แบมะ ฟาตอนี
เมื่อวันที่
12 กันยายน 57 เวลาประมาณ 06.25 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายระเบิดเส้นทางรถไฟ
ก่อนถึงสะพานคลองไอแดง ประมาณ 50 เมตร ในพื้นที่ ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ
อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
เป็นเหตุให้รางรถไฟได้รับความเสียหายไม่สามารถใช้การได้ในการก่อเหตุครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ
พบว่าลักษณะของระเบิดเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ในถังแก๊สหุงต้มสีส้ม ขนาด 25
กก. จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน ขนาด 3 หุน
ความยาวประมาณ 2 – 3 ซม.
แรงระเบิดทำให้รางรถไฟได้รับความเสียหาย ซีเมนต์ที่ใช้เป็นหมอนรองรางรถไฟ
ได้รับความเสียหายจำนวน 4 หมอน ไม่สามารถใช้งานได้ และ
แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้างประมาณ 1.2 เมตรลึกประมาณ 90 ซม.
ห่างจากสะพานคลองไอแดง ประมาณ 48 เมตร เจ้าหน้าที่รถไฟ แขวงบำรุงทางตันหยงมัส
ได้เปิดเผยว่าอาจใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะสามารถใช้การได้ตามปกติ
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่
45 สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 4 คน ดังนี้
1.
นายต่วนปา ต่วนสุหลง อายุ 29 ปี ที่อยู่
61 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
2.
นายต่วนซูไฮมี ลอเซง อายุ 20 ปี ที่อยู่
45 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
สองรายแรกชาวบ้านแจ้งว่าเป็นคนดูต้นทาง
บุคคลสองคนนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์มาซุ่มดูการปฏิบัติของ
เจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเส้นทางรถไฟตั้งแต่ตอนเช้าซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยปฏิบัติแต่อย่างใด
อีกทั้งนายต่วนปาฯ เป็นน้องชายของ นายตูแวรอมะยี ต่วนสุหลง
ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 56 ที่ผ่านมา
3.นายอารซู
ดะเซะ อายุ 27 ปีที่อยู่ 41/1 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
4.นายมูฮำหมัด
ดือราเซะ อายุ 47 ปี ที่อยู่ 42 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะจ.นราธิวาส
บุคคลที่
3 และ 4 ชุดติดตามจับกุมตรวจพบเสื้อยืดสีขาว กางเกงวอร์มสีดำ
ซึ่งตรงกับลักษณะเสื้อผ้าของบุคคลต้องสงสัยในการจุดระเบิดที่สวมใส่ตามที่ชาวบ้านแจ้ง
ซึ่งชุดดังกล่าวถูกถอดทิ้งไว้ในบ้านพร้อมทั้งวิทยุสื่อสาร
เจ้าหน้าที่จึงอาศัยอำนาจตาม
พรบ.กฎอัยการศึกควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา ๗ วันเพื่อซักถาม ณ กรมทหารพรานที่
46 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส
ผลกระทบจากกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดรางรถไฟในครั้งนี้ได้ขยายเป็นวงกว้างของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
เนื่องจากการรถไฟไม่สามารถให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารได้ นักเรียน
นักศึกษาที่ต้องใช้บริการรถไฟเป็นพาหนะในการเดินทางไปโรงเรียนทุกวันได้รับความลำบากในการเดินทาง
ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของประชาชนโดยรวมในพื้นที่
ที่มีการขนส่งพืชผลทางการเกษตรได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส
โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการขนส่งผลผลิตลองกองเพื่อนำไปจำหน่ายยังนอกพื้นที่ของพี่น้องชาวมลายูปาตานี
จนถึงแหล่งเศรษฐกิจ อ.สุไหงโก – ลก ก็พลอยได้รับผลกระทบไม่สามารถขนส่งสินค้าทางรถไฟได้โดยสะดวก
จึงเป็นเรื่องที่พวกเราสมควรประณามต่อการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้
ที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของของประชาชนชาวปาตานีด้วยกัน
การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแทบทุกครั้งมุ่งหวังทำร้ายหมายเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเส้นทางรถไฟ
เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย
แต่โจรใต้กลับไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา
พี่น้องประชาชนที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางเข้าเมือง
และขนส่งสินค้าทางการเกษตรเพื่อนำเงินรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัวก็ได้รับความยากลำบาก
รวมทั้งลูกหลานของเราเองที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนพลอยได้รับความเดือดร้อนจนกว่าการรถไฟจะซ่อมบำรุงเสร็จ
เราทุกคนควรภาคภูมิใจที่เกิดมาในผืนแผ่นดินไทย
มีเส้นทางรถไฟที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้โดยสะดวกทั่วประเทศ
ใครก็ตามที่คิดทำลายทางรถไฟถือว่าเป็นคนไม่ดี และมีความผิดจะต้องถูกจับมาดำเนินคดีในที่สุด
*****************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น