9/02/2557

ผ่าคดี 3 โจรใต้สายบุรี กับวัตถุพยานหลักฐานมัดตัวยากจะดิ้นหลุด

แบมะ ฟาตอนี

สภาพจากภายนอกของตัวบ้านเลขที่ 33 ม.5 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คนที่ได้พบเห็นจะมีความรู้สึกว่าน่าอยู่อาศัย เนื่องจากเงียบสงบแฝงตัวอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่น้อย ซึ่งเป็นสวนผลไม้ปลูกอยู่เต็มบริเวณรอบๆ ตัวบ้าน ลักษณะตัวบ้านยกพื้นสูง หลังคาบ้านมุงด้วยกระเบื้องตามรูปแบบความนิยมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผู้คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และสามารถพบเห็นโดยทั่วๆ ไป ฝาบ้านมุงด้วยสังกะสีสลับกับไม้บางส่วน
            ใครจะคิดว่าบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นตำนาน เป็นเสมือนโรงงานผลิตวัตถุระเบิดส่งให้แนวร่วมโจรใต้นำไปใช้ในการก่อเหตุ คร่าชีวิตผู้คนมามากมาย ได้สร้างความเสียหายที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ อีกทั้งยังพบอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกระสุนปืนมากมายหลายรายการ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดวางอยู่ทุกมุมบ้าน หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้าทำการตรวจค้นเจอ และควบคุมตัวบุคคลที่ถือว่าอันตรายทั้ง 3 รายไว้ได้ ซึ่งประกอบไปด้วย นายอาสมาล เจะบา นายอาฟันดี กาพา และ นายสุกรี สาแม วัตถุระเบิดที่มีการผลิต อาวุธพร้อมกระสุนจำนวนมากที่ตรวจพบที่เก็บไว้เตรียมการก่อเหตุ อานุภาพการทำลายล้างจะมีอีกกี่เหตุการณ์ จะมีผู้คนล้มตายอีกกี่ชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับการกระทำที่โฉดชั่วของคนกลุ่มนี้

            ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่ได้สนธิกำลังเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เมื่อเข้าไปในตัวบ้านซึ่งเป็นห้องโถงมุมหนึ่งของตัวบ้านเจ้าหน้าที่ตรวจพบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์และอาวุธปืนวางอยู่ระเกะระกะ อาวุธที่ตรวจพบจุดแรกคืออาวุธปืนยาวขนาด .22 มม. และอาวุธปืน HK-33 และเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูห้องที่กั้นด้วยไม้กระดานอัดเข้าไปได้พบซิมการ์ด วันทูคอล วางอยู่ จำนวน 1 ซิม พร้อมด้วยอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด .357 อยู่ภายในห้องนอน ซึ่งวัตถุพยานต่างๆ ที่ทำการตรวจพบแทบไม่จำเป็นต้องค้นหาเนื่องจากวางไว้อย่างเปิดเผย และพร้อมใช้งานได้ทุกเวลา


            อีกห้องหนึ่งในตัวบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่อง อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก กระบอกหนึ่งวางไว้ใกล้หมอน อีกกระบอกวางไว้บนเคร่าไม้ซึ่งเป็นฝาบ้าน อีกทั้งยังได้เก็บเปลสนามส่งทำการตรวจ DNA พิสูจน์หลักฐานยืนยันหาสารพันธุกรรมนำตัวบุคคลที่อาจจะเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

            เมื่อลงมาทำการตรวจใต้ถุนบ้านที่ยกพื้นสูงกลับพบเชื้อปะทุระเบิดบรรจุอยู่ในขวดพลาสติกสีขาววางอยู่บนคานไม้ของตัวพื้นบ้าน และที่เสาบ้านต้นเดียวกับที่พบเชื้อปะทะพบถังดับเพลิงบรรจุอยู่ในกระสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมส่งตรวจ DNA หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังตรวจสอบรอบๆ บริเวณบ้านพบสีโป๊วร์ และร่องรอยสะเก็ดระเบิด ถังแก๊สตัดท่อน และกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. บรรจุอยู่ในแกลอนสีขาวจำนวนหนึ่ง


ของกลาง จำนวน 9 รายการ
            1. ปืนพกออโตเมติก ( GLOCK ) ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 1 กระบอก 
            2. ปืนเล็กกล ( HK 33 ) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 1 กระบอก 
            3. ปืนพกออโตเมติก ( COONAN ) ขนาด .357 MAGNUM จำนวน 1 กระบอก 
            4. ปืนพกออโตเมติก (CZ ) ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 1 กระบอก
            5. ปืนยาวลูกกรด (CZ ) ขนาด .22 LONG RIFLE จำนวน 1 กระบอก
             6.ซองกระสุนปืนของปืนเล็กกล (M 16) ขนาด .223 (5.56 มม.) ชนิดบรรจุ 20 นัด จำนวน 2 อัน
             7. กระสุนปืนออโตเมติก        ขนาด 9 มม. LUGER               จำนวน    117  นัด
             8. กระสุนปืนของปืนเล็กกล   ขนาด .223 (5.56 มม.)              จำนวน 1576  นัด  
             9. กระสุนปืนรีวอลเวอร์         ขนาด .357 MAGNUM              จำนวน     22  นัด

            จากการพิสูจน์หลักฐานของอาวุธปืนทั้ง 5 กระบอก อาวุธปืน 3 กระบอกด้วยกันที่เคยใช้ในการก่อเหตุมาแล้ว 17 คดีด้วยกัน มียอดผู้เสียชีวิตถึง 15 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
            นี่คือความชั่วช้าของโจรใต้ฟาตอนีกลุ่มนี้ ยังไม่นับรวมถึงระเบิดที่มีการประกอบแล้วนำไปวางก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน หากนับรวมเข้าด้วยกันยอดผู้เสียชีวิตอาจจะเฉียดร้อยรายที่เป็นฝีมือของโจรโฉดชั่ว ไร้ศาสนา ไร้ความปราณี และมีความสุดโต่ง ฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลอบสังหารเจ้าหน้าที่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กราดยิงชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ ระเบิดเผาทำลายสถานที่และทรัพย์สินทางราชการ ก่อวินาศกรรมในย่านเศรษฐกิจ ฆ่าผู้คนด้วยวิธีที่โหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ ตัดหัว ยิงหัว มันคือผู้ก่อการร้ายแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน...ที่ไม่สมควรให้อภัย
            ท่านผู้อ่านครับ จะเห็นได้ว่าเบื้องหลังของความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เกิดจากฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแทบทั้งสิ้นที่ได้ก่อความเดือดร้อน ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทาง และวิธีการที่โจรใต้ฟาตอนีกลุ่มนี้ใช้อยู่ บ่งบอกถึงความป่าเถื่อน ทารุณ โหดร้าย ยากที่จะยอมรับได้ เสียงส่วนใหญ่ของพี่น้องประชาชนอยากเห็นความสงบ การใช้เวทีในการพูดคุยเจรจาแทนการเข่นฆ่าทำลายล้าง หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อน อีกในไม่ช้าไม่นาน สันติสุข สันติภาพ ย่อมเกิดขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้ ในส่วนของการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีหากพบเห็น ทุกคนมีส่วนช่วยในการระงับยับยั้งด้วยการแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ ที่อยู่ใกล้บ้านท่าน ความร่วมมือเพียงแค่นี้อาจจะนำไปสู่ผลดีแก่ตัวท่านเองและครอบครัว เพราะหากเราทำตัวแบบทองไม่รู้ร้อน ธุระไม่ใช่แล้ว สักวันหนึ่งอาจจะเป็นตัวท่านเองหรือบุคคลในครอบครัวที่จะต้องเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ และพิการ จากน้ำมือโจรใต้ฟาตอนีเหล่านี้
-------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น