‘แบมะ ฟาตอนี’
จากข่าวสารเว็บไซต์ออนไลน์
ของสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. นำเสนอข่าว ดร.ตายูดิน อุสมาน
ประธานหลักสูตรสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีเหตุคนร้ายใช้โรงพยาบาลเจาะไอร้องเป็นฐานที่มั่นเพื่อโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งฐานปฏิบัติการติดโรงพยาบาล
แนะ รัฐ สร้างฐานปฏิบัติการไกลสถานที่เป้าหมายอ่อนแอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน วัด
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ www.innnews.co.th
ผู้เขียนเห็นว่า
ดร.ตายูดิน อุสมาน ควรแนะกลุ่ม ผกร. เลิกใช้มัสยิด
สถาบันปอเนาะในการซ่องสุมกำลังทำร้ายประชาชน
แทนการแนะรัฐสร้างฐานปฏิบัติการไกลสถานที่เป้าหมายอ่อนแอดีกว่ามั๊ย!! หรือจะให้ยกตัวอย่างประเด็นปอเนาะญิฮาดรื้อฟื้นความจำถึงผลกระทบที่ตามมา
และเป็นปัญหาคาราคาซังมาจนถึงปัจจุบันนี้
เนื้อหาใจความหลัก
ดร.ตายูดิน อุสมาน ได้กล่าวถึงเหตุความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ล่าสุดว่า มาจากการแสดงสัญลักษณ์เนื่องในวันครบรอบการสถาปนาของกลุ่ม BRN กลุ่มผู้ก่อเกตุมีจุดมุ่งหมายที่จะโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นส่วนใหญ่
เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนการสร้างฐานทหารให้อยู่ห่างไกลจากสถานที่เป้าหมายอ่อนแอ
เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน วัด ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจ
การแสดงออกของนักวิชาการย่อมมีสิทธิที่พึงกระทำได้
แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความเคารพอาจารย์ท่านดังกล่าวได้มองปัญหารอบด้านหรือยัง
การแสดงความคิดของท่านกึ่งเรียกร้องและชี้นำต่อรัฐ ทั้งๆ
ที่แก่นแท้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นสิบกว่าปีมาจากฝ่ายไหน
ผู้เขียนจะยกตัวอย่างความรุนแรงที่กลุ่มขบวนการโจรใต้ได้กระทำต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ทำลายสถานที่พยาบาล เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 8 ส.ค.50 เวลาประมาณ 13.00 น.
กลุ่มขบวนการโจรใต้ได้บุกยิงเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยประจัน บ้านบราโอ ตำบลประจัน
อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ระหว่างที่เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนสถานีอนามัย
ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตทันที 2 ราย ได้แก่ นายเบญจพัฒน์ แซ่ติ่น
ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขระดับ 5 และ นางอัจฉรา สกนธวุฒิ
ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารสาธารณสุขระดับ 7 ซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีอนามัยแห่งนี้
หลังจากนั้น ก่อนหลบหนีกลุ่มขบวนการโจรใต้ยังได้ทำการเผาสถานีอนามัยได้รับความเสียหายอีกด้วย
ที่ยกตัวอย่างไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่กลุ่มขบวนการได้กระทำ
สถานีอนามัยของกระทรวงสาธารณสุข ถูกเผา วางเพลิง ระเบิด
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขถูกทำร้ายบาดเจ็บ และเสียชีวิต นอกจากนี้ มีอาสาสมัครสาธารณสุข
หรือ อสม.ซึ่งเป็นกำลังภาคประชาชนที่สำคัญในการเชื่อมต่อกับชุมชน ยังมิวายถูกทำร้าย
ทุกครั้งที่กลุ่มขบวนการกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ
กลับกลายเป็นว่าเป็นความผิดของรัฐแทบทุกครั้งในสายตาของนักวิชาการเหล่านี้
การตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในที่ชุมชน โรงพยาบาล โรงเรียน และวัด
เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และมีเหตุผลเพียงพอเนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ครู บุคลากรทางการศึกษา พระภิกษุสงฆ์โดนคุกคามทำร้ายมานักต่อนักแล้ว
หากรัฐทำตามคำเรียกร้องของนักวิชาการ
และนักเคลื่อนไหวบางกลุ่มก็เท่ากับว่าเข้าทางโจร
ให้ทำการฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ตามอำเภอใจ โดยเฉพาะชุมชนชาวไทยพุทธ
หรือไม่เว้นแม้พี่น้องชาวไทยมุสลิมยังถูกระทำ
ในทางกลับกันหากย้อนไปดูพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการ
BRN
ที่ใช้โรงเรียนปอเนาะ มัสยิดในการฝึกคอมมานโด ซ่องสุมกำลัง
ผลิตระเบิด และใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัว เคยออกมาเรียกร้องมั๊ย!!
เท่ากับว่ากลุ่มขบวนการใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นโล่มนุษย์ อีกทั้งนักวิชาการ
นักศาสนาต่างดาหน้าออกมาปกป้องเจ้าหน้าที่รัฐเหยียบย่ำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สถานที่ประกอบศาสนกิจ
และไม่ให้เกียรติและเคารพต่อศาสนาอิสลาม
การแสดงความคิดเห็นของ
ดร.ตายูดิน อุสมาน ประธานหลักสูตรสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ที่มีลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง มีวิสัยทัศน์และมุมมองที่แคบเท่านี้เองหรอ
เสียดายเงินภาษีของประชาชน และงบประมาณในการจ้างอาจารย์ระดับด๊อกเตอร์
แต่ความคิดความอ่านอ่อนหัดเหมือนเด็กมัธยม
ใครคิดจะส่งบุตรหลานไปร่ำเรียนหนังสือกับด๊อกเตอร์ท่านนี้ควรที่จะคิดทบทวนเสียใหม่
มิเช่นนั้นเรียนจบออกมาจะไม่มีความรู้ติดตัวมาเลย..เสียเวลาเปล่า
------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น