"แบมะ ฟาตอนี"
กลุ่มโจรใต้ระส่ำหนักหลังเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มก๊วนโจรใจบาปที่ทำการปล้นฆ่า นายนุสน ขจรคำ เจ้าของรถกระบะแล้วนำประกอบระเบิดห้างบิ๊กซี
ปัตตานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บครึ่งร้อยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหาข่าวเชิงลึกจนกระทั่งจับกุมตัว
นายสุฮัยมี สะมาแอ ผู้สั่งการปล้นทรัพย์และฆ่า นายนุสน ขจรคำ ก่อนนำรถไปวางระเบิด
ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนหลายราย
นายสูไฮมี สะมะแอ ยอมรับสารภาพร่วมวางแผน
และฆ่าชิงรถยนต์กระบะนำไประเบิดห้างบิ๊กซี เพื่อสร้างสถานการณ์
สร้างความแตกแยกทางศาสนา ที่สำคัญกลุ่มโจรใจบาปกลุ่มนี้ใช้มัสยิดซึ่งเป็นบ้านของพระเจ้าในการวางแผนและทำการก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่ติดตามเกาะติดแบบจิกไม่ปล่อย
กลุ่มโจรใจบาปกลุ่มนี้มาดำเนินคดีรับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายให้ได้ และแล้วเมื่อวันที่
12 กรกฎาคมที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ได้แจ้งเบาะแสมีกลุ่มคนใช้บริเวณหลังมัสยิดทำการไม่เหมาะสม
ในพื้นที่บ้านปะกาฮะรัง ม.5 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี
ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มโจรใต้เข้ามากบดานหรือวางแผนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังตำรวจทหารเข้าทำการตรวจสอบ
คนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ไหวตัวทันเปิดฉากยิงกรุยทางเพื่อหลบหนีในที่สุด นายสุดิง
มามะ มือระเบิดบิ๊กซีปัตตานีเสียชีวิตคาที่ ส่วน นายมะนาเซ ไซดี และนายยูโซะ
แมะตีเมาะ ผู้ต้องหาตามหมายจับหนีรอดไปได้
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจตาม
พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ ควบคุมตัวผู้ที่ให้ที่พักพิงฯ ผู้ก่อเหตุรุนแรง 2 คน คือ
นายเปายี ตาสะเมาะ และ นายอับดุลเลาะ เจ๊ะมะ ซึ่งเป็นราษฏร ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง
จ.ปัตตานี เพื่อทำการซักถามหาเบาะแสความเชื่อมโยง
ผลการซักถาม นายเปายี ตาสะเมาะ ให้การว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง
และแนวร่วมให้การสนับสนุนที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุรุนแรงจริง เข้าร่วมขบวนการเมื่อปี
2554 โดยการสาบานตนเข้าร่วมขบวนการ กับ นายมะนาเซ ไซดี ที่กำลังหลบหนีอยู่ รวมถึงยืนยันว่ารถจักรยานยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ที่บ้านพักของตนเอง
คือรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซี ปัตตานี
และยังให้ข้อมูลแหล่งซุกซ่อนอาวุธ ซึ่งตนเองได้รับมาจาก นายมะนาเซ ไซดี และได้นำไปเก็บรักษาไว้หลังทำการก่อเหตุ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายเปายี ตาสะเมาะ ไปชี้จุดที่ซุกซ่อนอาวุธ บริเวณพื้นที่ป่า ม.4 ตำบลปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี
ซึ่งในขณะขุดปืน นายเปายี ตาสะเมาะ ได้อาศัยจังหวะหยิบปืนพกสั้น ขนาด .38
ที่ซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าใกล้บริเวณดังกล่าว ยิงใส่เจ้าหน้าที่ 1 นัด
แล้ววิ่งหลบหนีไปทางริมคลองชลประทาน และกระโดดลงน้ำข้ามคลองไปยังฝั่งตรงข้าม
เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามจนมาพบ นายเปายี ตาสะเมาะ ได้ใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่อีก
2 นัด เจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ หลังจากเสียงปืนสงบเข้าไปตรวจสอบพบว่า นายเปายี
ตาสะเมาะ เสียชีวิต
นายเปายี ตาสะเมาะ คือกุญแจสำคัญ
เป็นผู้เก็บข้อมูลความลับของผู้ก่อเหตุห้างบิ๊กซี ปัตตานี
ต้องจบชีวิตลงเพราะมีความเกรงกลัวต่อการร่วมรับผิดชดใช้ในสิ่งที่ตนเองได้กระทำมา
เป็นอันว่ากลุ่มโจรใต้ใจบาปที่ก่อกรรมทำชั่ว
ปล้นฆ่าชิงทรัพย์นำรถยนต์ประกอบระเบิดทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ เวรกรรมตามทัน ชีวิตต้องดับดิ้นถึง
2 ราย ในเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้ที่กำลังหลบหนีหนาวๆ ร้อนๆ
รอวันมัจจุราชมาพรากวิญญาณ...
จุดจบ!! ของโจรใต้ไม่ตายก็ติดคุก ต้องอยู่อย่างยากลำบากถูกทอดทิ้งขาดการเหลียวแลจากระดับแกนนำสั่งการ
ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ได้มีผลดีต่อครอบครัวเลย
โดยเฉพาะผู้ที่มีคดีความติดตัวขบวนการไม่เคยหยิบยื่นความช่วยเหลือใดๆ เลย การบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา
เพื่อให้สมาชิกหลงเชื่อปฏิบัติตาม ถึงขั้นซึมซับยินยอมเสียสละแม้ชีวิตตน
เพราะสิ่งที่ทำจะเป็นบุญและได้ขึ้นสวรรค์นั้น...มันถูกต้องแล้วหรือ? ในเมื่อศาสนาทุกศาสนาสอนไม่ให้ผู้คนทำผิด
สอนไม่ให้ฆ่าคนฆ่าผู้บริสุทธิ์ แม้มดตัวเดียวหากฆ่าก็เป็นบาป
แต่แกนนำกลับบังคับให้ใช้แต่ความรุนแรง..แล้วยังทำการก่อเหตุไปเพื่ออะไร?...
-------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น