3/20/2559

ผลตรวจปลอกกระสุนชี้ชัดคนร้ายบุก รพ.เจาะไอร้องเป็น กลุ่ม ผกร.

แบมะ ฟาตอนี

ผลตรวจปลอกกระสุนปืนที่กลุ่มคนร้ายบุก รพ.เจาะไอร้องแล้วทำการกราดยิงทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 7 นาย รวมทั้งทำการก่อเหตุอีก 2 จุด ใน อ.เจาะไอร้อง พบความเชื่อมโยงคดีสำคัญ  หลายคดีชี้ชัดเป็นการกระทำของกลุ่ม ผกร. ถามหาความรับผิดชอบของกลุ่มผู้ไม่หวังดีในการปล่อยข่าวลือกล่าวหาว่ารัฐจัดฉากทำการก่อเหตุเรียกงบ
จากรูปแบบยุทธวิธีในการก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย หากมองด้วยใจที่เป็นธรรมไม่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทุกคนย่อมรู้ดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่ม ผกร. แต่กลับมีกลุ่มบุคคลผู้ที่   ไม่หวังดีต่อรัฐต่อประเทศชาติจ้องทำลายและลดความน่าเชื่อถือกล่าวหาด้วยใจที่เอนเอียง

แต่ความเคลื่อนไหวในฝากฝั่งกลุ่มขบวนการกลับออกมายอมรับความจริงซึ่งขัดแย้งกับ นักเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่พยายามโยนความผิด ล่าสุด นายกามาลุดดีน ฮานาฟี แกนนำกลุ่ม BIPP ในฐานะสมาชิก MARA PATANI อ้างถึงกรณีคนร้ายใช้โรงพยาบาลเพื่อโจมตีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 โดยยอมรับว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักศาสนาอิสลามแม้จะมีเป้าหมายการต่อสู้ที่ดีก็ตาม

การโจมตีค่ายทหารของศัตรู ถือเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามแนวทางอิสลาม แต่การเริ่มต้นด้วยการใช้โรงพยาบาลซึ่งเป็นสถานที่สาธารณะไม่เพียงผิดหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ แต่ยังผิดหลักการสู้รบของศาสนาอิสลามด้วย ในขณะเดียวกัน แม้เรามีความพยายามอย่างยิ่งเพื่อได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ยิ่งห่างไกลการสนับสนุนดังกล่าว ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่นักต่อสู้ปาตานี ทุกกลุ่มต้องหันมาทบทวนการต่อสู้ของตัวเอง เพื่อความถูกต้องตามแนวทางอิสลาม


ในขณะเดียวกันหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนจากผลการตรวจปลอกกระสุนของ ศพฐ.10 ซึ่งเป็นหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในเบื้องต้นจากการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนกว่า 1,825 ปลอก ที่คนร้ายเกือบ 40 คน บุกโรงพยาบาลเจาะไอร้องใช้อาวุธปืนสงคราม 8 ชนิดด้วยกันทำการกราดยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน อีกทั้งพบความเชื่อมโยงคดีสำคัญตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบันถึง 25 คดี หนึ่งในคดีสะเทือนขวัญและเป็นคดีสำคัญ เมื่อ 29 ธันวาคม 2558 เวลา 11.10 น.กลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน ได้เดินเท้ามาจากภูเขาด้านหลัง อบต.ร่มไทร   อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จับตัวนายบุญเลิศ จินดาธนะนันท์ ปลัด อบต.ร่มไทร มัดมือไขว้หลังแล้วจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยมเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

อาวุธปืนที่คนร้ายแบกลงจากเทือกเขาตะเวบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้องเพื่อทำการก่อเหตุในครั้งนี้ประกอบไปด้วย อาวุธปืน เอ็ม.16 เอชเค.33 MINIMI เอเค.102 เอเค.47 ปืนกลเบา เอ็ม.60 UZI ขนาด 9 มม.และ ขนาด 40 มม.

โดยเฉพาะประเด็น อาวุธปืนกลเบา M.60 หลังเกิดเหตุถึงกับมีกลุ่มบุคคลซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสื่อมวลชนที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับรู้อย่าง นายทวีศักดิ์ ปิ บรรณาธิการสำนักข่าว Wartani และสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน ถึงกับยอมหักปากกาผิดจรรยาบรรณสื่อ ออกมาชี้นำทางความคิดว่า กระสุนปืนที่พบในโรงพยาบาลเป็นกระสุนมาตรฐานของกองทัพที่ใช้กับอาวุธปืนกลเบา เอ็ม.60 และไม่เคยได้ข่าวว่ากลุ่มคนร้ายได้ทำการปล้นอาวุธปืนดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบข้อมูลความเชื่อมโยงของคดีต่างๆ ที่คนร้ายเคยก่อเหตุ จะพบว่าคดีทั้งหมด   เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 29 ราย (ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่ทหารพราน 7 นาย) และเสียชีวิต จำนวน 13 ราย

เหตุการณ์ที่กลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ทำการก่อเหตุในปี 2554 จำนวน 6 คดี ปี 2555 จำนวน 2 คดี      ปี 2556 จำนวน 6 คดี ปี 2557 จำนวน 2 คดี ปี 2558 จำนวน 8 คดี ปี 2559 จำนวน 1 คดี และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 กลุ่มคนร้ายได้ทำการก่อเหตุยิงฐานเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ. หน้าสถานีรถไฟ, ยิงฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4816 เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 7 นาย และทำการลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน 48 ในพื้นที่บ้านยานิง บริเวณ  คอสะพานตลาดบ้านยานิง ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวคนร้ายที่กระทำความชั่วเหล่านั้นมาลงโทษดำเนินคดี ล่าสุดวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2559 พันเอกยุทธนาม เพชรม่วง หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดเผยความคืบหน้าของคดี คนร้ายบุกยึด รพ.เจาะไอร้องเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ร่วมก่อเหตุได้เพิ่มเติมอีก 4 ราย รวมทั้งหมดที่จับกุมได้ขณะนี้ 9 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการซักถามข้อมูลเพื่อสอบสวน ขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

----------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น