3/07/2559

“บีอาร์เอ็น”ขบวนการที่ฝักใฝ่ความรุนแรงและบิดเบือนศาสนา

แบมะ ฟาตอนี

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมาศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมชายแดนใต้ จัดงาน วันสื่อสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี ครั้งที่ 3 และสมัชชาสันติภาพ 2016” ที่ห้องประชุมใหญ่ คณะวิทยาการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
พลโทนักรบ บุญบัวทอง ตัวแทนคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ อาวัง ญาบัต ประธานสภาชูรอแห่งปาตานี (MARA PATANI) และดาโต๊ะ ซัมซามิน บิน ฮาซิม ผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ได้เข้าร่วมทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายขบวนการ ขณะที่ผู้ดินทางมาไม่ได้ มีการส่งเทปวีดีโอมาเปิดในงานดังกล่าว

ภาพรวมทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการจัดงานในครั้งนี้ ทิศทางสันติภาพจากการจับกระแสและท่าทีของทั้งสองฝ่ายน่าจะเป็นไปด้วยดี มีการกล่าวความถึงความก้าวหน้าและสานต่อในการพูดคุยต่อไป

จุดสนใจและบุคคลที่น่าจับตามากที่สุดของงานนี้ อยู่ที่การเปิดเทปวีดีโอปาฐกถาของ นายอาวัง ญาบัต ประธานมาราปาตานี (MARA PATANI) สาระสำคัญที่ นายอาวัง ได้กล่าวคือ ความผิดพลาดที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดการพูดคุยเจรจามีประสิทธิภาพสูงสุด ความขัดแย้งและอุดมการณ์ เป็นสิ่งท้าทาย รัฐบาลไทยประสบกับการเปลี่ยนรัฐบาล แต่การเจรจาจะต้องเดินหน้าและให้อยู่ในนโยบายต่อไป

คำกล่าวที่ฟังแล้วระรื่นหูดูดี จุดประกายความหวังสันติภาพให้กับประชาชนปาตานี คงเดินหน้าไปตามโรดแมปที่ได้มีการกำหนดเอาไว้ แต่ในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่การปาฐกถาของประธานมาราปาตานีนั้น บนตู้หนังสือฉากหลังปรากฏว่า มีหนังสือชื่อ “Fiqh Jihad” (ฟิกห์ญิฮาด) แปลว่า ศาสนาบัญญัติว่าด้วยการญิฮาดซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ถูกจับวางไว้อย่างตั้งใจในจุดที่โดดเด่นของเฟรมวิดีโอ ถึง 2 เล่มด้วยกัน พร้อมทั้งหันหน้าปกออกมาให้เห็นชัดเจน โดยหนังสืออีกเล่มที่หันหน้าปกออก คือ คัมภีร์อัลกุรอาน ขณะที่เล่มอื่นๆ ล้วนหันสันปกออกทั้งสิ้น


วันที่ 5 มีนาคม www.abnewstoday.com (ความจริงในโลกอิสลามวันนี้) ได้มีการเขียนวิเคราะห์ บีอาร์เอ็นส่งรหัสสำคัญ ยึดแนวทางญิฮาดตามแบบวะฮาบีตักฟีรีส่งสัญญาณชัดบีอาร์เอ็นยึดแนวทางต่อสู้และญิฮาดตามแบบนิกายวะฮาบีตักฟีรี

ความตั้งใจหรือความไม่ตั้งใจ แต่เสมือนหนึ่งว่าขบวนการบีอาร์เอ็นมีเจตนาส่งสัญญาณสำคัญบางอย่างผ่านปกหนังสือที่อยู่บนชั้นเหนือศีรษะของ นายอาวัง ญาบัต

หลังจากคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป เหตุการณ์ความรุนแรงที่ตามมาช่างบังเอิญประจวบเหมาะเมื่อสมาชิกบีอาร์เอ็นในพื้นที่ได้ทำการก่อเหตุต่อชาวไทยพุทธ โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม แค่วันเดียวมีผู้เสียชีวิตถึง 4 รายด้วยกัน ฆ่าแล้วเผาเจ้าของสวนยางที่ยะหา ยิงพนักงานการไฟฟ้าขณะกำลังปฏิบัติงานในพื้นที่ อ.ยะรังดับ ยิงอดีต ผกก.ยะรังแล้วเผาขณะปั่นจักรยานออกกำลังกาย ยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.ทพ.41 เสียชีวิตที่ยะลา ถัดมาวันที่ 4 มีนาคม ยิงไปรษณีย์ชาวไทยพุทธเสียชีวิตขณะนำจดหมายมาส่งในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และวันที่ 5 มีนาคมทำการขว้างระเบิดใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ยะลาแต่ระเบิดไม่ทำงาน

นั่นคือเหตุร้ายที่สมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น ได้มุ่งหมายเอาชีวิตของคนต่างศาสนาด้วยความโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน และสุดโต่ง แสดงให้เห็นถึงการสอดรับจากการส่งรหัสสำคัญของ นายอาวัง ญาบัต ที่จะใช้แนวทางญิฮาดตามแบบวะฮาบีตักฟีรีหากเป็นเช่นนั้นจริงแนวทางของขบวนการบีอาร์เอ็นเป็นขบวนการที่ฝักใฝ่ความรุนแรง และบิดเบือนหลักศาสนา

ขบวนการบีอาร์เอ็น นอกจากฝักใฝ่ความรุนแรง และบิดเบือนหลักศาสนาแล้ว ยังได้ทำการปลุกจิตสำนึกในเรื่องของความแปลกแยกในสังคมไทยพุทธ  และรัฐไทย ปลุกระดมเยาวชนในเรื่องของความแปลกแยกซึมซับเข้าไปอยู่ในจิตสำนึก จนกลายเป็นความเคยชินในการใช้ชีวิตประจำวันให้มีความหวาดระแวงต่อคนไทยพุทธ และรัฐไทย ไม่ให้เชื่อรัฐไทย ห้ามพูด ห้ามฟังภาษาไทย ไม่ให้มีความปรองดองคบค้าสมาคมกับคนต่างศาสนา ไม่เอาเขตปกครองพิเศษต้องเอกราชเท่านั้น และปลุกปั่นไม่ให้ยอมรับการปกครอง และกฎหมายของรัฐบาลไทย

ที่กล่าวมาคือแนวทางของขบวนการบีอาร์เอ็นที่มีการปลูกฝังความคิดความเชื่อมากว่า 20 ปี การพูดคุยสันติสุข เพื่อนำพาสันติภาพที่กำลังดำเนินการอยู่ในความเป็นจริงความรุนแรงน่าจะยุติและดำเนินไปตามครรลองบนโต๊ะเจรจา แต่เป็นเพราะการเสพติดอยู่กับการฝักใฝ่ความรุนแรง และการบิดเบือนหลักศาสนามาโดยตลอด ฤา การกล่าวของ นายอาวัง ญาบัต ผ่านคลิปที่ว่า ความผิดพลาดที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดการพูดคุยเจรจามีประสิทธิภาพสูงสุด ความขัดแย้งและอุดมการณ์ เป็นสิ่งท้าทาย รัฐบาลไทยประสบกับการเปลี่ยนรัฐบาล แต่การเจรจาจะต้องเดินหน้าและให้อยู่ในนโยบายต่อไปเป็นแค่ละครตบตาแต่หลังฉากยังนิยมความรุนแรง.

------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น