7/16/2560

จุดจบ!! โจรใต้ระเบิดบิ๊กซีปัตตานี..ผู้หลบหนีผวาหนักรอคิวมัจจุราชพรากวิญญาณ

"แบมะ ฟาตอนี"


กลุ่มโจรใต้ระส่ำหนักหลังเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มก๊วนโจรใจบาปที่ทำการปล้นฆ่า นายนุสน ขจรคำ เจ้าของรถกระบะแล้วนำประกอบระเบิดห้างบิ๊กซี ปัตตานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บครึ่งร้อยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหาข่าวเชิงลึกจนกระทั่งจับกุมตัว นายสุฮัยมี สะมาแอ ผู้สั่งการปล้นทรัพย์และฆ่า นายนุสน ขจรคำ ก่อนนำรถไปวางระเบิด ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนหลายราย

นายสูไฮมี สะมะแอ ยอมรับสารภาพร่วมวางแผน และฆ่าชิงรถยนต์กระบะนำไประเบิดห้างบิ๊กซี เพื่อสร้างสถานการณ์ สร้างความแตกแยกทางศาสนา ที่สำคัญกลุ่มโจรใจบาปกลุ่มนี้ใช้มัสยิดซึ่งเป็นบ้านของพระเจ้าในการวางแผนและทำการก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่ติดตามเกาะติดแบบจิกไม่ปล่อย กลุ่มโจรใจบาปกลุ่มนี้มาดำเนินคดีรับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายให้ได้ และแล้วเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ได้แจ้งเบาะแสมีกลุ่มคนใช้บริเวณหลังมัสยิดทำการไม่เหมาะสม ในพื้นที่บ้านปะกาฮะรัง ม.5 ต.ปะกาฮะรัง  อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มโจรใต้เข้ามากบดานหรือวางแผนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังตำรวจทหารเข้าทำการตรวจสอบ คนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ไหวตัวทันเปิดฉากยิงกรุยทางเพื่อหลบหนีในที่สุด นายสุดิง มามะ มือระเบิดบิ๊กซีปัตตานีเสียชีวิตคาที่ ส่วน นายมะนาเซ ไซดี และนายยูโซะ แมะตีเมาะ ผู้ต้องหาตามหมายจับหนีรอดไปได้

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ ควบคุมตัวผู้ที่ให้ที่พักพิงฯ ผู้ก่อเหตุรุนแรง 2 คน คือ นายเปายี ตาสะเมาะ และ นายอับดุลเลาะ เจ๊ะมะ ซึ่งเป็นราษฏร ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อทำการซักถามหาเบาะแสความเชื่อมโยง
ผลการซักถาม นายเปายี ตาสะเมาะ ให้การว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง และแนวร่วมให้การสนับสนุนที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุรุนแรงจริง เข้าร่วมขบวนการเมื่อปี 2554 โดยการสาบานตนเข้าร่วมขบวนการ กับ นายมะนาเซ  ไซดี ที่กำลังหลบหนีอยู่ รวมถึงยืนยันว่ารถจักรยานยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ที่บ้านพักของตนเอง คือรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซี ปัตตานี และยังให้ข้อมูลแหล่งซุกซ่อนอาวุธ ซึ่งตนเองได้รับมาจาก นายมะนาเซ  ไซดี และได้นำไปเก็บรักษาไว้หลังทำการก่อเหตุ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายเปายี ตาสะเมาะ ไปชี้จุดที่ซุกซ่อนอาวุธ บริเวณพื้นที่ป่า ม.4 ตำบลปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งในขณะขุดปืน นายเปายี ตาสะเมาะ ได้อาศัยจังหวะหยิบปืนพกสั้น ขนาด .38 ที่ซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าใกล้บริเวณดังกล่าว ยิงใส่เจ้าหน้าที่ 1 นัด แล้ววิ่งหลบหนีไปทางริมคลองชลประทาน และกระโดดลงน้ำข้ามคลองไปยังฝั่งตรงข้าม เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามจนมาพบ นายเปายี  ตาสะเมาะ ได้ใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่อีก 2 นัด เจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ หลังจากเสียงปืนสงบเข้าไปตรวจสอบพบว่า นายเปายี  ตาสะเมาะ เสียชีวิต

นายเปายี  ตาสะเมาะ คือกุญแจสำคัญ เป็นผู้เก็บข้อมูลความลับของผู้ก่อเหตุห้างบิ๊กซี ปัตตานี ต้องจบชีวิตลงเพราะมีความเกรงกลัวต่อการร่วมรับผิดชดใช้ในสิ่งที่ตนเองได้กระทำมา

เป็นอันว่ากลุ่มโจรใต้ใจบาปที่ก่อกรรมทำชั่ว ปล้นฆ่าชิงทรัพย์นำรถยนต์ประกอบระเบิดทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ เวรกรรมตามทัน ชีวิตต้องดับดิ้นถึง 2 ราย ในเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้ที่กำลังหลบหนีหนาวๆ ร้อนๆ รอวันมัจจุราชมาพรากวิญญาณ...

จุดจบ!! ของโจรใต้ไม่ตายก็ติดคุก ต้องอยู่อย่างยากลำบากถูกทอดทิ้งขาดการเหลียวแลจากระดับแกนนำสั่งการ ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ได้มีผลดีต่อครอบครัวเลย โดยเฉพาะผู้ที่มีคดีความติดตัวขบวนการไม่เคยหยิบยื่นความช่วยเหลือใดๆ เลย การบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา เพื่อให้สมาชิกหลงเชื่อปฏิบัติตาม ถึงขั้นซึมซับยินยอมเสียสละแม้ชีวิตตน เพราะสิ่งที่ทำจะเป็นบุญและได้ขึ้นสวรรค์นั้น...มันถูกต้องแล้วหรือ? ในเมื่อศาสนาทุกศาสนาสอนไม่ให้ผู้คนทำผิด สอนไม่ให้ฆ่าคนฆ่าผู้บริสุทธิ์ แม้มดตัวเดียวหากฆ่าก็เป็นบาป แต่แกนนำกลับบังคับให้ใช้แต่ความรุนแรง..แล้วยังทำการก่อเหตุไปเพื่ออะไร?...
-------------------------


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น