"Ibrahim"
ในอดีตกาลคำว่า“ปาตานี”น่าจะมาจากการเกิดขึ้นของ“อาณาจักรปาตานี ดารุสสาลาม”ซึ่งในราวปี
ค.ศ.1457 มีกษัตริย์จากราชวงศรีวังสา (Seri Bangsa) ปกครองรวมระยะเวลากว่า
2 ศตวรรษ 9 รัชกาล อาณาจักรแห่งนี้ได้ผ่านยุครุ่งเรืองและตกต่ำในสมัยต่างๆ
กระทั่งถูกแบ่งแยกออกเป็น 7 หัวเมืองยุคอาณาจักรสยาม กลายเป็น เมืองปัตตานี
หนองจิก รามันห์ ยะลา สายบุรี ยะหริ่ง และระแงะ คำว่า"ปาตานี"เริ่มถูกเปลี่ยนมาเป็นคำว่า "ปัตตานี" และต่อมา หลังถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยามเต็มรูปแบบ
จึงกลายเป็น "จังหวัดปัตตานี"
และเมื่อเกิด“ปัญหาไฟใต้” รอบใหม่นี้ คำว่า“ปาตานี”เริ่มถูกพูดถึงในแวดวงต่างๆ มากขึ้น
ทั้งในพื้นที่ไม่เป็นทางการ และพื้นที่เป็นทางการ คำว่า“ปาตานี”ถูกท้าทายจากกระแสสังคมในพื้นที่และสังคมใหญ่
จากการจัด เสวนาปาตานีฟอรั่ม
มูลนิธิอาจารย์ฮัจญีสุหลง อับดุลกอเดร์ โต๊ะมีนา กลุ่มมีเดียสลาตัน
สายบุรีลุคเกอร์ ฯลฯ ได้จัดวงเสวนา“ปาตานี” นามนั้นสำคัญไฉน และได้กล่าวถึงกรอบพื้นที่ของคำว่า "ปาตานี" ที่ทับซ้อนอยู่ในภาพปัจจุบัน คือ การครอบคลุมพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา
นราธิวาส และบางส่วนของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อำเภอเทพา จะนะ สะบ้าย้อย นาทวี และสะเดา
ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และรวมถึงรัฐกลันตัน รัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งในอดีตพลเมืองยุคอาณาจักรปาตานีดารุสสาลาม
เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และศาสนามีทั้งผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม และศาสนาอื่นๆ รวมถึงศูนย์รวมชาวต่างชาติ
ไม่ว่าจะเป็น ชาวจีน สยาม ยุโรป ญี่ปุ่น ชวา อาหรับ อินเดีย ฯลฯ
นายนญีบ บิน
อะหมัด นักวัฒนธรรมท้องถิ่นมลายู มองคำว่าปาตานีว่าไม่ได้สำคัญที่นาม
แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ความโดยส่วนตัวเขามองว่า ปาตานี มาจากคำว่า ออแฆตานิง-ชาวตานิง ซึ่งก็คือชาวปาตานีในภาษามลายูนั่นเอง
คำว่า ปาตานี
เริ่มพบเห็นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อ 5
ปีที่ผ่านมาในกลุ่มนักกิจกรรมในพื้นที่ เช่น ปาตานีฟอรั่ม
และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาและนักเรียนปาตานี หรือ PerMAS และล่าสุดคือการรวมตัวของกลุ่มผู้คิดต่างเป็นกลุ่ม
มารา ปาตานี จึงทำให้คำว่า ปาตานี ถูกตีความไปในความหมายของการต่อสู้ของขบวนการ
การเมือง และการแบ่งแยกดินแดน ทั้งๆ ที่ในความรู้สึกของคนในพื้นที่ มองคำนี้ในความหมายของ "คน" ไม่ใช่ในเรื่องของดินแดน
“ปาตานี” คำนี้หมายถึงอะไรในมุมมองของคนไทยพุทธ
ความเห็นส่วนตัวต่อคำว่าปาตานีในฐานะคนไทยพุทธ
ที่เกิด โต และอยู่ที่นี่ มองว่าคำๆ นี้เป็นคำที่ ผกร. รวมทั้งภาคประชาสังคม
และกลุ่มนักศึกษา ที่ต้องการแบ่งแยกประเทศผ่านแนวทางการกำหนดใจตนเอง
พยายามรณรงค์ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมของความเป็นชาติให้กับคนในพื้นที่
เพื่อที่ว่าเมื่อถึงวันที่โอกาสการลงประชามติเลือกรูปแบบการปกครอง 3
จังหวัดมาถึงจริงๆ ประชาชนจะได้เลือกตามแนวทางที่คนกลุ่มนี้ต้องการ ซึ่ง
ก็คือการเป็นเอกราชนั่นเอง เพราะถ้าไม่สร้างความรู้สึกร่วมของความเป็นชาติ
ต่อให้มีโอกาสได้ลงประชามติจริง
แต่ประชาชนไม่มีเป้าหมายและความรู้สึกร่วมกันมันก็ไร้ประโยชน์
แล้วคำว่า“ปาตานี”หมายถึงอะไร
ความรู้สึกมันบอกให้เชื่อว่า“ปาตานี”หมายถึงคนมุสลิมมลายู
ที่พูดภาษามลายู และหมายถึงพื้นที่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และ 4 อำเภอของสงขลา คือ
จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี ที่กลุ่มต่อสู้ได้อ้างสิทธิความเป็นเจ้าของมาโดยตลอด
และไม่ครอบคลุมถึงคนไทยเชื้อสายอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่นี้ในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธ ไทยจีน หรือไทยคริสต์
แล้วความรู้สึกและความเชื่อที่ว่านี้มาจากไหนล่ะ
มันก็มาจากการสิ่งที่ ผกร. ภาคประชาสังคม และกลุ่มนักศึกษาในนาม“ปาตานี”ทั้งหลายได้พูดและแสดงออกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั่นแหละ
เริ่มที่
ผกร.อย่างเช่น BRN
ก่อนเลย ชัดเจนว่าเป้าหมายสุดท้ายคือเอกราชเท่านั้น และ ถ้าไม่พูดถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ทหาร
ตำรวจ แล้ว กลุ่มคนที่ถูกลอบยิง ลอบวางระเบิดส่วนใหญ่คือ
คนไทยพุทธ/คนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นคนกาเฟร์ในทัศนะของพวกเขาอยู่แล้ว
โดยที่คนมลายูมุสลิมอาจโชคร้ายโดนลูกหลงในหลายๆ โอกาส
ส่วนคนไทยมุสลิมที่โดนลอบยิงด้วยนั้น ก็มักเป็นคนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หรือไม่สนับสนุน
BRN จึงยืนยันชัดเจนว่า คนไทยพุทธ/คนไทยเชื้อสายจีน
ไม่ใช่คนปาตานีในความหมายของ BRN
ต่อมาก็ภาคประชาสังคม
และกลุ่มนักศึกษา ตัวอย่างที่ระบุชัดเจนคือกลุ่ม PerMAS ซึ่งกล่าวถึงความเป็นปาตานีว่า
“พูดภาษามาลายูตานิง , ตระกูลตานี,
Budaya (วัฒนธรรม) ตานี , ความเป็นตัวตน,
ประวัติศาสตร์” ส่วนทำไมต้องเป็นปาตานี
นั้น PerMAS บอกว่า “คือความต่างทางประวัติศาสตร์
ภาษา อักษรยาวี ความเป็นตัวตน และลักษณะความเป็นอยู่” ซึ่งชัดเจนว่าทุกความหมายที่กล่าวมาไม่มีที่สำหรับคนที่ไม่มีเชื้อสายมลายู
หรือมีตัวตน และที่มาที่แตกต่าง พูดมลายูไม่ได้ จุดยืนนี้จะไปเหมือนกับที่
นายอับดุลการีม คาลิด ตัวแทน BRN เคยประกาศไว้ในคลิปเมื่อ 7
กันยายนที่ผ่านมา เรื่อง หนึ่งเชื้อชาติ หนึ่งภาษา และหนึ่งเอกราช
นอกจากตัวอย่างที่เห็นชัดเจนเหล่านี้แล้ว
ยังมีการแสดงออกของกลุ่มเหล่านี้ด้วย
ที่ไม่เคยทำให้รู้สึกว่าได้ให้ความสนใจกับคนเชื้อสายอื่น เด็กสาวไทยพุทธอายุ 17 ปี
ถูกไล่ยิงเสียชีวิตอย่างน่าอนาถกลางวันแสกๆ คนไทยพุทธถูกฆ่าแล้วเผาในบ้าน
หรือกลางถนนในหมู่บ้าน
เราเคยเห็นภาคประชาสังคม
กลุ่มนักศึกษาที่เรียกร้องสิทธิกำหนดใจตนเองทั้งหลายแหล่ ลงพื้นที่แสดงความเห็นใจ
รวบรวมข้อเท็จจริง เพื่อนำมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กลุ่มคนที่ทำยุติไหม..
ก็ชัดเจนที่ผ่านมาไม่เคยเห็นภาคประชาสังคม
หรือนักศึกษากลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากคนศาสนาอื่นๆ ที่ไม่ใช่อิสลามไม่ได้สร้างความรู้สึก“ร่วม”ของความเป็น“ปาตานี”เท่านั้นแหละ!!
จึงทำให้มั่นใจว่า“ปาตานี”เป็นวาทกรรมที่เจตนาขับเคลื่อนเพื่อสร้างความรู้สึกร่วมในความเป็นชาติ
รองรับโอกาสการเป็นเอกราชผ่านการกำหนดใจตนเอง และไม่ได้หมายรวมถึงคนเชื้อสายอื่นๆ
ที่อยู่ในพื้นที่ ดังนั้นในฐานะคนนอก... โลกปาตานีจึงอันคับแคบเกินกว่าที่ฉัน และคนไทยพุทธ
คนไทยเชื้อสายจีนหลายๆ
คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยอมรับหรือแทรกตัวเข้าไปได้.
--------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น