"Ibrahim"
13 ปีไฟใต้ ปัญหาที่รุมเร้าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบันไม่ได้มีแค่เฉพาะปัญหาความ ไม่สงบที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหยิบยื่นให้กับประชาชนแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบที่ยืดเยื้อมายาวนานนั้น กลับมีปัญหาอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่
และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และหนึ่งในนั้นคือ‘ปัญหายาเสพติด’
จากสถิติการจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ
4
อำเภอของ จ.สงขลา ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าวโดยการนำเสนอของสื่อต่างๆ
นั้น จะเห็นได้ว่ามีการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ๆ ยึดของกลางได้เป็นจำนวนมากโดยยอดการจับกุมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค
9 พบว่ายาเสพติดประเภทพืชกระท่อม เป็นที่นิยมของกลุ่มวัยรุ่นตลอดจนเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
รองลงมาคือ “ยาบ้า” โดยมี จ.นราธิวาส เป็นแหล่งพักยาขนาดใหญ่
แต่ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือกลุ่มเด็กและเยาวชนชายแดนใต้ซึ่งเป็นวัยที่มีความเสี่ยง
ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ที่กำลังเบ่งบานท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรง
และความขัดแย้ง
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่เอื้อต่อการแพร่กระจายหรือขนย้ายยาเสพติดหรือไม่?
เคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่าปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดอย่างหนักในพื้นที่ชายแดนใต้
มีผู้ที่มีความคิดต่างจากรัฐ
หรือกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมบางกลุ่มได้ตั้งข้อสังเกตว่าเล็ดลอดเข้ามาได้อย่างไร?
หรือหนักไปยิ่งกว่านั้นกลับกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
นั่นเป็นมุมมองของกลุ่มคนที่จ้องทำลายและพยายามบิดเบือนโยนผิดให้เจ้าหน้าที่
แต่ความจริง เป็นเช่นไร?
ในมุมมองหนึ่ง
ปัญหาความไม่สงบเป็นปัจจัยในการเพิ่มยาเสพติดด้วยเช่นกัน
เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทุ่มเทกำลังไปทำงานในเรื่องของการเฝ้าระวังการก่อเหตุร้าย
ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการปราบปรามยาเสพติด
ยังเกี่ยวโยงถึงประเด็นหนึ่งก็คือ
บางพื้นที่ที่เป็นหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เป็นหมู่บ้านจัดตั้งของกลุ่มขบวนการ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไม่ค่อยถึง
เนื่องจากมีความไม่ปลอดภัย การจะเข้าไปขอความร่วมมือจากประชาชนให้รวมตัวกันต้านภัยยาเสพติดก็ทำได้น้อยลง
กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น
มีส่วนเกี่ยวข้องปัญหายาเสพติดหรือไม่?
เมื่อนักค้ายาเสพติดทำการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาเป็นจำนวนมากๆ
จะมีแหล่งพักยา ซึ่งแหล่งใหญ่มีทั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งไทย
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และฝั่งประเทศมาเลเซีย
ในฝั่งไทยโดยเฉพาะหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดตั้งของกลุ่มขบวนการ คือเป้าหมายหลักในการพักยาเสพติด
เนื่องจากความยากลำบากในการเข้าถึง เพราะฉะนั้นคำถาม กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น
มีส่วนเกี่ยวข้องปัญหายาเสพติดหรือไม่? คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่านอกจากทำการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนแล้ว
ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดอีกด้วย เรามาดูเหตุและผลกัน
ในหมู่บ้าน (กำปง) เล็กๆ ใครค้าใครเสพ
ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นย่อมรู้ดีว่ามีใครบ้าง
โดยเฉพาะตัวการใหญ่นักค้ายาเสพติดรายสำคัญๆ
กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นรู้เห็นเป็นใจกับนักค้ายาเสพติด
เนื่องจากรายได้จากการค้ายาเสพติดเป็นท่อน้ำเลี้ยง
เป็นเส้นโลหิตหล่อเลี้ยงกลุ่มขบวนการในการจัดซื้อ จัดหาอาวุธปืน
สารตั้งต้นประกอบวัตถุระเบิดนำไปสู่การก่อเหตุร้าย โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่มีการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงจากนักค้ายาเสพติดรายใหญ่
กลุ่มและองค์กรปีกการเมืองของกลุ่มขบวนการทั้งหลายที่เรียกร้อง
PATANI-MERDEKA
หันกลับไปเรียกร้อง
MERDEKA-ยาเสพติด
ก่อนดีมั๊ย!! เพราะมัจจุราชตัวจริงที่ทำลายชีวิตทำลายอนาคตของลูกหลานเราคือ
‘ยาเสพติด’ และให้จับตาดู‘กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น’
ให้การหนุนหลังสนับสนุนนักค้ายาเสพติดจริงหรือ? ทำไม? บีอาร์เอ็นถึงนิ่งดูดายทั้งๆ
ที่รู้ว่าใคร? เป็นคนค้า หรือจะเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า..ฝากเป็นข้อคิดช่วยกันติดตามตรวจสอบกระชากไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังให้สังคมได้รับรู้.
----------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น