"Ibrahim"
วาทกรรม"
แปลมาจากคำว่า discourse
แนวคิดเรื่องวาทกรรมที่นักวิชาการไทยนำมาเผยแพร่ราว พ.ศ. 2524-2525
นี้เป็นของมิเชล ฟูโก้ (Michel Foucault) ซึ่งพยายามเชื่อมโยงเรื่องสำคัญ
3 เรื่องเข้าด้วยกันนั่นคือ ความรู้ อำนาจและความจริง
กล่าวโดยรวมๆ ได้ว่าวาทกรรมเป็นการสร้างความรู้
การผลิตความรู้หรือการนิยามความรู้บางอย่างขึ้นมาเพื่อให้มีอำนาจในการกำหนดความจริง
(จากบล็อก OK Nation http://www.oknation.net/blog/print.php?id=281466 )
“การสร้างวาทกรรมในการรายงานข่าวนั้น
ไม่ว่าจะเป็น โจรใต้ หรืออะไรก็แล้วแต่ มันคือการตราหน้าแก่คนในสังคมนั้น
เราจำเป็นต้องสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม
มนุษย์จึงจะได้เห็นถึงคุณค่าของคนในสังคมผ่านการรายงานข่าวของเรา
สื่อภาคพลเมืองคือผู้จุดประกายเรื่องราวให้สังคมได้นำไปขยายโดยหวังเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าให้สังคมต่อไป”
นั่นคือคำพูดที่ออกจากปากของ
นายทวีศักดิ์ ปิ อดีตบรรณาธิการสำนักสื่อวาร์ตานี “ทำไมต้องมีสื่อภาคพลเมือง:
บันทึกจากอิสาน”ข้อคำถามจากสื่ออิสานถึงสื่อปาตานี
วาทกรรมหลายๆ
วาทกรรมที่ก่อเกิด จนกระทั่งมีการพูดกันปากต่อปาก วาทกรรมเหล่านี้มาจากไหน? ใครเป็นคนต้นคิด
วาทกรรม “โจรใต้” ที่นายทวีศักดิ์ ปิ
ได้จุดกระแสว่าเป็นการตราหน้าแก่คนในสังคม อีกทั้งเรียกร้องไปถึงการสร้างความเท่าเทียมในสังคมมนุษย์
ตกลงมันเป็นอย่างไร? ใครตราหน้าใคร?
กลุ่มขบวนการที่มีพฤติกรรมสุดโต่ง
เข่นฆ่าผู้คนอย่างเลือดเย็น ไม่แยกแยะเป้าหมาย แม้กระทั่งเด็ก สตรี และคนชรา
ทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ สร้างความเสียหายให้แก่บ้านแก่เมือง
เมื่อมีการใช้คำว่า “โจรใต้” ทำไม? ถึงเป็นเดือดเป็นแค้นแทนกลุ่มขบวนการ ชี้ให้เห็นเป็นการตราหน้าแก่คนในสังคม
แล้วกับการกระทำชั่วในการสร้าง “ตราบาป”ของกลุ่มขบวนการต่อผู้ที่สูญเสียล่ะ!! อยากถามไปยัง
นายทวีศักดิ์ ปิ อย่างไหน? ที่สมควรเรียกร้องมากกว่ากัน!!
หรือจะให้เปลี่ยนวาทกรรมจากคำว่า“โจรใต้”เป็น“คุณโจร”หรือ“นักรบฟาตอนี”แทน ซึ่งเป็นวาทกรรมที่กลุ่มขบวนการและแนวร่วมยกย่องผู้ร้ายกลุ่มนี้มาตลอดไม่ใช่หรือ!!
ไม่น่าเชื่อว่า
นายทวีศักดิ์ ปิ จะมีความคิดเยี่ยงนี้ ที่จริงแล้วผู้เขียนไม่อยากให้ราคาค่างวดสักเท่าไหร่?
ไม่อยากตอบโต้ด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกลึกๆ บอกเลยไม่ใช่คำว่า“โจรใต้”คือ“โจรใต้”วันยังค่ำเพราะพฤติกรรมมันบ่งบอกว่ากลุ่มคนไม่ดีกลุ่มนี้ไม่สมควรยกย่องให้เป็น“นักรบ”
วาทกรรมที่ใช้กันเคยชินได้แก่
“สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” กระบวนการพูดคุยสันติภาพซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการบัญญัติคำใหม่ขึ้นมาแทนเป็น
“กระบวนการพูดคุยสันติสุข”มีการกล่าวถึง
“พื้นที่ปลอดภัย”นำไปสู่สันติสุขที่ยั่งยืน
ด้วยการก้าวข้ามความขัดแย้งไปสู่ช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านร่วมกันของทุกภาคส่วน
การช่วงชิงความหมายระหว่าง
“กบฏ” กับ “ผู้ปลดปล่อย”
หรือ “โจรใต้” กับ “ผู้ปลดปล่อยประชาชาติปาตานี” ที่จะถูกตอกย้ำอย่างซ้ำๆ
ในวิถีแห่งชีวิตประจำวันจนสามารถติดตั้งและซึมลึกสู่วิถีชีวิตของผู้คนสามัญจนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาเป็นที่ยอมรับ
การใช้วาทกรรมคำว่า
“ปาตานี”(PATANI) ไม่ใช่ปีกการเมืองกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นหรอกหรือ?
ที่ริเริ่มใช้วาทกรรมคำนี้
คำว่า “ปาตานี”(PATANI) เริ่มพบเห็นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยองค์กรที่เรียกตัวเองว่า
“นักกิจกรรม” ในพื้นที่ เช่น
ปาตานีฟอรั่ม และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาและนักเรียนปาตานี หรือ PerMAS และล่าสุดคือการรวมตัวของกลุ่มผู้คิดต่างคือ กลุ่ม มารา ปาตานี
จึงทำให้คำว่า ปาตานี
นอกจากนี้ยังมีวาทกรรมอีกมากมายที่ได้มีการคิดขึ้นมาใช้เพื่อทำการต่อสู้
ทำการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิในการกำหนดใจตนเองของกลุ่มปีกการเมืองบีอาร์เอ็น
แต่น่าแปลกใจที่ นายทวีศักดิ์ ปิ ไม่ได้กล่าวถึง แต่กลับมาเรียกร้องวาทกรรม “โจรใต้” แทนกล่าวหาว่าเป็นการตราหน้าแก่ผู้คนในสังคม
จะด้วยเหตุผลกลใดมิทราบได้ แต่ที่แน่ๆ ความเชื่อมโยงขององค์กรภาคประชาสังคม
องค์กรสื่อภาคพลเมืองมีความสนิทแนบแน่นแทบเป็นเนื้อเดียวกัน จึงไม่แปลกที่เอื้อและสนับสนุนต่อกัน.
----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น