9/16/2557

โจรใต้ฟาตอนีปล้นฆ่าชิงรถยนต์ก่อเหตุเทศบาลตำบลมะกรูด


                                                                                
แบมะ ฟาตอนี

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 57 กรณีคนร้าย ใช้รถยนต์กระบะและรถจักรยานยนต์ เป็นยานพาหนะ ขับขี่เข้าไปจอดบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลมะกรูด จังหวัดปัตตานี และใช้อาวุธสงครามยิงเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานภายในสำนักงานเทศบาล หลังจากการก่อเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก และได้เกิดระเบิดขึ้นในเวลาต่อมา จนเป็นเหตุให้มีราษฎรและเจ้าหน้าที่ เสียชีวิต 4 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 ราย ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนทุกแขนงไปแล้วนั้น

เมื่อ 12 กันยายน 57 ได้มีการแจ้งข่าวสารจากประชาชนในพื้นที่ หมู่ 10 ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา ว่าได้มีการพบรอยคราบเลือดและเศษกะโหลกศีรษะติดอยู่ที่ราวสะพานรวมใจภักดิ์ ซึ่งเป็นบริเวณเขตรอยต่อ บ.ทุ่งพระยอด ม.10 ต.ลำไพล กับ บ.ทุ่งโดน ม.5 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกำลัง 3 ฝ่าย พบรอยคราบเลือดและชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะบริเวณสะพานดังกล่าว และได้ทำการตรวจสอบบริเวณลำคลองใต้สะพาน  พบศพชายไทยบริเวณใต้สะพาน และทราบชื่อในเวลาต่อมา คือนาย อนันต์ ขวัญจุล อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 40 บ้านท่าธง ม.7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
          จากการสืบสวนทราบว่า นายอนันต์ ขวัญจุล ได้ขับรถ กะบะมิตซูบีชิ สตาร์ด้า (แคป) สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน ผต 4098 สงขลา มีหลังคาที่กระบะหลัง ขับออกจากบ้าน เวลาประมาณ 07.00 น.  ของวันที่ 11 กันยายน 57 เพื่อรับ-ส่งนักเรียนไปส่งที่ ร.ร.เทพพิทยาภานุมาศ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ บ.ควนเจดีย์ ม.6 ต.ลำไพล และ ร.ร.บ้านควนหมาก ม.3 ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา หลังจากส่งนักเรียนเสร็จ ขณะเดินทางกลับแล้วหายไปทั้งคนและรถ เหตุเกิดพื้นที่บ้านปริก (ล่องมุด) ม.8 ต.ลำไพล อ.เทพา บนถนนสาย ห้วยเต่า – บ.ควนหมาก ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา

          และเมื่อมีการนำภาพวงจรปิดรถกลุ่มคนร้ายที่ทำการก่อเหตุกราดยิงประชาชนและเจ้าหน้าที่และวางระเบิดเทศบาลตำบลมะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 4  ราย ได้รับบาดเจ็บ จำนวน  6  ราย แล้วหลบหนีไปพร้อมรถยนต์คันดังกล่าว ปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของนายอนันต์ ขวัญจุล ที่โดนฆ่าทิ้งลำคลองและคนร้ายได้ชิงรถยนต์ไป
          นี่คือรูปแบบการปฏิบัติการของนักรบฟาตอนีที่กลุ่มแนวร่วมยกย่องกันนักหนาและมีความภาคภูมิใจ แต่พฤติกรรมที่ได้กระทำลงไปมันไม่ต่างอะไรกับคนที่ไร้ศาสนา มีจิตใจชั่วช้าเยี่ยงสัตว์ กระทำการอุกอาจไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมือง เหมือนบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีขื่อมีแป
          กลุ่มโจรใต้ฟาตอนีได้มีการวางแผนในการปฏิบัติการที่ชั่วช้า ปล้นฆ่านายอนันต์ ขวัญจุล ซึ่งมีอาชีพขับรถรับ-ส่งนักเรียนทิ้งลำคลอง เพื่อทำการชิงรถ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือและทรัพย์สินบางส่วนของผู้ตายไปด้วย
          ถัดมาอีกวันกลุ่มโจรใต้กลุ่มนี้ได้ใช้รถยนต์คันที่ปล้นมา ไปทำการก่อเหตุเทศบาลตำบลมะกรูด จนมีประชาชนและเจ้าหน้าที่เทศบาลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตถึง 10 ราย พฤติกรรมชั่วๆ ก็ยังเหมือนเดิมเมื่อทำการก่อเหตุแล้วยังฉกเอากระเป๋าสะตังค์ โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายติดไม้ติดมือไปอีก

          เหตุการณ์ 2 เหตุเชื่อมโยงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีผู้เสียชีวิต พร้อมๆ กับเราได้เห็นพฤติกรรมของโจรใต้ฟาตอนีชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากการกระทำที่ชั่วช้า ขาดความยั้งคิด กระทำการสุดโต่ง เสมือนคนไร้ศาสนาแล้ว ยังมีเพิ่มเติมมาอีกคือการชิงทรัพย์ นี่หรือ? นักรบฟาตอนีที่มีอุดมการณ์ มีจรรยาบรรณ สุดท้ายไม่ต่างอะไรกับโจรร้ายทั่วๆ ไปที่ปล้นฆ่าแล้วชิงทรัพย์ หรือสมาชิกแนวร่วมเหล่านี้อดยากไม่มีแม้เงินยาไส้เลยต้องแสดงพฤติกรรมเยี่ยงโจรฉกชิงวิ่งราวเพื่อความอยู่รอด น่าอนารถใจแท้!!
          และจากการเปิดเผยของผู้เห็นเหตุการณ์ บวกกับการวิเคราะห์จากฐานข้อมูลประกอบกับข่าวสารความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงมีจำนวน 6 คนด้วยกันแบ่งเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยมือระเบิด 3 คน มีนายมะรุดิง สามะ นายรอมลี รอเพ็ง นายซาบาหรี เจะอาลี และผู้ปฏิบัติการกราดยิงและคุ้มกัน 3 คน มีนายสุไลมาน สาเมาะ นายอุสมัน ดามัน และนายฮัมดี หะยีมะ
          หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่จะติดตามไล่ล่ากลุ่มโจรใต้กลุ่มนี้มาลงโทษดำเนินคดีตามกฎหมาย หากยังติดตามจับกุมไม่ได้ยิ่งทำให้กลุ่มโจรใต้ได้ใจ และมีความฮึกเกริมทำการก่อเหตุเย้ยกฎหมายบ้านเมืองต่อไป ในส่วนของพี่น้องประชาชนชาวปาตานีทุกคนก็มีส่วนรับผิดชอบในการติดตามตรวจสอบแจ้งเบาะแสข่าวสารร่วมกัน อย่านิ่งนอนใจเป็นอันขาดหากยังคิดทำเฉยเมย ปล่อยให้เกิดเรื่องอยู่เช่นนี้แล้วเมื่อไหร่สถานการณ์จะสงบสักที ผ่านมาสิบกว่าปียังคงเกิดเหตุรุนแรงอยู่ทุกวัน เจ้าหน้าที่หลายๆ คนที่ลงมาปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้ เป็นคนต่างถิ่นสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาช่วยแก้ไขปัญหา คนแล้วคนเล่ามาแล้วพวกเขาเหล่านั้นก็กลับบ้านเกิดเมืองนอนแล้วเราละเกิดที่นี่เป็นเจ้าของพื้นที่ดินแดนแห่งนี้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ณ ที่แห่งนี้ไม่คิดทำอะไรเพื่อบ้านของตัวเองเลยหรือ? สันติภาพ..สันติสุขที่เราโหยหา อย่ามัวนั่งรอนอนรอโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย...

*****************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น