอยู่ด้วย มุสลิมต้องมาก่อนศาสนาอื่นในพื้นที่ตรงนี้
           3. ให้ใช้ภาษามลายูในหนังสือราชการควบคู่กับภาษาไทยด้วยก็ได้ อันนี้พยายามบอกว่าพื้นที่นี้มีภาษาของตนเอง แต่ทำให้ดูลดความกระด้างกระเดื่องลงด้วยการใช้คำว่า “ควบคู่กับภาษาไทย”
           4.ให้ใช้ภาษามลายูในการสอนนักเรียนในชั้นประถมศึกษาเท่านั้น ข้อนี้สำคัญเลยเพราะจะทำให้เด็กไม่รู้ภาษาไทย สังเกตดูว่าคนแก่ในพื้นที่ส่วนใหญ่พูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ เพราะถูกปิดกั้นการใช้ภาษามาตั้งแต่สมัยก่อน และยิ่งถ้าไม่มีครูไทยพุทธด้วยละก็ เด็กๆ โดนกล่อมประสาทหมดโรงเรียนแน่
           5.ขอใช้ศาลอิสลามหรือกฎหมายชารีอะห์ โดยไม่จำเป็นต้องมีศาลไทยหรือกฎหมายไทย ซึ่งที่นี่เป็นประเทศไทยสมควรต้องใช้กฎหมายไทยและรัฐธรรมนูญไทย เท่านั้น
           6.ภาษีที่เก็บได้จากคนในพื้นที่ให้ใช้เฉพาะใน 4 จังหวัดเท่านั้น ห้ามนำออกไปให้จังหวัดอื่น แต่สามารถรับจากที่อื่นเข้ามาได้ เอออันนี้ฉลาดดี รับได้แต่ให้ไม่ได้
         7.ให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมีส่วนในการออกระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติทางศาสนาอิสลามโดยผ่านผู้นำสูงสุดในพื้นที่ 4 จังหวัด อันนี้ก็ปกติ ไม่มีอะไร และปัจจุบันรัฐบาลไทยก็สนับสนุนการปฏิบัติทางศาสนาอิสลามอย่างดี และต่อเนื่องเป็นประจำ บางครั้งดีกว่าไทยพุทธเสียอีก

ถ้าเขาขอปกครองตนเองได้ มีหรือที่จะไม่ขอแบ่งแยกดินแดน 7 ข้อนี้มันแค่จิตวิทยาหลอกเด็กเฉยๆ ถ้าปล่อยให้มีการปกครองตนเอง ตั้งแต่ตอนนั้นนะ เราจะไม่มีด้ามขวานจวบจนปัจจุบันเป็นแน่แท้


        ต่ออีกนิดนะครับ ไอ้พรรคอนาคตใหม่ ไอ้ธนาธร มึงรู้อะไรเกี่ยวกับปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้บ้างหรือแค่ต้องการฐานเสียงที่ยิ่งใหญ่ นักการเมืองรุ่นใหม่ผมยอมรับ พวกแก่ๆ ล้าหลัง กลับไปพักที่บ้านได้แล้ว ให้รุ่นใหม่ๆ ได้โชว์ฝีมือบ้าง แต่!! คุณจะเอาปัญหาชายแดนใต้ที่ยืดเยื้อมานาน มาเป็นประโยชน์เพื่อฐานเสียงตนเองแบบนี้ไม่ได้ พวกที่คุณไปคุยด้วยก็แนวร่วมฝ่ายขบวนการทั้งนั้น บิดเบือน ปลุกระดม ในโลกโซเชียลต่างๆ นาๆ พยายามดึงองค์กรต่างชาติให้เข้ามาแทรกแซงการแก้ปัญหาเพื่อเอื้อประโยชน์ในการขอแบ่งแยกดินแดนต่อรัฐบาลไทย ทำไมคุณไม่ลองไปฟังชาวบ้านในพื้นที่จริงๆ ดูละครับ ไม่ใช่พวกตัวแทนส่วนต่างๆ แบบนั้น ถ้าจะเป็นนักการเมืองต้องเข้าถึงชาวบ้านจริงๆ ถ้าอยากแก้ปัญหาจริงๆ ต้องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ให้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น