หากจะกล่าวถึงนักศึกษาหน้าลูกครึ่ง
แต่ไม่ใช่ลูกครึ่งที่พยายามอัปเกรดตัวเองตามสื่อต่างๆ
ก็จะพอเดาได้ว่าคงจะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก นายรังสิมันต์ โรม
ผู้ต้องหาที่เคยหลบหนีคำสั่งศาล
ซึ่งตอนนี้อยู่ในการประกันตัว
ซึ่งตอนนี้อยู่ในการประกันตัว
สำหรับนายรังสิมันต์
โรม จบมัธยมศึกษาที่โรงเรียนทวีธาภิเศก จบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาโทที่คณะเดียวกันนี้ มีความฝันอยากเป็นทนายความแต่ถูกสภาทนายความมีมติไม่อนุญาตให้สอบ ผันตัวเองจากนักศึกษาที่มีผลการเรียนต่ำ
มาเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง โดยร่วมตั้งกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่
ซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านรัฐบาล สร้างความวุ่นวายยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ
(โดยเขาว่ารับเงินมาจากนายใหญ่มาเดินสายการเมืองเหมือนรุ่นพี่ เช่น หมวดเจี๊ยบ) เคยถูกจับกุมตามหมายจับคดีชุมนุมหน้าหอศิลป์
ปี 58 และคดีแจกใบปลิวต่อต้านการลงประชามติเมื่อปี 59 หนีหมายจับคดีขัดคำสั่ง
หัวหน้า คสช. เนื่องจากจัดกิจกรรมทางการเมือง
ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค.59 ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม จับกุมตัว เมื่อ 25 มิ.ย. 60 ก่อนจะได้ประกันตัวในเวลาต่อมา
ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค.59 ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม จับกุมตัว เมื่อ 25 มิ.ย. 60 ก่อนจะได้ประกันตัวในเวลาต่อมา
การเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อดิสเครดิตประเทศชาติตัวเอง
โดยการสร้างบรรยากาศว่าถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพ ความเป็นธรรม และอ้างเรียกร้องประชาธิปไตย
ทั้งที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการพยายามผลักดันกลับเข้าไปสู่สภาวะปกติ นำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว
และแน่นอนกลุ่มนักการเมืองที่เสียผลประโยชน์ย่อมให้เงินสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้และการช่วยเรื่องคดีความเมือถูกดำเนินคดีจากรัฐ บทบาทของนักศึกษาจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญให้กับกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นอย่างมาก
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับกลุ่มนักศึกษา PerMas ที่ใช้แนวทางการเคลื่อนไหวของปีกการเมืองให้กับกลุ่มอาชญากรชายแดนใต้
ซึ่งปัจจุบันแต่ละกลุ่มไม่ว่าจะกลุ่มภาคประชาสังคมแนวร่วมอาชญากร BRNGOs จะพยายามเชื่อมโยงแนวคิดสอดคล้องกัน มีการพูดคุยติดต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์ในการต่อสู้ทำลายประเทศชาติตัวเอง
ล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม ได้โพสต์ข้อความสร้างความแตกแยก กรณีเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายเผารถทัวร์ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการควบคุมตัวผู้ต้องหาและให้การรับสารภาพขยายผลไปสู่การปิดล้อมตรวจคนดังกล่าวจนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหา
14 ราย ขณะที่กลุ่ม PerMas กลุ่มนักสิทธิ NGOs และสื่อแนวร่วม
ได้โจมตีกล่าวหาเจ้าหน้าที่เหวี่ยงแหจับชาวบ้านอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายจับกุมคนร้ายที่มีความอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ
แต่กลุ่มองค์กรพวกนี้กลับสร้างกระแสบิดเบือนเพื่อสร้างความรู้ให้คนในพื้นที่ไม่เชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
เหมือนจงใจช่วยเหลือเหล่าอาชญากรเหล่านี้ให้มาเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ต่อไป
นายรังสิมันต์
ได้โพสต์เฟสบุ๊คว่าได้พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าเป็นการจับกุมและซ้อมทรมาน
อีกทั้งยังแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ทหารออกจากพื้นที่ ดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติศักดิ์ศรีทหารชั้นผู้น้อยว่าถูกทอดทิ้งเอารัดเอาเปรียบจากผู้บังคับบัญชา
ยังกล่าวหาเจ้าหน้าที่ว่าจากการปิดล้อมตรวจค้นได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน
และยังบอกว่า 14 ปีที่ผ่านมาเพียงพอแล้วว่าปฏิบัติการทางทหาร คือ ความล้มเหลว คือ
ความผิดพลาด ปาตานีไม่เคยพบกับความสงบสุข
และการปฏิบัติการทหารรังแต่จะสร้างความขัดแย้งให้กับคนในพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากกลุ่ม PerMas ปีกการเมืองของกลุ่มอาชญากรชายแดนใต้กลายเป็นหุ่นเชิดให้กับอาชญากรชายแดนใต้แล้วยังมี นายรังสิมันต์ เข้ามาราดน้ำมันเติมเชื้อไฟเป็นปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้ เพียงเพราะทนงหลงตัวเองว่ามีชื่อเสียงในด้านต่อต้านรัฐบาล จนลืมเป็นว่าตัวเป็นเพียงแค่นักโทษหนีคดีที่ได้ประกันตัว จะให้ถอนทหารออกจากพื้นที่มันก็เหมือนยกแผ่นดินให้อาชญากร นายรังสิมันต์ลงพื้นที่มากี่ครั้งสัมผัสพี่น้องประชาชนในชายแดนใต้กี่กลุ่มถึงได้เชื่อมั่นเหลือเกินว่ามันเป็นไปตามในสิ่งที่เขาพูด ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัว ผกร. เขาก็เล่าโจมตีตีไข่ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว เพราะคนในครอบครัวถูกจับกุมน้อยคนนักที่จะเข้าใจและสำนึกได้ การกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่จึงถูกใส่ร้ายวาทกรรม ว่าจับแพะ ทั้งที่หลักฐานตรงกับ DNA มันก็ว่าจับแพะ ทำไมลงพื้นที่พูดคุยกับพี่น้องมุสลิมส่วนใหญ่ว่าเขาต้องการให้เหตุการณ์สงบโดยเร็วและต้องการให้จับกุมคนร้ายมาลงโทษ การปฏิบัติการทางทหารคนที่มีปัญหาก็คือกลุ่มของคนร้ายและแนวร่วม ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรยังใช้ชีวิตปกติของเขา ถึงแม้จะมีบ้างที่หวาดระแวงความรุนแรงจากอาชญากรชายแดนใต้ นายรังสิมันต์น่าจะมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่กลุ่มแนวร่วมบ้างเผื่อสายตาจะไม่มืดจิตใจจะได้ไม่บอดไปพร้อมกับเงินที่ได้รับทำให้อุดมการณ์ความถูกต้องละลายไปกับเศษเงินที่นายใหญ่ของ PerMas
ได้มอบให้เพื่อทำลายประเทศชาติตัวเองหรือไม่ใช่ชาติของคุณ
แผ่นดินนี้แผ่นดินไทย ที่นี่ประเทศไทย ใช้อำนาจกฎหมายไทย
หยุดการเคลื่อนไหวทำลายประเทศตัวเอง ประเทศไทยบอบช้ำมาเยอะแล้ว คนไทยสูญเสียมาเยอะแล้ว
อย่าสร้างประเด็นความรู้สึกไม่ดีต่อการทำงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบของเจ้าหน้าที่อีกเลย
ให้โอกาสเจ้าหน้าที่ทำงานติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ตามพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงซัดทอดคนร้าย ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าสร้างประเด็นกระแสขัดขวางแต่ถ้าอยากช่วยก็ควรให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
และแจ้งเบาะแสหรือโน้มน้าวผู้กระทำความผิดให้มอบตัวหรือทำอะไรได้ที่เป็นประโยชน์ต่อความรู้สึกไม่ขัดแย้งของคนในชาติ
---------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น