9/16/2557

ผกร.ระเบิดรางรถไฟ ใคร? เดือดร้อน


แบมะ ฟาตอนี



เมื่อวันที่ 12 กันยายน 57 เวลาประมาณ 06.25 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายระเบิดเส้นทางรถไฟ ก่อนถึงสะพานคลองไอแดง ประมาณ 50 เมตร ในพื้นที่ ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้รางรถไฟได้รับความเสียหายไม่สามารถใช้การได้ในการก่อเหตุครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด 
          จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าลักษณะของระเบิดเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ในถังแก๊สหุงต้มสีส้ม ขนาด 25 กก. จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน ขนาด 3 หุน ความยาวประมาณ 23 ซม. แรงระเบิดทำให้รางรถไฟได้รับความเสียหาย ซีเมนต์ที่ใช้เป็นหมอนรองรางรถไฟ ได้รับความเสียหายจำนวน 4 หมอน ไม่สามารถใช้งานได้ และ แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้างประมาณ 1.2 เมตรลึกประมาณ 90 ซม. ห่างจากสะพานคลองไอแดง ประมาณ 48 เมตร เจ้าหน้าที่รถไฟ แขวงบำรุงทางตันหยงมัส ได้เปิดเผยว่าอาจใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะสามารถใช้การได้ตามปกติ
          ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 4 คน ดังนี้


          1. นายต่วนปา  ต่วนสุหลง อายุ 29 ปี ที่อยู่ 61 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส


          2. นายต่วนซูไฮมี  ลอเซง อายุ 20 ปี ที่อยู่ 45 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
          สองรายแรกชาวบ้านแจ้งว่าเป็นคนดูต้นทาง บุคคลสองคนนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์มาซุ่มดูการปฏิบัติของ เจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเส้นทางรถไฟตั้งแต่ตอนเช้าซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยปฏิบัติแต่อย่างใด อีกทั้งนายต่วนปาฯ เป็นน้องชายของ นายตูแวรอมะยี ต่วนสุหลง ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 56 ที่ผ่านมา
          3.นายอารซู ดะเซะ อายุ 27 ปีที่อยู่ 41/1 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส


          4.นายมูฮำหมัด ดือราเซะ อายุ 47 ปี ที่อยู่ 42 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะจ.นราธิวาส


          บุคคลที่ 3 และ 4 ชุดติดตามจับกุมตรวจพบเสื้อยืดสีขาว กางเกงวอร์มสีดำ ซึ่งตรงกับลักษณะเสื้อผ้าของบุคคลต้องสงสัยในการจุดระเบิดที่สวมใส่ตามที่ชาวบ้านแจ้ง ซึ่งชุดดังกล่าวถูกถอดทิ้งไว้ในบ้านพร้อมทั้งวิทยุสื่อสาร
          เจ้าหน้าที่จึงอาศัยอำนาจตาม พรบ.กฎอัยการศึกควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา ๗ วันเพื่อซักถาม ณ กรมทหารพรานที่ 46 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส
          ผลกระทบจากกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดรางรถไฟในครั้งนี้ได้ขยายเป็นวงกว้างของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากการรถไฟไม่สามารถให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารได้ นักเรียน นักศึกษาที่ต้องใช้บริการรถไฟเป็นพาหนะในการเดินทางไปโรงเรียนทุกวันได้รับความลำบากในการเดินทาง ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของประชาชนโดยรวมในพื้นที่ ที่มีการขนส่งพืชผลทางการเกษตรได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการขนส่งผลผลิตลองกองเพื่อนำไปจำหน่ายยังนอกพื้นที่ของพี่น้องชาวมลายูปาตานี จนถึงแหล่งเศรษฐกิจ อ.สุไหงโก ลก ก็พลอยได้รับผลกระทบไม่สามารถขนส่งสินค้าทางรถไฟได้โดยสะดวก จึงเป็นเรื่องที่พวกเราสมควรประณามต่อการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ ที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของของประชาชนชาวปาตานีด้วยกัน


         การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแทบทุกครั้งมุ่งหวังทำร้ายหมายเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเส้นทางรถไฟ เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย แต่โจรใต้กลับไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา พี่น้องประชาชนที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางเข้าเมือง และขนส่งสินค้าทางการเกษตรเพื่อนำเงินรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัวก็ได้รับความยากลำบาก รวมทั้งลูกหลานของเราเองที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนพลอยได้รับความเดือดร้อนจนกว่าการรถไฟจะซ่อมบำรุงเสร็จ เราทุกคนควรภาคภูมิใจที่เกิดมาในผืนแผ่นดินไทย มีเส้นทางรถไฟที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้โดยสะดวกทั่วประเทศ ใครก็ตามที่คิดทำลายทางรถไฟถือว่าเป็นคนไม่ดี และมีความผิดจะต้องถูกจับมาดำเนินคดีในที่สุด
*****************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น