"แบมะ ฟาตอนี"
ศาลจังหวัดยะลาได้พิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก
นายสือดี มาหะมะ และนางสีตีพาตีเมาะ เซ็งกะจรี คนละ 3 เดือน ปรับคนละ 10,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ซึ่งเป็นคดีดำที่ 1980/2560 และ คดีแดงที่
1972/2560 ลง 7 ก.ค.2560 ในข้อหาให้ที่พักพิง นายลุกมาน มะดิง แกนนำโจรใต้ผู้มีหมายจับ
ป.วิอาญาเข้าไปหลบซ่อนตัว
จากกรณีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย
หลังจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า
มีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงได้เข้ามาเคลื่อนไหวและหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่
163 ม.4 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งมี
นายสือดี มาหะมะ และนางสีตีพาตีเมาะ เซ็งกะจรี เป็นเจ้าของบ้าน
ในการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก
ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย หลีกเลี่ยงเงื่อนไขนำไปสู่การกระทำที่เกินกว่าเหตุ ใช้วิธีการเจรจาเพื่อให้
นายลุกมาน มะดิง ยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้เวลานับหลายชั่วโมง อีกทั้งได้ให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านได้ออกมามอบตัว
แต่คนร้ายกลับปาระเบิดชนิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ และเกิดการยิงปะทะกันขึ้น
ส่งผลให้ นายลุกมาน มะดิง แกนนำโจรใต้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว
นายสือดี มาหามะ และนางสีตีมาตีเยาะ เซ็งกะจรี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว
ไปทำการซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 เนื่องจากให้ที่พักพิงแก่
นายลุกมาน มะดิง แกนนำโจรใต้ ได้เข้าพักอาศัยและหลบซ่อนตัว และในเวลาต่อมามีการส่งตัวฟ้องศาลจังหวัดยะลาเพื่อเป็นคดีตัวอย่าง
และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อผู้ที่กระทำความผิด
สำหรับเจ้าของบ้าน
ซึ่งให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เข้าพักพิง ถือว่าเป็นความผิดโดยให้ที่พักพิงต่อบุคคลซึ่งมีหมายจับเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ข้อหา
ให้ที่พักพิงผู้กระทำความผิดทางอาญา อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2
ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท และหากผู้ใดให้ที่พักพิง และให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
อาจจะเข้าข่ายเป็นเครือข่ายของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นความผิดฐานก่อการร้าย
อั่งยี่ หรือซ่องโจรอีกด้วย
สำหรับคดีนี้ นายสือดี
มาหะมะ และนางสีตีพาตีเมาะ เซ็งกะจรี ให้การรับสารภาพ ศาลจึงตัดสินลดโทษจำคุก
นายสือดี มาหะมะ และนางสีตีพาตีเมาะ เซ็งกะจรี เหลือคนละ 3 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท
โทษจำคุกให้รอลงอาญา
จากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในห้วงที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามนโยบายของ
พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 “กฎหมายนำ การทหารตาม
การเมืองขยาย”ส่งผลให้การแก้ปัญหาในพื้นที่สถิติการเกิดเหตุลดน้อยลง ควบคู่กับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วยโครงการ
“สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ”ยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีกินดี
“มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
การใช้ “กฎหมายนำ” ในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นรูปแบบการบังคับใช้กฎหมายต่อที่กระทำความผิดซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีหมายจับคดีความมั่นคง
อีกทั้งจะใช้กฎหมายเอาผิดกับผู้ให้ที่พักพิง ผู้สนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างจริงจัง
ตามเจตนารมณ์ของแม่ทัพภาคที่ 4 และให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง นายสือดี มาหะมะ
และนางสีตีพาตีเมาะ เซ็งกะจรี ที่ถูกศาลจังหวัดยะลาติดสินจำคุกคนละ 3 เดือน
และปรับคนละ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา
เนื่องจากให้การรับสารภาพ..ต่อจากนี้ ใคร?...ก็ตามให้โจรพักอาศัยบ้านหากเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเจอดีแน่!!!
----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น