แบมะ
ฟาตอนี
จากเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย นับตั้งแต่ต้นปี
2547 จนถึงขณะนี้
สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปบ้าง ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์น้อยแต่เน้นความรุนแรง
เนื่องจากในขณะนี้เหล่านักรบฟาตอนีขาดมวลชนไปเป็นจำนวนมาก
เพราะคนมลายูส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทุกรูปแบบ การปฏิบัติการของเหล่าบรรดานักรบฟาตอนีเองก็ได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก สตรี คนชรา โดยเฉพาะเป้าหมายอ่อนแอได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกันถ้วนหน้า
ส่งผลให้สมาชิกแนวร่วมขบวนการหลายคนหันหลังให้กับองค์กร
กลับตัวกลับใจ หันมาทำความดีให้ความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ
ด้วยการวางอาวุธ เข้ามารายงานตัวแสดงตน กลับมาอยู่กับครอบครัว ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ
และร่วมกันพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน
ในส่วนขององค์กรโจรใต้เริ่มแตกคอ
มีการฆ่าตัดตอนกันเอง หลังจากกลุ่มที่มุ่งศาสนาเพิ่งรู้ว่าถูกหลอกใช้ นายอับดุลรอฮิม กูโน สมาชิกแนวร่วมขบวนการ
ซึ่งถูกตำรวจ สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส จับกุมได้เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า เมื่อปี 2546
ตนถูกชักนำเข้าร่วมขบวนการโดย นายยูโซะ โต๊ะรือเนาะ หรือ อุสตาสโซะ
จากนั้นถูกนำตัวไปเข้าพิธีซุมเปาะ หรือพิธีสาบานตนเข้าร่วมขบวนการ
ซึ่งจะต้องไม่เปิดเผยความลับแก่ผู้ใด ต่อจากนั้นไม่กี่วันถูกนำตัวไปฝึกร่างกายและฝึกอาวุธ
ก่อนมอบหมายงานให้ไปลอบสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ช่วงหลังตนไม่ยอมปฏิบัติตาม อุสตาสโซะ
ซึ่งเป็นคนชักชวนให้เข้าขบวนการได้โทรศัพท์มาหาและข่มขู่จะทำร้ายครอบครัวของตน แต่นับเป็นความโชคดีที่ตนมาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน
จึงหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้มาได้ แม้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายก็ตามที
ยินดีที่จะชดใช้ความผิดที่ได้กระทำมา
ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา
10 ปี อยากจะให้เป็นบทเรียนชาวมลายูปาตานีทุกคน ได้เล็งเห็นถึงความหายนะ
ความป่าเถื่อน สุดโต่ง และความร้ายกาจของเหล่านักรบฟาตอนีที่ได้กระทำทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการฆ่าผู้บริสุทธิ์
เจตนาวางระเบิดเพื่อเข่นฆ่าเด็ก สตรี คนชรา และบุคคลคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องสังเวยชีวิตอย่างน่าเวทนา
ประชาชนมลายูเองไม่เคยได้รับประโยชน์อะไรเลยกับสงครามของขบวนการเหล่านักรบฟาตอนี
นอกจากความปวดร้าว ความทุกข์เข็น แสนสาหัส ที่นักรบฟาตอนีเหล่านี้หยิบยื่นให้
“10 ปี ผ่านนานเนิ่นเหมือนเดินเหว ทั้งดีเลวพานพบประสบสิ้น
บ้างล้มหายตายจากน้ำตาริน ต่างถวิลใต้สงบอยู่ครบครัน
10 ปี ก่อนนอนอยู่คู่บ้านเมาะ ทั้งรือเสาะยี่งอพ่อแม่เอ๋ย
ไม่คาดคิดชีวิตไม่เหมือนเคย ใครเล่าเอ่ยเป็นคนทำกรรมหรือเวร
อยากขอร้องผองเพื่อนเพื่อเตือนจิต หยุดยั้งคิดผิดถูกเพื่อลูกหนา
พ่อเดินผิดลูกน้อยพลอยระอา เพื่อนล้อว่าลูกโจรสุดทนเอย”
โจรใต้
ริอาจตั้งตนเป็นนักรบฟาตอนี โดยอ้างว่าทำการต่อสู้กับรัฐไทยเพื่อแผ่นดินปาตานี
แต่วิธีการสุดอำมหิตยอมรับไม่ได้นี่หรือเป็นวิธีการของคนที่บอกใครต่อใครไปทั่วว่าเป็นนักรบ
แต่การกระทำที่ไร้อุดมการณ์ ไร้ทิศทางในการต่อสู้ มีแต่การสร้างสถานการณ์รุนแรง
เข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถือว่าเป็นการก่อกรรมทำเข็ญ ผิดหลักศาสนาอย่างร้ายแรง
ไม่ว่าศาสนาใดก็ตามที เพราะทุกศาสนามีข้อห้ามทำลายชีวิตมนุษย์ด้วยกัน แต่นี่กลับถลำลึกด้วยการเข่นฆ่าเด็ก
ผู้หญิง คนชรา นักบวช และผู้ที่มิได้ละเมิดต่อศาสนาอิสลาม แท้จริงแล้วโจรใต้เหล่านี้พวกเขาไม่เคยสัมผัสคำสอนที่ประเสริฐยิ่งของอัลลอฮ์อย่างแท้จริง
หรือพวกเขาเป็นคนไร้ศาสนา เนื่องจากไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย
คัมภีย์อัลกุรอาน
มีประวัติศาสตร์ให้เราได้อ่านและได้คิด นำไปสู่การปฏิบัติแล้วเอามาปรับใช้กับปัจจุบันให้ถูกต้อง
เมื่อเรารู้ประวัติศาสน์ความจริงก็ปรากฏ ...
และการที่มนุษย์บนโลกนี้มีหลากหลายเชื้อชาติพันธุ์ เพื่อให้เราได้รู้จักกันเข้าใจกัน
ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะเคารพในสิทธิของแต่ละเชื้อชาติพันธุ์ นั้น ๆ
....เมื่อมีความหลากหลาย ก็เกิดความคิดที่แตกต่าง แต่ความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขภายใต้พหุวัฒนธรรม
ความขัดแย้งมิอาจยุติได้ด้วยสงคราม
การใช้อาวุธและความรุนแรงทั้งปวง ขอให้สมาชิกแนวร่วมที่ยังหลงผิด ใช้สติวิเคราะห์
ปัญญาจะเกิดว่าเราได้ถูกหลอกใช้จากขบวนการที่มีความคิดสุดโต่ง หยุดความรุนแรง วางอาวุธ สันติสุขย่อมเกิด ร่วมมือร่วมใจแก้ไขสถานการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้สงบโดยเร็ววัน
เพราะ 10 ปี ที่ผ่านมาได้บ่งบอกแล้วว่าไม่มีอะไรดีขึ้นเลย นอกจากความสูญเสีย
มีแต่คราบน้ำตาของพี่น้องชาวมลายูปาตานีของเราเอง
ที่ต้องสูญเสียญาติพี่น้อง ส่วนเรื่องเอกราชฟาตอนีคงจะเป็นความเฟ้อฝันเท่านั้นเอง
ไม่มีทางเป็นไปได้ เป็นแค่แนวคิดของแกนนำที่อยากได้อำนาจ หากทุกคนมีสติและคิดเป็น
...คงอีกไม่นานความสงบสุข และรอยยิ้มจะกลับคืนมาสู่พี่น้องมลายูฟาตอนีอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
(อามีน...)
*****************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น