‘แบมะ ฟาตอนี’
หลายท่านอาจจะสงสัยต่อพฤติกรรมของ
น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เป็นอะไรกันกับกลุ่มขบวนการโจรใต้
ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมือง She ก็จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทน เต้นผางๆ
เป็นเจ้าเข้าออกมาเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยเสมือนหนึ่งลูกในไส้...ถูกรังแก
หรือ She มีอคติต่อเจ้าหน้าที่รัฐ? จงเกลียดจงชังเนื่องจากไม่ได้ดั่งใจในหลายๆ
เรื่อง อาทิเช่นการนำเสนอผลงานชิ้นโบว์แดงการซ้อมทรมานใน จชต. โดยเจ้าหน้าที่รัฐ
มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ในรายงานมีการระบุเจ้าหน้าที่ทหารพรานหญิงใช้นมปิดจมูกผู้ต้องหาจนขาดลมหายใจ,
มีการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะภายใน, มีการกักขังในห้องที่มีอุณภูมิเย็นจัดฯลฯ
สุดท้าย She โดนหน่วยงานความมั่นคงฟ้องร้อง
เมื่อฝ่ายความมั่นคงกลับมองเห็นว่าการจัดทำรายงานสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเรื่องของ
“การซ้อม” และ “ทรมาน”
ของ 3 นักสิทธิเป็นเท็จเกินความจริงที่ไม่สามารถยอมรับได้
มีการเปิดโอกาสให้หันหน้ามาพูดคุยหาทางออกของปัญหาร่วมกัน
ในขณะที่ฝ่ายนักสิทธิผู้จัดทำรายงานกลับไม่ให้ความร่วมมือ ผลในที่สุดทั้ง 2
ฝ่ายไม่สามารถที่จะ “พูดคุย” กันรู้เรื่อง
สุดท้ายลงเอยด้วยการพึ่ง “กระบวนการยุติธรรม” ในการ “พิสูจน์” ความจริงให้ปรากฏด้วยการ
“แจ้งความดำเนินคดี” ต่อกลุ่มผู้ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ล่าสุดจากกรณีเมื่อวันที่
10-15
ตุลาคม 2559 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังได้เข้าทำการปิดล้อม
ตรวจค้น และควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยจากห้องพักในบริเวณถนนรามคำแหง โดยได้จับกุมบุคคลที่มีภูมิลำเนาจากจังหวัดชายแดนใต้ จำนวนทั้งสิ้นรวม 44
ราย เป็นหญิง 8 คน และชาย 36 คน
และได้มีการปล่อยตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปแล้วจำนวนหนึ่งโดยไม่มีการแจ้งข้อหา
ยังคงเหลือบุคคลที่น่าสงสัย จำนวน 5 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่ได้มีสถานะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงแต่ประการใด
วันที่ 17 ต.ค.59 น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ
เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ให้ความเห็นว่า
เจ้าหน้าที่ทหารไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวทั้ง 5 คนต่อไปโดยอาศัยกฎอัยการศึก
เนื่องจากการจับกุมในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
วันที่ 18
ตุลาคม 2559 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวบุคคล 5 คน
จากการควบคุมตัวโดยพลการโดยทันที โดยไม่มีเงื่อนไข
ในเวลาต่อมาหน่วยงานความมั่นคงได้เปิดเผยผลการซักถาม
นายตาลมีซี โต๊ะตาหยง รับว่าเป็น 1 ในผู้เตรียมการก่อเหตุระเบิดใน
กทม. โดยเดินทางมาจาก อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้ประมาณ 7 วันก่อนถูกจับข้อหามีใบกระท่อม
ที่หอพักย่านรามคำแหง เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยเป้าหมายที่จะวางระเบิดกำหนดไว้ 5 จุด คือที่บิ๊กซี
รามคำแหง สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ และย่านบางพลีอีก 2 จุด
การดำเนินการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยย่านรามคำแหง
โดยเฉพาะที่กักตัวไว้ 5 ราย “ไม่ได้เป็นนักศึกษาแต่ประการใด”อีกทั้งผู้ต้องสงสัยยังยอมรับเตรียมลงมือก่อเหตุลอบบึ๊ม!! กทม.จำนวน 5 จุด
แต่
น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ และบรรดาแนวร่วมยังไม่ลดละ
เดินหน้ากดดันเจ้าหน้าที่ดิสเครดิตในการปฏิบัติงานกล่าวหามิชอบด้วยกฎหมาย
ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น
เครือข่ายอาจารย์ร่อนแถลงการณ์ จี้ จนท.หยุดจับกุม-คุกคาม-คุมขัง
น.ศ.จากชายแดนใต้,เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง แถลงการณ์ เรื่อง
ยุติการตรวจค้น จับกุม คุมขังนักศึกษาและเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยพลการ
นี่มันอะไรกันออกมาปกป้องขบวนการโจรใต้กันโจ่งครึ่มขนาดนี้เชียวรึ!!!
สำหรับท่านที่ต้องการเห็นชาติบ้านเมืองเรากลับมาสงบสุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กลุ่มหรือองค์กรต่างๆ
ออกมาเคลื่อนไหวต้องใช้วิจารณญาณว่ากลุ่มหรือองค์กรเหล่านั้น
กระทำไปด้วยน้ำใสใจจริงหรือเปล่า หรือมีเบื้องลึกเบื้องหลังแอบแฝงเพียงเพื่อปกป้องผู้กระทำความผิด
เอาผลประโยชน์ของกลุ่มและองค์กรเป็นหลัก
มิได้กระทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนแต่ประการใด
อีกทั้งบางกรณีเป็นการซ้ำเติมปัญหา ทำลายประเทศชาติ
สร้างความเสื่อมเสียเป็นส่วนรวม..แล้วฝากถามไปยัง น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ
ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กับโจรใต้เป็นอะไร? กัน ช่วยชี้แจงให้ประชาชนได้หูตาสว่างสักทีมีหลายท่านสงสัยพฤติกรรมของท่านฝากถามมา....
----------------------