แบมะ
ฟาตอนี
ความเจริญด้านเทคโนโลยี
ด้านวิทยาศาสตร์ และด้านอื่นๆ ในยุคปัจจุบันนี้ส่งผลให้มนุษย์มีความสะดวกสบายขึ้น
มีพัฒนาการทุกๆ ด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งการปลูกถ่ายพันธุกรรม หรือสิ่งอื่นๆ ที่เราคาดไม่ถึงว่ามนุษย์สามารถกระทำได้
เช่นเดียวกันในการเก็บรวบรวมหลักฐานวัตถุพยานของคนร้ายในคดีสำคัญต่างๆ “นิติวิทยาศาสตร์” ได้เข้ามามีบทบาทส่วนช่วยในการระบุตัวตน
ยืนยันตัวบุคคลที่ลงมือทำการก่อเหตุ นำไปสู่การจับกุมตัวมาลงโทษดำเนินคดีตามกฎหมาย
นิติวิทยาศาสตร์ (Forensic Science) คือ “การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทุกสาขามาประยุกต์ใช้
เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีความเพื่อผลในการบังคับใช้กฎหมายและการลงโทษ”
ซึ่งครอบคลุมขอบข่ายงาน ดังนี้
- การตรวจสถานที่เกิดเหตุ
และการถ่ายรูป (Crime Scene Investigation and Forensic)
- การตรวจลายนิ้วมือ
ฝ่ามือ ฝ่าเท้า (Fingerprint, Palmprint, Footprint)
- การตรวจเอกสาร
(Document) เช่น ตรวจลายเซ็น ลายมือเขียน
- การตรวจอาวุธปืน
และกระสุนปืนของกลาง (Forensic Ballistics)
- การตรวจทางเคมี
(Forensic Chemistry) เช่น ตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของสารต่าง
ๆ
- การตรวจทางฟิสิกส์
(Forensic Physics) เช่น ตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชนรถ
- การตรวจทางชีววิทยา
(Biological Trace Evidence) เช่น ตรวจเส้นผม เลือด
อสุจิ
- การตรวจทางนิติเวช
(Forensic Medicine) ได้แก่ งานนิติพยาธิ งานนิติวิทยา
งานชีวเคมี
- งานพิสูจน์บุคคล
งานภาพการแพทย์
เหตุการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงก็เช่นเดียวกันหน่วยงานที่รับผิดชอบในการเก็บรวบรวมหลักฐาน
วัตถุพยานในพื้นที่เกิดเหตุมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะควานหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย
ซึ่งหน่วยงานที่มีบทบาทในการดำเนินกรรมวิธีดังกล่าว คือ หน่วยงานด้านนิติวิทยาศาสตร์
ผลของการใช้หน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์
ทำการตรวจวัตถุพยาน ชิ้นส่วนและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในสถานที่เกิดเหตุ
เมื่อมีการตรวจสารพันธุกรรม มีการพบ DNA ที่สามารถยืนยันตัวบุคคลซึ่งเป็นผู้ลงมือก่อเหตุนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมเข้าสู่ชั้นศาลซึ่งมีส่วนช่วยงานสอบสวนสืบสวนได้เป็นอย่างมากและมีความเที่ยงตรง
ชัดเจน
ล่าสุดหน่วยงานด้านความมั่นคง ร่วมกับ
ผู้ชำนาญการด้านนิติวิทยาศาสตร์
ได้มีการเปิดเผยถึงผลการตรวจสารพันธุกรรมจากเหตุการณ์ที่สำคัญ 3 เหตุการณ์ด้วยกัน
ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง มีการตรวจพบ DNA สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้หลายราย และมีบางส่วนยังคงหลบหนีการจับกุม
แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้
เหตุการณ์แรก ผู้ก่อเหตุรุนแรงร่วมกันก่อเหตุโดยใช้อาวุธสงครามบุกเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการชุดพัฒนาสันติ
42-1 และฐานปฏิบัติการทหารพรานที่
4213 ในพื้นที่หมู่ 1 ต.เกาะแลหนัง
อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554 โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อเหตุดังกล่าวไว้ได้แล้วจำนวน
8 คน และในส่วนของการตรวจ DNA จำนวน 6 คน สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้วทั้ง 6 คน
แต่ในเวลาต่อมาได้หลบหนีประกัน จำนวน 1 คน คือ นายเภาซี ยีหมะ
เหตุการณ์ที่สอง เมื่อวันที่ 9
กุมภาพันธ์ 2557 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 และ 43 ได้เข้าทำการตรวจยึดฐานปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบนเทือกเขาตะเว
พื้นที่ บ้านบือแจง ม.4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พบกลุ่มก่อเหตุรุนแรงจนเกิดการปะทะนานกว่า 30 นาที หลังสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่ได้เข้าพิสูจน์ทราบพบฐานใหญ่
ที่คาดว่าจะมีคนร้ายอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 30 คน
โดยฐานนี้เป็นฐานที่ใช้เป็นแหล่งประกอบระเบิด เพื่อก่อเหตุในพื้นที่ จ.นราธิวาส พบที่พักของคนร้ายกว่า 10 หลัง ตั้งอยู่ริมธารน้ำตก โดยสามารถตรวจยึดอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิด
วงจรอิเล็กทรอนิคส์ สารประกอบระเบิด และป้ายผ้า
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=-cpvVaVtPoY
ข้อสรุปหลังการตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุพบ DNA ยืนยันตัวบุคคลได้ จำนวน 20 คน ซึ่งศาลได้ออกหมาย
ป.วิ.อาญา แล้ว จำนวน 3 คน และสามารถดำเนินจับกุมตัวได้ทั้ง 3 คน เสียชีวิตไปแล้ว
จำนวน 2 คน และยังคงหลบหนีอยู่ จำนวน 15 คน
นอกจากนี้ยังพบ Profile DNA บุคคลที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลและตัวตนได้อีก
ประมาณ 40 คน
เหตุการณ์ที่สาม หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส
32 เข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านพักต้องสงสัยหลังโรงเรียนดาราศาสตร์วิทยา
ซึ่งตั้งอยู่ ม.1 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
หลังสืบทราบมีกองกำลังติดอาวุธได้แฝงตัวเคลื่อนไหวเพื่อประชุมวางแผนก่อเหตุร้าย พบชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน ได้วิ่งออกมาจากบ้านพักหลังหนึ่งไม่มีเลขที่
โดยวิ่งหลบหนี พรางใช้อาวุธปืนสงครามยิงเบิกทาง
จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่เป็นละลอกๆ และคนร้ายอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบที่บริเวณขนำเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ
อาทิ อาวุธปืน M-16 จำนวน 1 กระบอก
เป้สนาม เป้ใส่เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ รองเท้า เวชภัณฑ์
พร้อมด้วยเครื่องยังชีพในป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ขอสนับสนุนกองพิสูจน์หลักฐาน
จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบเพื่อเก็บลายนิ้วมือแฝงและคราบ DNA และในเวลาต่อมาสามารถยืนยันตัวบุคคลได้
จำนวน 8 คน และได้จับกุมตัวแล้ว จำนวน 1 คน คือ นายมาหะมะ มะเด็ง แต่ยังคงหลบหนีอยู่ จำนวน 7 คน
ซึ่งผู้ที่ยังคงหลบหนีทั้งหมดหน่วยในพื้นที่ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
ในเมื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุแฝงกาย
ซ่อนเร้นปิดบังอำพราง หน่วยงานภาครัฐก็จำเป็นต้องหาวิธีการ ด้วยการนำวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย
เพื่อหาหลักฐานจากการเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุเพื่อนำไปสู่การพิสูจน์ DNA หาตัวคนร้ายหรือตัวผู้กระทำการก่อเหตุมาลงโทษดำเนินคดี มิฉะนั้นกลุ่มโจรใต้กลุ่มนี้ยังคงได้ใจกระทำความผิดแล้วผิดอีกโดยไม่ย่ำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง
ซึ่งเป็นผลลบด้านสังคมจิตวิทยา เมื่อมีการใช้นิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยและส่งผลให้มีการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
จะส่งผลให้กลุ่มแนวร่วมในขบวนการเกิดความลังเลหากจะคิดทำการก่อเหตุ
สักวันหนึ่งหากไม่โดนจับตายเสียก่อน พันธุกรรมของกลุ่มโจรใต้เหล่านี้จะมีการเก็บตัวอย่างอยู่ในสารบบแฟ้มข้อมูล
และเปรียบเทียบ DNA ศาลออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไม่มีโอกาสอยู่กับครอบครัว หมดความสุขไม่มีอิสระไปเลยตลอดชีวิต
*******************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น