กรณีการปะทะ ที่ อ.รามัน เมื่อ 16 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา ทำให้ ผกร.เสียชีวิต 1 ศพ คือ นายกอเซ็ง มิยะ อายุ 40 ปี เป็นสมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความสูญเสีย ที่ไม่มีใครต้องการให้เกิด..ทุกคนเสียใจ เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน ไม่ใช่ชัยชนะของเจ้าหน้าที่รัฐและความภาคภูมิใจใดๆ เลย
การบังคับใช้กฎหมายเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายของเจ้าหน้าที่เป็นความชอบธรรมในการปฏิบัติงาน เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี..แต่ไม่ชอบธรรมสำหรับกลุ่มขบวนการที่ใช้อาวุธในการต่อสู้เจ้าหน้าที่รัฐ จนกระทั่งนำมาสู่ความสูญเสีย
เมื่อ 16 ม.ค. 60 เจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบ ณ บ้านเลขที่ 34/5 หมู่ที่ 3 บ้านสะโลบาแต ตำบลกอตอตือร๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อเปิดทางหนี
เจ้าหน้าที่จึงยิงป้องกันตัวจนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะนานประมาณ 10 นาที หลังจากเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ขั้นต้น พบศพผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ
นาย กอเซ็ง มิยะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่10/4 หมู่ที่ 6 บ้านตลาดล่าง ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอ รามัน จังหวัดยะลา มีหมายจับ ป. วิ อาญา จำนวน 4 หมาย ดังนี้
เจ้าหน้าที่จึงยิงป้องกันตัวจนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะนานประมาณ 10 นาที หลังจากเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ขั้นต้น พบศพผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ
นาย กอเซ็ง มิยะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่10/4 หมู่ที่ 6 บ้านตลาดล่าง ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอ รามัน จังหวัดยะลา มีหมายจับ ป. วิ อาญา จำนวน 4 หมาย ดังนี้
1.หมายจับที่ 280/2549 ลง 27 กรกฎาคม 2549 คดียิงชุดรักษาความปลอดภัยครู ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เมื่อ 27 มิถุนายน 2549
2.หมายจับที่ 427/2549 ลง 11 ตุลาคม 2549 คดีร่วมกันก่อการร้ายพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและผู้อื่น เป็นอั้งยี่และซ่องโจร ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิด ในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อ 15 มิถุนายน 2559
3.หมายจับที่ 743/2551 ลง 28 สิงหาคม 2551 คดีร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เมื่อ 9 มิถุนายน 2551
4.หมายจับที่ 271/2552 ลง 2 กันยายน 2552 คดีร่วมกันก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุน เมื่อ 2 มีนาคม 2551
1.การปฏิบัติงานในครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์กฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย โดยการบังคับใช้กฎหมาย
2.สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือของประชาชนที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนเกิดความเบื่อหน่ายกับการกระทำอันสุดโต่ง และต้องการให้พื้นที่เกิดสันติสุข จึงได้ร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายในพื้นที่ของตนเอง
3.สำหรับการปฏิบัติการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งได้ปฏิบัติตามขั้นตอน ของกฎหมายทุกอย่างแล้ว แต่จำเป็นต้องป้องกันตัวเนื่องจากผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เปิดฉากยิงปืนใส่เจ้าหน้าเพื่อเปิดทางหลบหนี
ทั้งนี้ พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอเชิญชวนให้ผู้ที่หลบหนีอยู่ เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน หรือร่วมแสดงตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ หรือติดต่อโดยตรงได้ที่หมายเลข 092 – 5324989 ซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เพื่อที่จะได้ช่วยกันพัฒนาพื้นที่สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น