9/08/2557

หรือโจรใต้จะเป็น “กลุ่มคอวาริจญ์ พวกนอกรีตนิยมความรุนแรง”

แบมะ ฟาตอนี
เป็นไปได้หรือไม่ ? พวกนอกรีตสร้างความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ในปัจจุบันนี้ คือ กลุ่มคอวาริจญ์

ปรัชญากลุ่มคอวาริจญ์ กับแนวคิดเรื่องผู้นำ : ช่วงต้นของราชวงศ์อับบาซียะห์ พวกเหล่านี้จะยกประเด็นเรื่องการเป็นผู้นำนี้มาเป็นข้ออ้างในการปฏิบัติการณ์โค่นล้มอำนาจที่พวกเขาเห็นว่าไม่ยุติธรรม โดยใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ทั้งการกล่าวหาผู้นำว่าไม่เหมาะสมกับการบริหารบ้านเมือง การปลุกระดมในการกำหนดคุณสมบัติของผู้นำที่ถูกต้อง การตรวจสอบผู้นำและจุดยืนในการต่อต้านผู้นำที่ทุจริตต่อหน้าที่ 
          คอวาริจญ์ ได้แตกแยกแบ่งออกเป็นประมาณ 20 กลุ่ม แต่ละกลุ่มต่างกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายเป็นพวกกาฟิรฺ (ปฏิเสธศรัทธา) อัลคอวาริจในประวัติศาสตร์อิสลามยังมิได้ดับสูญไป อุดมการณ์และแนวปฏิบัติยังคงมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะคอวาริจอิบาฎียะห์ ที่แตกออกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ยังคงหลบซ่อนและจะเผยให้เห็นแนวคิดที่รุนแรงเป็นระยะๆ เมื่อไม่นานมานี้กลุ่มหนึ่งที่ใช้แนวคิดนี้ได้ถือกำเนิดเปิดตัวขึ้นพร้อมกับนโยบายอันแข็งกร้าว นั่นก็คือ กลุ่ม ญะมาอะตุ้ลตักฟีรวัลฮิจเราะห์ซึ่งได้ประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาคือผู้ที่จะนำอิสลามอันแท้จริงมาสู่ประชาชนผู้ศรัทธาทุกคน

          พฤติกรรมโจรใต้นอกรีตศาสนาที่ใช้กำลังก่อเหตุสร้างความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของไทย ได้บิดเบือนหลักคำสอนของศาสนาอิสลามในทางที่ผิด จะเป็นพวกอ่านอัล-กุรอานไม่พ้นคอ เอาหะดีษก็เอาแค่ที่กว้างๆ ชอบตีความตัวบทศาสนา ชอบกล่าวหาว่าคนอื่นไม่เอาศาสนาบ้าง เป็นกาฟิรบ้าง ความดีเพียงหยดเดียว ถ้ามาจากการกระทำของกลุ่มขบวนการจะยกให้มันยิ่งใหญ่ ความผิดเพียงนิดเดียวถ้ามาจากศัตรู (เจ้าหน้าที่รัฐ) ก็จะยกมันให้ใหญ่ยิ่งพร้อมกระพือข่าวทำการโฆษณาชวนเชื่อชี้ให้เห็นความผิดพลาด ขบวนการโจรใต้จะเป็นศัตรูกับผู้ที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มีความคิดต่างไม่เห็นด้วยกับแนวคิดฝ่ายตน ที่สำคัญจะต่อต้าน ดื้อดึง ต่อรัฐผู้ปกครอง (ประเทศไทย) และจะเอาความตายของผู้คนมายกเครดิตตัวเอง
ความสุดโต่งคือคอวาริจญ์ผู้เคยเข่นฆ่ามุสลิม

          มุสลิมสุดโต่ง คือ ผู้ที่ละเลยศาสนา ไม่ปฏิบัติตามหลักศาสนา และละเว้นในสิ่งที่ศาสนากำหนด แต่บุคคลเหล่านั้นกลับมีบทบาทในสังคมมุสลิม และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเมื่อมุสลิมเหล่านี้มีอำนาจในสังคม คนเหล่านี้จะไม่สนใจในเรื่องธรรมาภิบาล หรือเอื้อประโยชน์ต่อสังคมมุสลิม คนเหล่านี้จะเข้าหาศาสนาก็ต่อเมื่อในเรื่องพิธีกรรมเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจในการปฏิบัติตามหลักศาสนกิจแต่ประการใด อย่างเช่นมุสลิมสายกลางปฏิบัติกัน
          จากการชี้แจงของสำนักจุฬาราชมนตรี เรื่อง ข้อเท็จจริงในการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาอิสลาม ตอนหนึ่งได้ระบุไว้ว่า แนวความคิดของผู้ที่มีความคิดต่างจากรัฐในปัตตานี มีแนวความคิดคล้ายกับพวก คอวาริจญ์ ซึ่งเป็นพวกนอกรีตศาสนาอิสลาม เป็นกลุ่มที่มีทัศนคติสุดโต่ง ก้าวร้าว ไร้เหตุผล ไม่เป็นที่ยอมรับของบรรดามวลปราชญ์ศาสนาอิสลาม และได้หายไปเนื่องจากไม่ได้รับการยอมรับ ผู้ก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ ไม่ต่างอะไรกับพวก คอวาริจญ์ เนื่องจากปัจจุบันนี้มีการกระทำที่ไร้เหตุผล และมีการเข่นฆ่าพี่น้องมุสลิมด้วยกัน
          เป็นที่น่าสังเกตว่าแนวทางของกลุ่มขบวนการโจรใต้ค่อนข้างจะรุนแรง มีการชักจูงคนหนุ่มสาวให้เข้าร่วมการต่อสู้โดยอ้างการถูกรุกรานจากคนต่างศาสนา สาเหตุสำคัญที่ผลักดันให้คนเหล่านั้นมายอมรับหลักการคือ การชูประเด็นสิทธิเหนือดินแดน มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวมลายูปัตตานี ได้นำศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องในการเรียกร้อง ยึดเอากฎหมายของมนุษย์ผู้ที่จ้องทำลายล้างอิสลามมาใช้ และกล่าวหารัฐไทยเข้ามายึดครอง กดขี่ ข่มแหง  

          เราพี่น้องมุสลิมทั้งหลาย ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาสันติ มุสลิมเราต่างใฝ่หาสันติ มีเมตตาต่อคนต่างศาสนา ไม่ใช่ฝักใฝ่เรื่องความรุนแรงดั่งเช่นขบวนการโจรใต้กระทำอยู่ทุกวันนี้ พื้นที่แห่งนี้ต้องการสันติสุข สุดท้ายมุสลิมด้วยกันก็จะต้องปฏิบัติตามหลักศาสนาที่ถูกต้องตามที่องค์อัลเลาะห์ได้ทรงบัญญัติไว้ เพื่อความเป็นเอกภาพ ในการกลับไปรับใช้พระองค์

*****************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น